เปิดชีวิต แม่วัย 40 มีลูกล้นบ้าน 44 คน หลังมีภาวะเจริญพันธุ์ผิดปกติ เผยชีวิตสุดทรหด ต้องกัดฟันหาเงินเลี้ยงลูกคนเดียว หลังผัวตัวดีหนีหายไปพร้อมเงิน

วันที่ 24 มิถุนายน 2565 เว็บไซต์ news.com.au มีรายงานเรื่องราวของ มาเรียม นาบาแทนซี หญิงชาวยูกันดาอายุ 40 ปี ซึ่งเป็นคุณแม่ของลูก ๆ จำนวน 44 คน จนทำให้เธอได้รับการขนานนามว่าเป็น "คุณแม่แห่งยูกันดา" หลังจากที่เธอเผชิญปัญหาเกี่ยวกับภาวะการเจริญพันธุ์ โดยไม่สามารถใช้วิธีคุมกำเนิดได้ จำต้องปล่อยให้ตัวเองมีลูกเรื่อย ๆ และตอนนี้เธอก็ต้องกัดฟันสู้เลี้ยงลูก ๆ ด้วยตัวคนเดียว เพราะสามีได้ทิ้งครอบครัวไปแล้ว
รายงานเผยว่า มาเรียมกลายเป็นคุณแม่เจ้าของสถิติมีลูกมากที่สุดในโลก โดยเธอมีลูกแฝดมาแล้ว 4 ครั้ง แฝดสาม 5 ครั้ง และแฝดสี่อีก 5 ครั้ง โดยมีเพียง 1 ครั้งเท่านั้นที่เธอคลอดทารกเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ลูกของเธอเสียชีวิตไปแล้ว 6 คน ทำให้ขณะนี้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับลูกอีก 38 คนที่เหลืออยู่

จุดเริ่มต้น ชีวิตไม่เคยมีคำว่าง่าย
สำหรับมาเรียม ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความเศร้า โดยพบว่าเธอถูกบังคับให้แต่งงานตอนอายุ 12 ปี หลังจากที่พ่อแม่นำเธอมาขายแลกกับเงินสินสอด เธอเริ่มมีลูกคนแรกตั้งแต่อายุ 13 ปี แต่เนื่องจากยูกันดาเป็นประเทศที่มีอัตราการเจริญพันธุ์สูงมาก ผู้หญิง 1 คนจะมีลูกเฉลี่ย 5.6 คน ซึ่งสูงเป็น 2 เท่าจากค่าเฉลี่ยของทั่วโลก ทำให้มาเรียมไม่รู้สึกว่าตัวเองมีความผิดปกติอะไร ตอนที่ตั้งครรภ์ลูกคนอื่น ๆ
มาเรียมเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองต่างจากผู้หญิงคนอื่น หลังจากที่เธอคลอดลูกแฝด แฝดสาม และแฝดสี่ มาหลายครั้ง ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจไปตรวจร่างกายที่คลินิกสุขภาพ กระทั่งได้ทราบจากหมอว่า เธอมีขนาดรังไข่ใหญ่ผิดปกติ จนเกิดภาวะการตกไข่มากเกินไป ซึ่งวิธีการคุมกำเนิดจะไม่ได้ผล และมีแนวโน้มจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพรุนแรงได้
จริง ๆ แล้ว มีวิธีการรักษาภาวะตกไข่มากเกินไปอยู่เช่นกัน แต่มันยากที่ผู้คนในพื้นที่ชนบทของยูกันดา จะเข้าถึงวิธีการในการรักษา ขณะที่ ดร.ชาร์ลี กิกกุนดู นรีแพทย์จากโรงพยาบาลมูลาโก ในกรุงกัมปาลา เมืองหลวงของยูกันดา มองว่าสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดในเคสของมาเรียม น่าจะเป็นเรื่องพันธุกรรม
ข้อมูลจาก มาโย คลินิก บริษัทด้านสุขภาพในสหรัฐฯ ระบุว่า ภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป (OHSS) ชนิดรุนแรง อาจนำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ เช่น การสั่งสมของเหลวในช่องท้องและอก เกิดลิ่มเลือด ไตวาย การบิดของรังไข่ หรือแม้แต่เกิดปัญหาด้านการหายใจ
กัดฟันสู้เพื่อลูก ๆ หลังสามีทิ้ง
สุดท้ายเธอก็ไม่มีทางเลือก นอกจากต้องปล่อยให้ตัวเองมีลูกต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่สามีก็ชอบหายออกจากบ้านไปบ่อย ๆ จนกระทั่งในปี 2559 ซึ่งเป็นปีที่เธอคลอดลูกคนสุดท้าย สามีก็ตัดสินใจทิ้งเธอกับลูก ๆ ไปพร้อมกับเงินทั้งหมดที่มี
"ฉันเติบโตมาทั้งน้ำตา ผู้ชายคนนี้สร้างความทรมานแก่ฉันมาก" มาเรียม กล่าวถึงอดีตสามี
มาเรียมเล่าว่า ในปีที่เธอมีลูกคนสุดท้อง ในที่สุดหมอก็ตัดสินใจทำการตัดมดลูกของเธอไป
แม้เธอจะไม่ได้มีลูกเพิ่มแล้ว แต่ชีวิตในฐานะแม่ของเธอไม่ใช่เรื่องง่าย มาเรียมต้องทำงานทุกอย่างเพื่อหาเงิน ไม่ว่าจะเป็นช่างตัดผม เก็บเศษเหล็ก ต้มเหล้าขาย หรือแม้กระทั่งขายยาสมุนไพร แต่เงินทั้งหมดที่ได้มาก็หายไปทันทีกับการซื้ออาหาร เสื้อผ้า ค่ารักษาพยาบาล และค่าเล่าเรียน
ปัจจุบัน มาเรียมกับลูก ๆ ใช้ชีวิตกับอยู่ในบ้านอันคับแคบที่ทำงานบล็อกซีเมนต์ และหลังคาสังกาสี ภายในหมู่บ้านที่รายล้อมด้วยไร่กาแฟ แม้จะมีผู้หญิงใจดีช่วยบริจาคเตียง 2 ชั้นมาให้ แต่การที่เด็ก ๆ ต้องนอนอัดกันถึงห้องละ 12 คน ก็ยังทำให้บ้านค่อนข้างคับแคบอยู่ดี
ด้าน โจ ฮัตแทบ หนึ่งในลูกชายของเธอ ชี้ว่าแม่เป็นเหมือนฮีโร่สำหรับเขา
ขณะที่ อีวาน คิบูกา ลูกชายคนโต ซึ่งตอนนี้อายุ 20 กว่าปี ยอมรับว่าเขาจำต้องหยุดเรียนตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยม เนื่องจากเมื่อไม่สามารถส่งเสียได้อีก แม่ทำงานหนักมาก แม้ว่าพวกเขาจะพยายามช่วยในสิ่งที่พอจะทำได้ เช่นการทำอาหารและการซักล้าง แต่แม่ก็ยังต้องแบกรับภาระทั้งหมดของครอบครัวอยู่ดี เขาเห็นใจแม่มาก
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก news.com.au