ผอ. ยัน ไม่ได้กดดันทำยอดนักเรียนจนครูฆ่าตัวตาย ลั่น เป็นหน้าที่ กินเงินเดือนก็ต้องทำ เผยแชตอดีตครู เคยโดนไล่ออกเพราะหานักเรียนมาเรียนไม่ได้

ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีข่าวอาจารย์ของโรงเรียนแห่งหนึ่งตัดสินใจกระโดดตึก 5 ชั้น เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากความเครียดที่ถูกบังคับให้หานักเรียนเข้าเรียนใหม่ให้ได้ตามเป้า แต่พอทำไม่ได้ ก็ถูกเรียกไปต่อว่าจนอับอาย ซึ่งทางเพจที่นำเรื่องดังกล่าวมาเผยแพร่ ระบุว่า แม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องใหญ่โต แต่กลับถูกปิดให้เป็นความลับ มีคำสั่งห้ามให้พูดเรื่องนี้ออกไป และกำชับว่าครูฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องส่วนตัว จากปัญหาหนี้สิน รวมถึงโรงเรียนดังกล่าว เป็นโรงเรียนที่มีครูลาออกกันถี่ยิบมาก
อ่านข่าว : ครูเครียดจัด กระโดดตึกดับ หลังทำยอดหานักเรียนไม่ได้ตามเป้า โรงเรียนโบ้ยอีกทาง แต่หลักฐานโป๊ะ ?

ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว
หลังจากนั้น ทางทีมข่าวช่องวันได้พูดคุยกับอดีตครูที่เคยอยู่โรงเรียนเดียวกับครูผู้เสียชีวิต เผยว่า เมื่อ 15 ปีก่อน ตนเองเคยถูกผู้บริหารกดดันให้หานักเรียนเข้ามาเรียนใหม่จริง ๆ ซึ่งใน 1 เดือน ต้องหานักเรียนใหม่ให้ได้ 10 คน ถ้าไม่ได้ จะถูกหักเงิน 500 บาทต่อคน แต่ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ยังทำแบบนี้อยู่หรือเปล่า
ทั้งนี้ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการการอาชีวศึกษา เผยว่าผู้ตายเคยเป็นครูแต่ถูกถอดให้เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการแทน เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ด้านอาจารย์ร่วมสถาบัน เผยว่าไม่ได้มีการกดดันอะไร แต่ก็ต้องออกแนะแนวเด็ก ๆ ที่หาที่เรียนต่ออยู่แล้ว มันเป็นหน้าที่
ขณะที่นายจรูญ เจริญรักษ์ ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา เผยว่า ไม่มีการกดดันให้หาเป้า แต่เป็นหน้าที่ของครูที่จะต้องดำเนินการในการโพสต์ลงโซเชียลเพื่อแนะนำ ตนก็ต้องทำ สถาบันการศึกษาเอกชนทุกที่ทำหมด ไม่อย่างนั้นจะอยู่ได้อย่างไร เชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากโรคซึมเศร้า ยืนยันว่าไม่ได้ต่อว่าด่าทอจนเป็นเหตุให้คิดสั้นแต่ประการใด
"ประเด็นนี้คือเป็นหน้าที่ของครูทุกคนที่จะต้องหายอดอยู่แล้ว หายอดนี้มีทั้งเพจเฟซบุ๊ก ไลน์ แต่ไม่ได้ไปกดดันอะไร มันเป็นหน้าที่ คุณทำงาน คุณก็ต้องทำเรื่องนี้ แม้กระทั่งผมเอง ผมก็ต้องทำ ผมไม่ได้ไปเร่งรัดอะไร คุณต้องพยายามหานะ คุณจะมานั่งอยู่เฉย ๆ ได้ไง ก็คุณกินเงินเดือนเขาอะ"

ภาพจาก ข่าวช่องวัน

ภาพจาก ข่าวช่องวัน

ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน, เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว, เรื่องเล่าเช้านี้