ปี่เซี่ยะ เครื่องราง สิ่งประดับ ส่งพลังป้องภยันตภัย

ปี่เซี่ยะ



ก้อง กังฟู
คอลัมน์ เหนือฟ้าใต้บาดาล

           สิงคโปร์....เกาะปลายแหลมมลายู ถือว่าเป็น จุดรวมของธุรกิจในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เลยก็ได้ เพราะจะมี นักธุรกิจจากทุกมุม โลกมักจะนัดแนะกันเอาเมืองนี้เป็นที่เจรจาค้าขาย กันอยู่เป็นประจำ...

           ด้วยฉะนี้อารยธรรมหลายหลากรวมทั้ง แฟชั่นจึงไหลตามเข้ามาสู่นครสิงหะปุระ ส่วนจะมีการซึมซับรับไว้หรือปล่อยผ่านไปก็ ขึ้นอยู่กับความนิยมของกลุ่มชน รุ่น และ วัย

ปี่เซี่ยะ

           ปัจจุบันที่ฮิตเป็นแฟชั่นของวัยรุ่นสิงคโปร์ขณะนี้ คือการ เอาหินหยกแกะสลักตามศิลปะจีนเป็นสัตว์ ในเทพนิยายที่เรียกว่า "ปี่เซี่ยะ" มาห้อยคอแทนล็อกเกต ซึ่งพบเห็นทั่วๆไปตามถนนและห้างสรรพสินค้า

           อาจารย์นพ โพธิรักษ์ โหรใหญ่ ไทยรัฐผู้หยั่งรู้ (บนฟ้ารู้กึ่งหนึ่ง บนดินรู้อีกกึ่งหนึ่ง จึงเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์) บอกกับ "เหนือฟ้า ใต้บาดาล" ถึงความนิยมของวัยรุ่นเมืองรอดช่องว่า...

           "...มันมีความหมายมิใช่เพียงแค่เก๋ไก๋ เท่านั้น เป็นการนำเอา 2 สิ่งมารวมไว้เป็นอันเดียว คือนอกจากความสวยงามแล้วยังได้พลังจากปี่เซี่ยะเพื่อเป็นการล้างซวย (ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะซวยอะไร) ได้อีกทางหนึ่งด้วย..."

           "และ.....ไม่ใช่เป็นการงมงายแต่ อาจเป็นการสืบสานในศรัทธา ก็เป็นได้ โดยเฉพาะ ชาวสิงคโปร์ นั้นส่วนใหญ่มีเชื้อสายมาจากจีน จึงเลื่อมใสต่อเซียนหรือเทพเจ้า และ ศาสตร์ต่างๆที่เป็นของจีน... ทั้งฮวงจุ้ย โหงวเฮ้ง และของศักดิ์สิทธิ์หลากหลาย..."

ปี่เซี่ยะ

           โหรใหญ่ไทยรัฐ ยังได้บอกต่ออีกว่า...ด้วยที่ว่าในยามนี้ธรรมชาติมีอาการปรวนแปร การที่เอาปี่เซี่ยะมาห้อยคออาจไม่ใช่แฟชั่นยอดฮิต แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าพลังของปี่เซี่ยะจะช่วยสลายความเลวร้ายทั้งหลาย มิให้เข้ามากรายใกล้ ก็อาจเป็นไปได้....

           แล้วก็แนะนำว่า....ถ้าสนใจในเรื่องของปี่เซี่ยะให้ไปสอบถามซินแสเสือ ซึ่งมีตำหนักอยู่ที่ 44/131 ซอย 63/1 รามอินทรา กม.6 ท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ...เพราะซินแสท่านนี้เป็นผู้หนึ่งที่นำเอาศาสตร์ของปี่เซี่ยะเข้ามาเผย แพร่ในบ้านเราช่วงยุคต้นๆ......"เหนือฟ้าฯ" จึงไปตามลายแทงของ

           ซินแสเสือ หรือ อาจารย์สกลวัฎ พินธุรักษ์ พอทราบถึงประสงค์ก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลโดยพูดว่า......ก็คงจะรู้จักปี่เซี่ยะกันบ้างแล้ว เพราะในบ้านเราตอนนี้บางวัดที่สร้างขึ้นมา คำว่า "ปี่" หมายถึง กันออกไป ส่วน "เซี่ยะ" คือ สิ่งที่ไม่ดี หรือ เสนียดจัญไร ความหมายในภาพรวมก็คือ.... ป้องกันขับไล่สิ่งที่เป็นเสนียดจัญไรให้ออกไป

ปี่เซี่ยะ

           ปี่เซี่ยะที่จะมีพลังในการขับไล่สิ่งที่ไม่ดี และ นำโชคเข้ามาจะต้องผ่านพิธีกรรมไคกวง (เบิกเนตร) อย่างถูกต้องตามศาสตร์ของจีน หากไม่ผ่านพิธีกรรม หรือพิธีกรรมที่ไม่ถูกต้องพลังก็จะอ่อนหรือว่าไม่มีพลังเลย...เมื่อนำไปใช้ก ็อาจเสมือนกับเครื่องประดับธรรมดาๆ

           ปี่เซี่ยะ... นอกจากจะใช้ติดตัว (ห้อยคอหรือกลัดอกเสื้อ) แล้ว ยังตั้งบูชาภายในบ้านได้อีกด้วย ซึ่งในบ้านแต่ละหลัง อาคาร สำนักงานจะได้รับอิทธิพลของดวงดาว ในองศาหรือมุมต่างๆ เกี่ยวกับโชคลาภ ยศศักดิ์ หน้าที่การงาน ดาวอุปถัมภ์ ดาวขัดแย้ง ดาวเคราะห์ดาวป่วย กระจายกันไปตามแต่ละพื้นที่

           การที่จะทราบว่า ดาวนั้นๆอยู่ในตำแหน่งใดต้องใช้วิธีการคำนวณจากเวลาสร้างและองศาของบ้าน ตามศาสตร์จะกำหนด ทั้งหมดมี 9 ยุค ยุคละ 20 ปี คาบเวลานี้อยู่ในยุคที่ 8 เป็นยุคที่รุ่งเรืองของดาวขาวเลข 8 ธาตุดิน ดังนั่น ดิน หิน และ หยก (หรือสิ่งที่ทำจากดิน) จึงเป็นสิ่งที่นำโชค...ปี่เซี่ยะที่มีพลังในการเสริมโชคลาภควรทำมาจากหินหรือหยก

           การที่นำ ปี่เซี่ยะมาบูชาในบ้าน หากตั้งถูกตำแหน่งก็จะกระตุ้นในการนำโชคให้กับคนที่อยู่ในบ้าน ซึ่งจะนำโชคไม่เท่ากัน ถ้ามีดาวดีๆมารวมกันมาก ก็จะนำโชคได้มาก...ส่วนจะนานแค่ไหนนั้นก็ต้องดูดาวจรประจำปี ประจำเดือน ประจำวัน และ ประจำยาม มาประกอบด้วย


           อีกอย่างต้องดูอิทธิพลของปีด้วย โดยจะวางออกเป็น 4 หลัก คือ "ชง" หมายถึงปฏิปักษ์อันจะเกิดเคราะห์อย่างรุนแรง รองลงมาคือ "คัก" ก็จะพบกับเรื่องวุ่นวายเดือดร้อน แม้มีโชคก็จะถูกบันทอนไปครึ่งหนึ่ง...

           หลักต่อมาคือ "เฮ้ง" จะเบาลงอีกนิดเพียงเผชิญอุปสรรคปัญหาเข้ามาโถมชีวิต มีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล และท้ายสุดคือ "ผั่ว" คือเพียงมีเรื่องเจ็บป่วยไข้ การงานหยุดชะงัก ความรักค่อนข้างอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว....สรุปแล้วที่ 4 หลักนี้ที่รุนแรงกว่าเพื่อนก็คือ ปีชง


           ด้วยปีนี้เป็น ปีชวดที่ชงกับปีมะเมีย (เกิด พ.ศ. 2533, 2521, 2509) คนที่เกิดปีมะเมียในปีนี้จะต้องทำบุญสะเดาะเคราะห์ และ พกปี่เซี่ยะติดกับตัวเสมอ และจะเข้า สู่หลักคักกับปีชวด (เกิด พ.ศ. 2527, 2518, 2506) คนที่เกิดปีชวดในปีนี้ต้องทำบุญทำทานช่วยเหลือคนยากไร้ ไหว้สะเดาะเคราะห์ดวงชะตาและ ห้อยปี่เซี่ยะติดตัวเป็นประจำ

           ส่วนหลัก "เฮ้ง" ปีนี้ส่งผลกับปีเถาะ (เกิด พ.ศ.2530, 2518, 2506) และจะ "ผั่ว" กับปีระกา (เกิดปี พ.ศ.2536, 2524, 2512) ซึ่งคนที่เกิดปีเถาะในปีนี้กับคนที่เกิดปีระกาอาจจะเพียงทำบุญสะเดาะเคราะห์ เท่านั้นก็จะฉลุย...เพื่อกันเหนียว ด้วยการห้อยปี่เซี่ยะก็ไม่เสียหลาย จะได้หายห่วง

ปี่เซี่ยะ

           การที่วัยรุ่นในเมืองสิงหะปุระฮิตกับห้อยปี่เซี่ยะ อาจเป็นไปได้ที่พวกเขา ใช้เป็นเครื่องประดับ และ เครื่องรางในการป้องกันภยันตภัย ทั้งหลายที่จะเข้ามาถึงตัว...

           ด้วย ความเชื่อ และ ศรัทธาว่าพลังดีที่จะสลายพลังร้าย ซึ่งเป็นความเลื่อมใสของแต่ละบุคคล ส่วนจะระบาดมาถึงแผ่นดินสยามหรือไม่....ก็ไม่มีใครการันตีอีกเช่นกัน...!!!


 ข้อมูลและภาพประกอบจาก

 

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปี่เซี่ยะ เครื่องราง สิ่งประดับ ส่งพลังป้องภยันตภัย อัปเดตล่าสุด 25 มิถุนายน 2562 เวลา 10:34:44 17,101 อ่าน
TOP
x close