คืบหญิงไทยถูกสามีฆ่าที่โอมาน เพื่อนสนิท ชี้
ต้องการนำศพกลับมาเท่านั้น ไม่ใช่เถ้ากระดูก งานนี้มีคนไทยในโอมานแฉกลับ
บอกที่เธอเล่ามาผิดข้อเท็จจริง ตกลงยังไงกันแน่

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pawarisa Oil
จากกรณีที่มีการเปิดเผยเรื่องราวน้องแพรว หญิงไทยถูกสามีชาวโอมานฆ่าด้วยการจับโยนตึก 5 ชั้นจนเสียชีวิต หลังทะเลาะกัน ตอนนี้ต้องการความช่วยเหลือในการนำศพกลับไทยให้ได้ เพราะมีค่าใช้จ่ายพอสมควร

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pawarisa Oil
ล่าสุด วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 ช่อง 3 รายงานว่า ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนางสาวศุภรัตน์ งันลาโสม วัย 30 ปี หรือน้องแพรว ผู้เสียีวิต อยู่ที่ ต.เต่างอย อ.เต่างอย จ.สกลนคร ก่อนที่จะพบกับนางจำเนียร หาแก่น วัย 61 ปี มีศักดิ์เป็นน้า
นางจำเนียร กล่าวว่า น้องแพรวเคยมีสามีมาแล้ว มีบุตรด้วยกัน 2 คน ก่อนที่จะเลิกรากัน กระทั่งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ไปทำงานที่ประเทศโอมาน กลับไทยบ้างในบางโอกาส เมื่อทราบข่าวว่าน้องแพรวเสียชีวิต คุณพ่อที่ป่วยจิตเวชก็ร้องไห้ ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำ บอกเพียงแค่ว่า รอพ่อ เดี๋ยวพ่อตามไป ตอนนี้ญาติจึงเฝ้าระวังกลัวว่าจะฆ่าตัวตาย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pawarisa Oil
ส่วนสาเหตุที่ตนรู้ เพราะมีคลิปเสียงที่มาจากเพื่อนที่พักอยู่ด้วยกันบอกว่า น้องแพรวทะเลาะกับสามีชาวโอมาน จึงถูกสามีตีจากชั้นล่างจนถึงชั้น 4 มองดูอีกทีไม่เห็นแล้ว ไม่รู้ถูกผลักหรือโยนลงจากตึก ทำให้ตนอยากรู้ว่า คดีนี้จะเป็นอย่างไร จะนำตัวคนทำผิดมาลงโทษได้หรือไม่
สำหรับเรื่องศพ ตนอยากนำเอาศพกลับไทย ไม่ใช่เอาเถ้ากระดูกกลับมา ซึ่งการนำศพมานั้นมีค่าใช้จ่าย 1.5 แสนบาท แต่ตอนนี้มีเงินจากการบริจาคอยู่ที่ 9 หมื่นเท่านั้น

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pawarisa Oil
คนไทยในโอมานแย้งน้องออย สิ่งที่พูดออกสื่อผิดข้อเท็จจริงหมด
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้กลับมีคนมาค้านน้องออย ชื่อว่านาตาลี เป็นคนไทยที่อยู่ในโอมาน โดยคุณนาตาลี ระบุว่า เข้าใจว่าน้องออยเป็นเพื่อนกับผู้ตาย และต้องการคืนความยุติธรรมให้ แต่กรุณาเอาความจริงมาพูดด้วย ไม่ใช่เอาสิ่งที่รู้ไม่จริงกับสื่อไปเปิดเผยกับสื่อ และขอชี้แจงความจริงดังนี้
1. น้องออยบอกว่าเป็นคนติดต่อกับญาติผู้ตาย แต่ในความเป็นจริงพวกเพื่อน ๆ และคุณนาตาลีต่างหากเป็นคนติดต่อไปก่อนหน้านี้ และการที่น้องออยให้สัมภาษณ์สื่อ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในการประสานงานได้
2. ยังไม่มีการเผาศพน้องแพรว และศพอยู่กับทางตำรวจ ตอนนี้มีความเข้าใจผิดกับญาติผู้เสียชีวิตเพราะน้องออยให้สัมภาษณ์โดยไม่รู้ความเป็นจริง
3. ผู้ก่อเหตุคือแฟนของน้องแพรว เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว ตรงข้ามกับที่น้องออยออกมาบอกว่า คนร้ายหลบหนีลอยนวล
4. การที่น้องออยบอกว่า เพื่อนของน้องออยเป็นคนเล่าให้ฟังเพราะอยู่ในเหตุการณ์ แต่ตอนนี้เพื่อนคนนั้นก็ยังไม่ให้การกับตำรวจแต่อย่างใด
5. ไม่มีการนั่งทานข้าวข้างล่างตอนเที่ยงตามที่อ้างกับสื่อ เพราะความจริงร้านอาหารเปิดตอนบ่ายโมง
สุดท้ายยืนยันว่า คนไทยในโอมานติดตามสถานการณ์น้องแพรวอย่างใกล้ชิด ไม่มีทางนิ่งนอนใจ และตำรวจก็ยังไม่สรุปสำนวนคดีหรือปิดคดีแต่อย่างใด ตอนนี้แคแอยากขอให้น้องออกออกมาสัมภาษณ์สื่อตามความเป็นจริงเท่านั้น
ทว่าเรื่องนี้ น้องออยก็ยืนยันหนักแน่นว่า ที่ออกมาพูดเพราะต้องการเอาศพน้องแพรวกลับเท่านั้น ไม่ใช่เอากลับมาแบบกระดูก และการที่ใครจะบอกญาติก่อนหลังก็ไม่สำคัญ สำคัญที่สุดคือการช่วยเพื่อน ช่วยคดี ถ้าหากสิ่งที่ตนพูดไม่เป็นความจริง คนทางนั้นก็ช่วยพูดข้อมูลออกมาด้วย เพราะเท่าที่ฟังไม่มีใครพูดตรงกันเลย
