เปิดที่มา บุกจับพระบิดาแห่งจักรวาล ช็อกสาวกบูชาแม้แต่น้ำเหลืองศพ บอกหอมมะลิ

          อ่านข่าว : หมอปลา บุกสำนักพระบิดาทุกศาสนา ให้กินขี้ไคล - กินฉี่ ผงะเจอ 11 ศพ รอขึ้นสวรรค์

          โดย เจน ลูกสาวของยายน้อย เล่าว่า แม่นับถือศาสนาคริสต์มา 30 ปี จนกระทั่งปี 2564 ที่โควิด 19 รุนแรง ตนขอไม่ให้แม่ไปโบสถ์ แม่จึงขอไปอยู่กับหลานชายที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น แต่หลังจากนั้นแม่ก็ได้รู้จักกับสถานที่ปฏิบัติธรรมใน จ.ชัยภูมิ แล้วมาบอกว่าตัวเองไปเจอพ่อพระเยซู เจอแล้วทางขึ้นสวรรค์ จะไปอยู่ที่นั่น จึงทิ้งคัมภีร์ไบเบิลที่นับถือมา 30 ปี และเข้าสำนักไป

          จนผ่านไปนาน 2 เดือน เจนเห็นแม่ไม่ยอมกลับบ้าน ก็รู้สึกสงสัยว่ามันเป็นอย่างไร จึงตัดสินใจพาหลานสาวเดินทางไปยังสถานที่ปฏิบัติธรรมดังกล่าว เพราะเป็นห่วงแม่
สงสารแม่จับใจ ช็อกเห็นควักสเลดมาถู - กินขี้ไคล

          เมื่อไปถึงแม่ก็บอกให้เข้าไปกราบพระบิดา มีการหาผ้าถุงมาให้ใส่ ซึ่งตนก็พูดกับหลานสาวว่า ถ้าไม่เข้าไปกราบก็คงไม่รู้ว่าแม่มาทำอะไร จึงลองเข้าไปกราบดู ซึ่งแม่ก็ให้ถอดรองเท้าห่างจากพระบิดาประมาณ 500 เมตร แล้วคลานเข้าไป แล้วก็ทำตามคนอื่น หลังจากนั้นก็มีการสอนวิธีกราบ คือการหงาย 2 มือประสานกัน วางลงแล้วก้มคำนับตามลงไป 9 ครั้ง

          ทั้งนี้ ที่เจนยอมทำตามก็เพื่อให้แม่ยอมเปิดใจ และกล้าเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แต่ตอนนั้นเห็นแม่แล้วก็สงสาร เพราะสิ่งที่เราเห็นแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่คือ เห็นแม่คลานเข้าไปยัง 'บ่อมโหสถ' ที่พระบิดาใช้สำหรับขากสเลดและปัสสาวะ ซึ่งเธอเห็นแม่คลานเข้าไปล้วงขึ้นมาล้างหน้าล้างอะไรต่าง ๆ
          ยอมรับว่าในตอนนั้นเรายังไม่ถามอะไรเพราะสาวกเขาเยอะ แต่ก็สังเกตจนรู้แล้วว่าเป็นอะไร และเธอยังเห็นพระบิดาถูขี้ไคลที่มือ จากนั้นมีสาวกอีกคนสะกิดบอกแม่ว่าเป็นของดี แล้วเธอก็ต้องช็อกเมื่อเห็นแม่คลานเข้าไปรับขี้ไคลมากิน ก็เลยบอกว่าลูกจะกลับแล้วนะ จะกลับด้วยไหม ซึ่งตอนนั้นแม่ก็บอกว่าตัวเองไม่มีลูกแล้ว ให้เรียกตัวเองว่าคุณยายเท่านั้น และไม่ยอมกลับบ้าน

          เจนยอมรับว่า บ่อที่เป็นข่าวดัง ๆ ตนก็เพิ่งจะรู้ว่าเป็นบ่อฉี่ แต่แม่เคยพูดให้ฟังว่าทุกอย่างในร่างกายพระบิดาเป็นยาหมด น้ำอมฤตก็เป็น ซึ่งน้ำอมฤตที่ว่าก็คือฉี่ ทำให้เธอรู้สึกสงสารแม่จับใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

          หลังจากนั้นเธอพยายามเข้าไปหาแม่เรื่อย ๆ ไปหลอกล่อให้กลับมานอนบ้านกับลูกหลาน ซึ่งขอไปกราบทูลพระบิดาก่อน ถ้าพระบิดาให้ไปก็จะไป ซึ่งก็ได้แค่ไม่นาน ทุกวันได้แต่คิดถึงสภาพแม่ตัวเอง แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะแกไม่ยอมเชื่อเราเลย สุดท้ายก็ต้องมาปรึกษากับครอบครัว
สำนักสยอง เก็บฉี่จนเหม็นอบอวล - สาวกบูชาแม้แต่น้ำเหลืองจากศพ อ้างหอมกลิ่นมะลิ

          ด้าน กัน ทรงพลัง เปิดเผยว่าภายในสถานที่ปฏิบัติธรรมดังกล่าว ตรงจุดที่เก็บศพนั้นมีการเก็บน้ำต่าง ๆ ไว้สำหรับไปทำพิธี โดยบริเวณที่นอนกับที่เก็บศพจะมีฉี่เเก็บอยู่เยอะมาก กลิ่นเหม็นมาก ซึ่งตนเคยถามพระบิดาแล้วว่าที่ผลิตออกมานั้นได้กินไหม พระบิดาบอกเองว่าเป็นผู้ผลิตอย่างเดียว แต่ไม่กินเอง  

          ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ มีการนำน้ำเหลืองที่ไหลจากศพมาใส่ถุง ซึ่งลูกศิษย์ก็ยังอ้างว่าเป็นของดี มีกลิ่นมะลิ กลิ่นกุหลาบ เอามาทำหน้า หากใครเหม็นก็คือคนบาปคนชั่ว
คนหลงเชื่อนึกว่ารักษาโรคได้ พาญาติมาจนตายคาสำนัก

          สำหรับลูกศิษย์ที่นับถือนั้นส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ทั้งนั้น เพราะคนในพื้นที่ไม่เชื่อ โดยมีการหลอกว่ามีพระมโหสถ รักษาโรคได้ มีการป้องกันโควิดได้ ทำให้มีคนหลงเชื่อพาญาติเข้ามารักษา รวมถึงหนึ่งใน 11 ศพ ที่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ญาติพามารักษา แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตอยู่ในนั้น

          นอกจากนี้ยังพบว่าในบรรดาลูกศิษย์ มีถึงบางคนเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด้วย แต่ก็ยังหลงเชื่อและนำของมาถวายให้พระบิดาถึง 3 ครั้ง   
แฉอาจมีมากกว่า 11 ศพ - พบต่างด้าวในกลุ่มสาวก  

          ทั้งนี้ ทนายไพศาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าจริง ๆ มีการอยู่กับศพมากกว่า 11 ศพภายในสถานปฏิบัติธรรม แต่ปัจจุบันยังเจอแค่ 11 ศพ นอกจากนี้พบว่า ตัวพระบิดานี้ชื่อจริงคือ นายทวี หรือโจเซฟ ไม่ใช่คนชัยภูมิ แต่เป็นคนขอนแก่น สาวกทั้ง 30-50 คนก็เป็นคนนอกพื้นที่ และยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าอาจจะมีต่างด้าวอยู่ เพราะพูดไทยไม่ชัด

          สำหรับศพที่อายุน้อยที่สุดที่พบ คือเด็กอายุ 1 ขวบ 17 วัน ซึ่งหลังจากนี้ต้องเป็นหน้าที่ของทางตำรวจและนิติเวชในการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต ว่าเกิดจากการเสียชีวิตตามธรรมชาติ หรือสาเหตุอะไร  

          ส่วนสาเหตุที่มีการเก็บศพไว้ในสถานปฏิบัตธรรม เพราะพระบิดาไม่ให้นำออกไป อ้างว่าผู้ตายเป็นศิษย์ของตนเอง จะต้องอยู่ภายในนั้น

          ด้าน กัน ทรงพลัง ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องทั้ง 11 ศพที่พบ เนื่องจากมีศพที่ยืนยันตัวไม่ได้ ไม่มีเอกสารการเสียชีวิตถึง 5 ศพ ทำให้ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต หรือมาอยู่ที่นั่นได้อย่างไร แต่ส่วนตัวมีการตั้งข้อสันนิษฐานว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเกี่ยวข้องคนกับคนต่างด้าว จะมีการนำคนต่างด้าวมาสวมสิทธิ์ผู้ตายหรือไม่
จ่อเล่นงาน อบต. ปล่อยพระบิดามาตั้งสำนัก

          ทั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิยืนยันว่า ได้ให้นโยบายไปแล้วว่าให้งัดทุกข้อหามาจัดการให้หมด พบว่าผิดตรงไหนก็จัดการในส่วนนั้นเลย รวมถึงจะต้องการมีตรวจสอบองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าว คือพวก อบต. ว่าเหตุใดจึงมีการปล่อยปะละเลยจนถึงขั้นนี้ มีคนนำพื้นที่สาธารณะประโยชน์มาตั้งเป็นสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว