คนทำความสะอาด ใครว่ารายได้ต่ำ อาจได้ค่าจ้างสูงถึงปีละ 3 ล้าน ในออสเตรเลีย หลังบริษัททำความสะอาดเจอวิกฤตขาดแคลนแรงงาน ยอมอัปค่าจ้าง ล่อใจคนทำงาน
ในขณะที่ผู้คนหลาย ๆ อาชีพกำลังเผชิญปัญหาค่าแรงต่ำ รายได้แทบไม่พอสำหรับค่าครองชีพ แต่สำหรับอาชีพซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการตัวของตลาดแรงงานในบางประเทศนั้น ค่าจ้างที่ได้รับอาจจะสูงจนทำเอาหลายคนถึงกับอึ้ง ดังเช่นอาชีพพนักงานทำความสะอาดในออสเตรเลีย ที่อาจมีโอกาสทำเงินได้สูงถึงปีละ 124,800 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 3 ล้านบาท
โดยข้อมูลจากเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 เปิดเผยว่า ออสเตรเลียกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงาน ทำให้บริษัททำความสะอาดต่าง ๆ จำต้องปรับเพิ่มค่าแรงรายชั่วโมง เพื่อดึงดูดใจคนให้สมัครเข้ามาทำงาน ดังนั้นต่อให้เป็นแรงงานใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ทำงาน ก็ยังมีโอกาสทำเงินได้มากเช่นกัน
เธอชี้ว่าการเพิ่มค่าจ้างนั้นสร้างความแตกต่างอย่างมาก และพนักงานก็แฮปปี้เช่นกัน

เมื่อ 9 เดือนก่อน เธอปรับค่าจ้างขึ้นเป็นชั่วโมงละ 35 ดอลลาร์ (ราว 850 บาท) แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ ดังนั้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้จึงเพิ่งปรับขึ้นเป็นชั่วโมงละ 45 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม แม้จะปรับขึ้นค่าจ้างแล้วแต่ทางบริษัทก็ยังยากจะหาคนทำความสะอาดในบางพื้นที่อยู่ดี พวกเธอจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาล อนุญาตให้นักเรียนชาวต่างชาติ สามารถรับจ๊อบทำงานในจำนวนชั่วโมงที่มากขึ้นได้
ไม่ใช่เพียงแค่บริษัท Absolute Domestics ที่ต้องปรับค่าแรงเพื่อต่อสู้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน บริษัททำความสะอาดที่อื่นก็ใช้กลยุทธ์เดียวกัน เช่น Urban Company ซึ่งยอมเพิ่มค่าจ้างจากชั่วโมงละ 35 ดอลลาร์ เป็นชั่วโมงละ 40 - 54.99 ดอลลาร์ (ราว 970 - 1,300 บาท) และอาจได้รับเงินสูงถึงชั่วโมงละ 60 ดอลลาร์ (ราว 1,400 บาท) ขึ้นอยู่กับว่าพนักงานสามารถทำความสะอาดได้เร็วแค่ไหน
ซึ่งนั่นหมายความว่าพนักงานทำความสะอาดที่ทำงานเต็มเวลาของบริษัทแห่งนี้ มีโอกาสได้รับรายได้สูงถึงปีละ 124,800 ดอลลาร์ หรือราว 3 ล้านบาท
แม้แต่ Gutter Boy บริษัททำความสะอาดหน้าต่างและรางน้ำ ก็ยังเสนอค่าจ้างสูงถึงชั่วโมงละ 50 ดอลลาร์ (ราว 1,200 บาท) ในการทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน ขณะที่บริษัทล้างรถ Crystal ถึงกับลงประกาศหางาน ด้วยการเสนอค่าจ้างชั่วโมงละ 30 ดอลลาร์ (ราว 730 บาท) โดยผู้ที่สนใจไม่จำเป็นต้องโทร. ติดต่อมา ขอแค่วอล์กอินมายังจุดที่ต้องการทำงาน ก็สามารถเริ่มงานได้ทันที
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่เมล






