เปิด 3 เหตุผลหลัก ที่ทำให้ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ 1.3 ล้านเสียง ทุกอย่างสมเหตุสมผล สัมพันธ์กันหมดเลย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) อย่างไม่เป็นทางการออกมาแล้วว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้คะแนนอันดับ 1 ที่ 1.3 ล้านเสียง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นอะไรที่เกินคาด เพราะตอนแรกคิดว่าจะได้แค่ 8 แสนเสียงเท่านั้น ฉะนั้นกระปุกดอทคอมจะมาสรุปสาเหตุสำคัญ 3 ข้อ ที่ทำให้ชัชชาติชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์โดยที่เจ้าตัวก็คาดไม่ถึง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
1. วางแผนมาเนิ่นนาน ลงพื้นที่ทำความรู้จักกับปัญหา นำไปสู่การเปิดตัวก่อน ได้คะแนนก่อน
ชัชชาติเริ่มลงพื้นที่เพื่อทำความรู้จักกับปัญหาของคนกรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขตตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว จึงทำให้คนกรุงรับรู้โดยทั่วกันว่า ชัชชาติมีความสนใจ ตั้งใจที่จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในอนาคตอย่างแน่นอน จึงเท่ากับว่า เป็นการเปิดตัวก่อนใคร ได้คะแนนก่อน
2. เน้นการขายไอเดีย-เข้าถึง ประชาชนมากกว่าการทุ่มงบโฆษณา
แต่การที่เปิดตัวก่อนใคร ก็ใช่ว่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนเลือก เพราะสาเหตุจริง ๆ ที่คนเลือก มันต้องมีนโยบายมาขายด้วย ซึ่งชัชชาติเน้นการขายไอเดียการแก้ปัญหาของประชาชน วิธีการหาเสียงที่รักษ์สิ่งแวดล้อม มากกว่าการทุ่มโฆษณาตัวเองในเฟซบุ๊ก หรือติดป้ายหาเสียงจำนวนมาก ๆ ยกตัวอย่างเช่น การติดตั้งป้ายที่ไม่รบกวนทางเท้า ก็ทำให้ผู้สมัครคนอื่น ๆ หันมาสนใจเรื่องนี้ตาม
อีกนโยบายหนึ่งที่เป็นจุดที่ชัชชาติต่างจากคนอื่น คือ นโยบายรายเขตทั้ง 50 เขต ที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ มีการระบุพิกัดในแผนที่ว่าจุดไหนมีปัญหาบ้าง เช่น น้ำท่วม, ปัญหาหาบเร่แผงลอย, ปัญหาจุดเสี่ยงอาชญากรรม หรือปัญหารถสาธารณะเข้าไม่ถึง มีการอัปเดตข้อมูลอยู่ตลอด ทำให้คนรู้สึกว่า รู้ลึกถึงปัญหาจริง
3. การเลือกลงอิสระคนไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะกาให้
เมื่อ 2 ปีก่อน ชัชชาติได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย และเริ่มลงพื้นที่เก็บข้อมูลปัญหาต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นจุดหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ได้คะแนนถล่มทลาย เพราะคนที่จะเลือก ไม่มีความตะขิดตะขวงใจว่า นโยบายต่าง ๆ จะถูกพรรคการเมืองครอบงำ สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ตามนโยบายนั่นเอง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ชัชชาติเริ่มลงพื้นที่เพื่อทำความรู้จักกับปัญหาของคนกรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขตตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว จึงทำให้คนกรุงรับรู้โดยทั่วกันว่า ชัชชาติมีความสนใจ ตั้งใจที่จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในอนาคตอย่างแน่นอน จึงเท่ากับว่า เป็นการเปิดตัวก่อนใคร ได้คะแนนก่อน
2. เน้นการขายไอเดีย-เข้าถึง ประชาชนมากกว่าการทุ่มงบโฆษณา
แต่การที่เปิดตัวก่อนใคร ก็ใช่ว่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนเลือก เพราะสาเหตุจริง ๆ ที่คนเลือก มันต้องมีนโยบายมาขายด้วย ซึ่งชัชชาติเน้นการขายไอเดียการแก้ปัญหาของประชาชน วิธีการหาเสียงที่รักษ์สิ่งแวดล้อม มากกว่าการทุ่มโฆษณาตัวเองในเฟซบุ๊ก หรือติดป้ายหาเสียงจำนวนมาก ๆ ยกตัวอย่างเช่น การติดตั้งป้ายที่ไม่รบกวนทางเท้า ก็ทำให้ผู้สมัครคนอื่น ๆ หันมาสนใจเรื่องนี้ตาม
อีกนโยบายหนึ่งที่เป็นจุดที่ชัชชาติต่างจากคนอื่น คือ นโยบายรายเขตทั้ง 50 เขต ที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ มีการระบุพิกัดในแผนที่ว่าจุดไหนมีปัญหาบ้าง เช่น น้ำท่วม, ปัญหาหาบเร่แผงลอย, ปัญหาจุดเสี่ยงอาชญากรรม หรือปัญหารถสาธารณะเข้าไม่ถึง มีการอัปเดตข้อมูลอยู่ตลอด ทำให้คนรู้สึกว่า รู้ลึกถึงปัญหาจริง
3. การเลือกลงอิสระคนไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะกาให้
เมื่อ 2 ปีก่อน ชัชชาติได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย และเริ่มลงพื้นที่เก็บข้อมูลปัญหาต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นจุดหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ได้คะแนนถล่มทลาย เพราะคนที่จะเลือก ไม่มีความตะขิดตะขวงใจว่า นโยบายต่าง ๆ จะถูกพรรคการเมืองครอบงำ สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ตามนโยบายนั่นเอง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์