สามีหนักใจชีวิต ภรรยาบังคับให้ไปรับ-ส่งลูกวัยมัธยม ทำกระทบหน้าที่การงานมาหลายปี ทั้งที่ลูก ๆ ก็อยากกลับเอง ควรทำไงดี ? ชาวเน็ตแนะนำหลายแง่มุม มองปัญหานี้แก้ได้ถ้าหันหน้าคุยกันพ่อ แม่ ลูก
หนึ่งในหน้าที่รับผิดชอบอันใหญ่หลวงของคนเป็นพ่อเป็นแม่ คือการให้การศึกษาที่ดีที่สุดกับลูก ซึ่งมักจะออกมาในรูปแบบของโรงเรียนดี ๆ ใจกลางเมือง ซึ่งแน่นอนว่าพอโรงเรียนอยู่กลางเมือง พ่อแม่ก็ต้องไปรับไปส่ง บริหารเวลาให้ดี มิเช่นนั้นพ่อแม่ก็อาจจะไปทำงานสายได้
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 สมาชิกหมายเลข 6630847 เว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งเป็นฝ่ายสามีและเป็นคุณพ่อลูก 3 ได้ออกมาตั้งกระทู้ปรึกษาปัญหา "ภรรยาบังคับให้ผมไปรับ-ส่งลูกมัธยม กระทบหน้าที่การงานมาหลายปีแล้ว"
โดยเล่าว่า ตนและภรรยามีลูก 3 คน ภรรยารับ-ส่งคนเล็ก ลูกคนโต 2 คนอยู่มัธยมแล้ว ตนอยากให้ไป-กลับเอง ปลอดภัยเพราะบ้านและโรงเรียนล้วนใกล้รถไฟฟ้า BTS ซึ่งลูก ๆ ก็เคยไป-กลับเองหลายครั้งแล้ว และพวกเขาก็อยากจะไป-กลับเอง แต่ปัญหาคือตอนบ่าย 3 ครึ่ง ตนต้องไปรับลูก มันกระทบอาชีพการงานของตนมาหลายปีแล้ว จะพูดอย่างไรให้ภรรยายอมให้ลูก ๆ ไป-กลับโรงเรียนเอง
ให้ข้อมูลเพิ่ม ยอมรับเอาเวลางานไปรับลูก-เมียหัวดื้อ ไม่มีเหตุผล แต่ไม่อยากหย่า
ทั้งนี้ เจ้าของกระทู้ได้เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ภรรยารับ-ส่งลูก 3 คน แต่ต่อมาให้เจ้าของกระทู้ไปรับ-ส่งลูกคนโตแทน ซึ่งเขาไม่มีปัญหาในการไปส่งลูก แต่มีปัญหาในการไปรับลูก เพราะลูกเลิกเรียนตอนบ่าย 3 ครึ่ง ก่อนหน้านี้ตอนลูกคนที่ 3 ยังเป็นเด็ก เขาถึงกับต้องมาทำงานพาร์ตไทม์เพื่อที่จะไปรับ-ส่งลูกได้สะดวก และตอนนี้เขากลับมาทำงานปกติแล้ว ก็ต้องเอาเวลางานไปรับลูกแทน
เมื่อถามว่าเหตุใดจึงเอาเวลางานไปรับลูกได้ เจ้านายไม่ว่าเหรอ เจ้าของกระทู้บอกว่า ตนทำงานที่บ้านช่วงโควิด และก่อนช่วงโควิดก็ว่างงาน บริษัทที่ทำก็ไม่ได้เข้มเรื่องเวลาเข้างาน แค่ดูว่าความคืบหน้าของงานได้ประมาณไหน ซึ่งหากไปทำงานที่อื่นในลักษณะเดียวกันแต่เวลาไม่ยืดหยุ่นขนาดนี้ อาจจะได้เงินเดือนมากกว่านี้ 2 เท่า
จากนั้นมีคนมาถามว่า ทำไมถึงกลัวเมีย เจ้าของกระทู้บอกว่า ภรรยาของตนเป็นคนหัวดื้อ ถ้าทะเลาะกันเขาก็ขู่จะหย่า แต่ตนไม่ต้องการหย่าเพราะกลัวมีผลกระทบกับลูก ตนต้องการมีลูกเยอะ ๆ ไม่ใช่มีภรรยาเยอะ ๆ
ออนไลน์ช่วยหาทางออก หาอะไรให้ลูกทำ-ฝึกเด็กให้พึ่งตัวเอง จนได้คำตอบในที่สุด
ด้านโลกออนไลน์ได้มาร่วมกันคิดช่วยแก้ปัญหา เช่น มีความจำเป็นแค่ไหนที่ต้องไปรับลูกตอนบ่าย 3 ครึ่งเป๊ะ ๆ ปล่อยลูกเล่นกีฬากับเพื่อน หรือไม่เช่นนั้นก็หาที่เรียนพิเศษให้ลูก เพื่อรอก่อนเวลาที่พ่อแม่จะมารับกลับประมาณ 4-5 โมงเย็น ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องเอาไปคุยกับลูกและทางภรรยาอีก เพราะคาดว่าภรรยาอาจจะห่วงว่าช่วงเวลาที่ว่าง ลูกจะไปมั่วสุมกับเพื่อน
นอกจากนี้ เจ้าของกระทู้ยังบอกว่า ลูกเรียน ม.1 และ ม.3 ในขณะนี้ ซึ่งหลายคนก็เชียร์ให้น้องเรียนรู้ที่จะกลับบ้านกันเอง เพราะเด็กก็โตแล้ว อีกทั้งบ้านและโรงเรียนก็ไม่ห่างจากบีทีเอสมากนะ แต่พอเด็กเป็นวัยรุ่นแล้วก็คงจะอยากไปไหนมาไหนกับเพื่อนบ้าง ไม่จำเป็นต้องไปมั่วสุมอย่างเดียว และเจ้าของกระทู้ก็มีนาฬิกาที่ระบุพิกัดว่าลูกอยู่ตรงไหน ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล
ในขณะที่บางคนก็เข้ามาแชร์เทคนิค เช่น ถ้าพ่อแม่ไม่ว่างมารับ ให้ลงเรียนพิเศษกับทางโรงเรียนฆ่าเวลาได้ และปล่อยลูกให้ไปเล่นเตะบอลกับเพื่อน ๆ บ้าง หรือไม่เช่นนั้นก็นัดลูกมาที่ออฟฟิศแทน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแวะรับและกลับบ้านด้วยกัน
สุดท้าย เจ้าของกระทู้ก็บอกว่าได้รับคำตอบแล้ว คือจะหากิจกรรมให้ลูกทำ เพื่อให้ลูกเลิก 16.30 จากนั้นค่อยให้ภรรยาไปรับลูกเอง