ไทยพีบีเอส เปิดชื่อลูกนักการเมืองเอี่ยวค้ากามสุราษฎร์ธานี ตอนนี้กำลังหลบหนี พบคดีข่มขืนติดตัวเพียบ แต่ส่วนใหญ่ยกฟ้อง
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการปราบปรามการค้าบริการทางเพศเด็กครั้งใหญ่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งพบเหตุการณ์ที่น่าสลดใจคือ มีคนที่เกี่ยวข้องกับคดีหลากหลายสาขาอาชีพ เช่น หมอ ครู ทหาร แต่ที่พีคที่สุดคือ รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้โทรศัพท์สั่งการให้ "นายเอ็ม" ช่วยพาลูกค้าระดับวีไอพีหลบหนีไป ตอนนี้รองอธิบดีคนดังกล่าวกำลังอยู่ในช่วงสอบสวนทางวินัย
อ่านข่าว : ฉาวทั่วสุราษฎร์ฯ ทลายแก๊งค้ากามเด็ก 18 จุด เอี่ยวหมอ-ทหาร หนักสุดรองอธิบดีกรมเด็ก !
ล่าสุด วันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ไทยพีบีเอส ได้รายงานถึงจุดเริ่มต้นของการจับกุมคดีดังกล่าว มีความเป็นมาโยงกับรองอธิบดีฯ และลูกนักการเมืองคนหนึ่งของจังหวัดได้อย่างไร สามารถสรุปได้ดังนี้
จุดเริ่มต้นคดี ก่อนการขยายผลจนเจอตอ
จุดเริ่มต้นของคดี เริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2564 เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมการค้าประเวณีคดีหนึ่งที่ ต.ขุนทะเล สามารถช่วยเหลือเด็กวัย 13 ปี ได้ 1 คน และสามารถสาวไปถึงแม่เล้า นั่นก็คือ นางสาวรุ่งฤดี หรือ เจ๊น้ำ หลังจากนั้นก็มีการขยายผลช่วยเหลือเด็กได้อีก 5 คน พร้อมนำตัวเข้าสู่กระบวนการสอบสวน ส่งเข้าบ้านพักเด็กและครอบครัว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการสอบปากคำเด็ก พบว่าเด็กหวาดกลัว ให้การไม่ค่อยเป็นประโยชน์ ตำรวจจึงสืบสวนในทางลับ พบว่า เด็กถูกข่มขู่จากนายเอ็ม เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กด้วยการใช้ไม้ทุบตี แลกกับการให้ช่วยเหลือผู้ต้องหาที่ซื้อบริการ และที่สำคัญเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กก็รับรู้เรื่องนี้ แต่อยู่เฉยเพราะผู้ที่ออกหมายจับเป็นคนมีอิทธิพล
เมื่อสืบเรื่องนายเอ็ม ทำให้ทราบว่า มีคำสั่งจากผู้บริหารระดับสูงสั่งให้นายเอ็มคอยกล่อมเด็กให้ช่วยเหลือผู้ต้องหา จึงเป็นสาเหตุที่คดีไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
เปิดชื่อผู้ต้องหาวีไอพี ลูกนักการเมืองท้องถิ่น พร้อมกับชื่อรองอธิบดี
ภายหลังการจับกุมครั้งใหญ่ พบว่า ยังมีผู้ต้องหาหลบหนีอีก 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นลูกชายอดีตนักการเมืองดังใน จ.สุราษฎร์ธานี คือ นายแสงโรจน์ กาญจนะ มีความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และเมื่อตรวจสอบประวัติต่าง ๆ พบว่า นายแสงโรจน์ก่อคดีอาชญากรรมหลายคดี ได้แก่
- ปี 2542 คดีพยายามฆ่า ดวลปืนกับตำรวจ สภ.พุนพิน ที่ผับแห่งหนึ่ง
- ปี 2543 ยิงพนักงานขับรถสำนักงานสรรพากร ภาค 11 สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตถูกจำคุก 10 กว่าปี
- ปี 2544 คดียาเสพติด ยกฟ้อง
- ปี 2548 คดีข่มขืนกระทำชำเรา นักศึกษาหญิง ยกฟ้อง
- ปี 2549 คดีข่มขืนหญิงสาวชาวเมียนมา, ใช้อาวุธปืน, หน่วงเหนี่ยวกักขัง ยกฟ้องเพราะพยานกลับประเทศ
- ปี 2551 คดีข่มขืนนักเรียน ปวศ. ใช้อาวุธปืนขู่บังคับ ยกฟ้อง
- ปี 2565 คดีกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ยังหลบหนี
นอกจากนี้ ไทยพีบีเอส ยังมีการเปิดเผยชื่อรองอธิบดีคนดังกล่าว นั่นคือ นายพิสิฐ พูลพิพัฒน์ โดยจากการตรวจสอบ พบว่า กรมกิจการเด็กและเยาวชน มีนายพิสิฐเป็นรองอธิบดีคนเดียว ส่วนอีกตำแหน่งอยู่ระหว่างการสรรหา
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการปราบปรามการค้าบริการทางเพศเด็กครั้งใหญ่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งพบเหตุการณ์ที่น่าสลดใจคือ มีคนที่เกี่ยวข้องกับคดีหลากหลายสาขาอาชีพ เช่น หมอ ครู ทหาร แต่ที่พีคที่สุดคือ รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้โทรศัพท์สั่งการให้ "นายเอ็ม" ช่วยพาลูกค้าระดับวีไอพีหลบหนีไป ตอนนี้รองอธิบดีคนดังกล่าวกำลังอยู่ในช่วงสอบสวนทางวินัย
อ่านข่าว : ฉาวทั่วสุราษฎร์ฯ ทลายแก๊งค้ากามเด็ก 18 จุด เอี่ยวหมอ-ทหาร หนักสุดรองอธิบดีกรมเด็ก !
ล่าสุด วันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ไทยพีบีเอส ได้รายงานถึงจุดเริ่มต้นของการจับกุมคดีดังกล่าว มีความเป็นมาโยงกับรองอธิบดีฯ และลูกนักการเมืองคนหนึ่งของจังหวัดได้อย่างไร สามารถสรุปได้ดังนี้
จุดเริ่มต้นคดี ก่อนการขยายผลจนเจอตอ
จุดเริ่มต้นของคดี เริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2564 เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมการค้าประเวณีคดีหนึ่งที่ ต.ขุนทะเล สามารถช่วยเหลือเด็กวัย 13 ปี ได้ 1 คน และสามารถสาวไปถึงแม่เล้า นั่นก็คือ นางสาวรุ่งฤดี หรือ เจ๊น้ำ หลังจากนั้นก็มีการขยายผลช่วยเหลือเด็กได้อีก 5 คน พร้อมนำตัวเข้าสู่กระบวนการสอบสวน ส่งเข้าบ้านพักเด็กและครอบครัว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการสอบปากคำเด็ก พบว่าเด็กหวาดกลัว ให้การไม่ค่อยเป็นประโยชน์ ตำรวจจึงสืบสวนในทางลับ พบว่า เด็กถูกข่มขู่จากนายเอ็ม เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กด้วยการใช้ไม้ทุบตี แลกกับการให้ช่วยเหลือผู้ต้องหาที่ซื้อบริการ และที่สำคัญเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กก็รับรู้เรื่องนี้ แต่อยู่เฉยเพราะผู้ที่ออกหมายจับเป็นคนมีอิทธิพล
เมื่อสืบเรื่องนายเอ็ม ทำให้ทราบว่า มีคำสั่งจากผู้บริหารระดับสูงสั่งให้นายเอ็มคอยกล่อมเด็กให้ช่วยเหลือผู้ต้องหา จึงเป็นสาเหตุที่คดีไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
เปิดชื่อผู้ต้องหาวีไอพี ลูกนักการเมืองท้องถิ่น พร้อมกับชื่อรองอธิบดี
ภายหลังการจับกุมครั้งใหญ่ พบว่า ยังมีผู้ต้องหาหลบหนีอีก 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นลูกชายอดีตนักการเมืองดังใน จ.สุราษฎร์ธานี คือ นายแสงโรจน์ กาญจนะ มีความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และเมื่อตรวจสอบประวัติต่าง ๆ พบว่า นายแสงโรจน์ก่อคดีอาชญากรรมหลายคดี ได้แก่
- ปี 2542 คดีพยายามฆ่า ดวลปืนกับตำรวจ สภ.พุนพิน ที่ผับแห่งหนึ่ง
- ปี 2543 ยิงพนักงานขับรถสำนักงานสรรพากร ภาค 11 สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตถูกจำคุก 10 กว่าปี
- ปี 2544 คดียาเสพติด ยกฟ้อง
- ปี 2548 คดีข่มขืนกระทำชำเรา นักศึกษาหญิง ยกฟ้อง
- ปี 2549 คดีข่มขืนหญิงสาวชาวเมียนมา, ใช้อาวุธปืน, หน่วงเหนี่ยวกักขัง ยกฟ้องเพราะพยานกลับประเทศ
- ปี 2551 คดีข่มขืนนักเรียน ปวศ. ใช้อาวุธปืนขู่บังคับ ยกฟ้อง
- ปี 2565 คดีกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ยังหลบหนี
นอกจากนี้ ไทยพีบีเอส ยังมีการเปิดเผยชื่อรองอธิบดีคนดังกล่าว นั่นคือ นายพิสิฐ พูลพิพัฒน์ โดยจากการตรวจสอบ พบว่า กรมกิจการเด็กและเยาวชน มีนายพิสิฐเป็นรองอธิบดีคนเดียว ส่วนอีกตำแหน่งอยู่ระหว่างการสรรหา
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส
