รมว.ดิจิทัล จ่อหารือปิดแพลตฟอร์มลาซาด้า ปมคอนเทนต์โฆษณาพาดพิงสถาบัน - ทหารสั่งห้ามคนในครอบครัวสั่งของหรือทำงานกับลาซาด้า ฝ่าฝืนมีโทษไล่ออกจากบ้านพัก
ภาพจาก Lazada
จากกรณีที่ นารา เครปกะเทย ทำคลิปโฆษณาโปรโมตแคมเปญช้อปปิ้ง Lazada 5.5 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ก่อนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งต่อมาทางลาซาด้า เอเจนซี่ รวมไปถึงนารา ได้ออกมาขอโทษกับโฆษณาชิ้นดังกล่าวที่มีคนมองว่าล้อเลียนคนพิการ และทางตำรวจก็เตรียมเอาผิดนาราในข้อหา ม.112 เนื่องจากมองว่าภาพนั้นมีลักษณะคล้ายกับการพาดพิงสถาบันอยู่ด้วย อีกทั้ง ผบ.ทบ. ได้สั่งแบน Lazada ทุกหน่วยทั่วประเทศ งดสั่งสินค้า ห้ามรถเข้าเขตทหารอีกด้วย
อ่านข่าว : สรุปดราม่า เหล่าทัพแบนลาซาด้า โยงปมพาดพิงสถาบัน ทหารห้ามซื้อ - ระวังโดนฟ้องกลับ
ล่าสุด (10 พฤษภาคม 2565) สรยุทธ สุทัศนะจินดา รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า กำลังรวบรวมพยานหลักฐานและทำงานร่วมกับ ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) ตรวจสอบเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มที่มีการนำเสนอโฆษณาด้านการตลาดในลักษณะที่ก้าวล่วงสถาบันของลาซาด้าและที่คล้ายกัน ซึ่งมีการดำเนินคดีแล้ว
รวมทั้งมีการยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้ปิดกั้นการเข้าถึงแพลตฟอร์มและการแชร์ผ่านยูทูบ ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก เบื้องต้นพบแล้ว 42 URLs แต่โดยปกติหากแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รับการแจ้งจากดีอีเอสจะปิดตัวเองอยู่แล้ว หากไม่ปิดจะมีความผิด เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และกฎหมายอื่น
ชี้ผู้ที่อยู่ในวงการประชาสัมพันธ์ต้องมีจรรยาบรรณ
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เอเจนซี่โฆษณา อินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงผู้ที่อยู่ในวงการประชาสัมพันธ์ต้องมีจรรยาบรรณ และมีสมาคมวิชาชีพดูแล เพื่อหารือกันว่าการทำโฆษณาต้องถูกกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม ไม่บูลลี่ หรือทำให้สังคมเกิดความรู้สึกไม่ดี
ถ้าให้หน่วยงานหรือรัฐบาลไปสั่งคงไม่เหมาะ เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็อยากให้เคารพกฎหมายและเป็นไปตามบริบทที่สังคมไทยรับได้ อะไรที่สังคมไทยรับไม่ได้ ก็อย่าไปทำ ถ้าทำอะไรที่ขัดความรู้สึกคนไทย สุดท้ายธุรกิจทำโฆษณาก็จะเสียหายเอง
ภาพจาก Lazada
ไม่กังวล #แบนลาซาด้า กระทบความสัมพันธ์ไทย-จีน
เมื่อถามถึงการที่หน่วยงานรัฐหลายหน่วยออกมาแบนลาซาด้า จะกระทบต่อภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ เพราะสื่อต่างประเทศรายงานเรื่องนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิของคนไทย และองค์กรต่าง ๆ ที่จะตอบโต้การกระทำที่ไม่เหมาะสม ทั้งลาซาด้าและแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในทางที่ไม่เหมาะสม ถ้าไม่ตักเตือนและส่งสัญญาณว่าเราไม่เห็นด้วย ก็จะมีการทำแบบนี้กันอีกไม่จบไม่สิ้น จึงต้องส่งสัญญาณให้ภาคธุรกิจและต่างชาติรับรู้ว่าคนไทยรับไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้ และให้หยุดการกระทำ อย่ามาทำแบบนี้ในประเทศไทย
ส่วนเรื่องที่หลายคนกังวลว่าจะกระทบความสัมพันธ์หรือไม่ เพราะลาซาด้าเป็นแพลตฟอร์มจากประเทศจีน นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็ต้องคิดถึงคนไทยเหมือนกัน จะคิดว่าอยากทำอะไรก็ได้ก็ไม่ถูก เป็นคนจีนก็ต้องเคารพกฎหมายไทยและความรู้สึกของไทย
การดำเนินคดี ในหลักการต้องเริ่มจากการตรวจสอบเอเจนซี่ผู้จัดทำโฆษณา เพราะแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ ไม่ได้เป็นผู้จัดทำโฆษณา จึงคิดว่าจำเป็นต้องมีอัลกอริทึมรวมถึงทีมกฎหมายป้องกันและแก้ไขให้ทันด้วย ไม่ใช่รอจนคนไทยด่าทั้งประเทศแล้วค่อยมาแก้
ที่หน่วยงานต่าง ๆ สั่งห้ามส่งสินค้าที่สั่งผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวในหน่วยงานต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นการตอบโต้การกระทำที่มาใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในทางที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีในสังคมไทย ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณตักเตือนให้ทราบ ให้หยุด อย่าทำอีก และเป้าหมายสำคัญที่ภาคธุรกิจและต่างชาติจะได้เห็นว่าคนไทยไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ และอยากจะให้ต่างชาติเข้าใจเรื่องนี้ด้วย
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ เผยแชตทหารสั่งห้ามครอบครัวซื้อของหรือทำงานกับลาซาด้า
นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ มีการเผยภาพแชตจากแฟนรายการข่าว ซึ่งมีใจความประมาณว่า หน่วยงานทหารได้สั่งห้ามให้สมาชิกบ้านพักและข้าราชการพร้อมครอบครัวทุกคนสั่งของจากลาซาด้าโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะพิจารณาโทษให้ออกจากบ้านพักภายใน 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้ตรวจสอบด้วยว่าในพื้นที่มีข้าราชการและครอบครัวไหนทำงานกับลาซาด้าบ้าง พร้อมขีดเส้นตายให้ไปรายงานตัวทันที หากพบภายหลังจะพิจารณาให้ออกจากบ้านพัก ส่วนกรณีที่สั่งของจากลาซาด้าแล้ว ให้นัดรับของหน้ากรมนอกพื้นที่
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ภาพจาก Lazada
จากกรณีที่ นารา เครปกะเทย ทำคลิปโฆษณาโปรโมตแคมเปญช้อปปิ้ง Lazada 5.5 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ก่อนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งต่อมาทางลาซาด้า เอเจนซี่ รวมไปถึงนารา ได้ออกมาขอโทษกับโฆษณาชิ้นดังกล่าวที่มีคนมองว่าล้อเลียนคนพิการ และทางตำรวจก็เตรียมเอาผิดนาราในข้อหา ม.112 เนื่องจากมองว่าภาพนั้นมีลักษณะคล้ายกับการพาดพิงสถาบันอยู่ด้วย อีกทั้ง ผบ.ทบ. ได้สั่งแบน Lazada ทุกหน่วยทั่วประเทศ งดสั่งสินค้า ห้ามรถเข้าเขตทหารอีกด้วย
อ่านข่าว : สรุปดราม่า เหล่าทัพแบนลาซาด้า โยงปมพาดพิงสถาบัน ทหารห้ามซื้อ - ระวังโดนฟ้องกลับ
ล่าสุด (10 พฤษภาคม 2565) สรยุทธ สุทัศนะจินดา รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า กำลังรวบรวมพยานหลักฐานและทำงานร่วมกับ ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) ตรวจสอบเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มที่มีการนำเสนอโฆษณาด้านการตลาดในลักษณะที่ก้าวล่วงสถาบันของลาซาด้าและที่คล้ายกัน ซึ่งมีการดำเนินคดีแล้ว
รวมทั้งมีการยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้ปิดกั้นการเข้าถึงแพลตฟอร์มและการแชร์ผ่านยูทูบ ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก เบื้องต้นพบแล้ว 42 URLs แต่โดยปกติหากแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รับการแจ้งจากดีอีเอสจะปิดตัวเองอยู่แล้ว หากไม่ปิดจะมีความผิด เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และกฎหมายอื่น
ชี้ผู้ที่อยู่ในวงการประชาสัมพันธ์ต้องมีจรรยาบรรณ
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เอเจนซี่โฆษณา อินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงผู้ที่อยู่ในวงการประชาสัมพันธ์ต้องมีจรรยาบรรณ และมีสมาคมวิชาชีพดูแล เพื่อหารือกันว่าการทำโฆษณาต้องถูกกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม ไม่บูลลี่ หรือทำให้สังคมเกิดความรู้สึกไม่ดี
ถ้าให้หน่วยงานหรือรัฐบาลไปสั่งคงไม่เหมาะ เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็อยากให้เคารพกฎหมายและเป็นไปตามบริบทที่สังคมไทยรับได้ อะไรที่สังคมไทยรับไม่ได้ ก็อย่าไปทำ ถ้าทำอะไรที่ขัดความรู้สึกคนไทย สุดท้ายธุรกิจทำโฆษณาก็จะเสียหายเอง
ภาพจาก Lazada
ไม่กังวล #แบนลาซาด้า กระทบความสัมพันธ์ไทย-จีน
เมื่อถามถึงการที่หน่วยงานรัฐหลายหน่วยออกมาแบนลาซาด้า จะกระทบต่อภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ เพราะสื่อต่างประเทศรายงานเรื่องนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิของคนไทย และองค์กรต่าง ๆ ที่จะตอบโต้การกระทำที่ไม่เหมาะสม ทั้งลาซาด้าและแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในทางที่ไม่เหมาะสม ถ้าไม่ตักเตือนและส่งสัญญาณว่าเราไม่เห็นด้วย ก็จะมีการทำแบบนี้กันอีกไม่จบไม่สิ้น จึงต้องส่งสัญญาณให้ภาคธุรกิจและต่างชาติรับรู้ว่าคนไทยรับไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้ และให้หยุดการกระทำ อย่ามาทำแบบนี้ในประเทศไทย
ส่วนเรื่องที่หลายคนกังวลว่าจะกระทบความสัมพันธ์หรือไม่ เพราะลาซาด้าเป็นแพลตฟอร์มจากประเทศจีน นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็ต้องคิดถึงคนไทยเหมือนกัน จะคิดว่าอยากทำอะไรก็ได้ก็ไม่ถูก เป็นคนจีนก็ต้องเคารพกฎหมายไทยและความรู้สึกของไทย
การดำเนินคดี ในหลักการต้องเริ่มจากการตรวจสอบเอเจนซี่ผู้จัดทำโฆษณา เพราะแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ ไม่ได้เป็นผู้จัดทำโฆษณา จึงคิดว่าจำเป็นต้องมีอัลกอริทึมรวมถึงทีมกฎหมายป้องกันและแก้ไขให้ทันด้วย ไม่ใช่รอจนคนไทยด่าทั้งประเทศแล้วค่อยมาแก้
ที่หน่วยงานต่าง ๆ สั่งห้ามส่งสินค้าที่สั่งผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวในหน่วยงานต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นการตอบโต้การกระทำที่มาใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในทางที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีในสังคมไทย ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณตักเตือนให้ทราบ ให้หยุด อย่าทำอีก และเป้าหมายสำคัญที่ภาคธุรกิจและต่างชาติจะได้เห็นว่าคนไทยไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ และอยากจะให้ต่างชาติเข้าใจเรื่องนี้ด้วย
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ เผยแชตทหารสั่งห้ามครอบครัวซื้อของหรือทำงานกับลาซาด้า
นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ มีการเผยภาพแชตจากแฟนรายการข่าว ซึ่งมีใจความประมาณว่า หน่วยงานทหารได้สั่งห้ามให้สมาชิกบ้านพักและข้าราชการพร้อมครอบครัวทุกคนสั่งของจากลาซาด้าโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะพิจารณาโทษให้ออกจากบ้านพักภายใน 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้ตรวจสอบด้วยว่าในพื้นที่มีข้าราชการและครอบครัวไหนทำงานกับลาซาด้าบ้าง พร้อมขีดเส้นตายให้ไปรายงานตัวทันที หากพบภายหลังจะพิจารณาให้ออกจากบ้านพัก ส่วนกรณีที่สั่งของจากลาซาด้าแล้ว ให้นัดรับของหน้ากรมนอกพื้นที่
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว