รพ.รามาฯ เตือนหลังพบเคสคนไข้ ฉีดฟิลเลอร์ มีอาการตามัว มองไม่เห็น ขาอ่อนแรง แนะต้องใช้บริการกับแพทย์และคลินิกที่ไว้ใจได้
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ปัจจุบันเทคโนโลยีการเสริมความงามนั้น เป็นที่นิยมและเปิดกันอย่างแพร่หลายมาก หนึ่งในนั้นก็คือการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อช่วยให้ใบหน้ากระจับและลดริ้วรอย แต่อีกด้านหนึ่งก็อาจต้องตรวจสอบให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดผลที่ตามมาที่ร้ายแรงได้เช่นกัน
ล่าสุด (6 กรกฎาคม 2565) สาขาวิชาผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Ramadermatology ออกมาเตือนผลข้างเคียงจากการฉีดที่เกิดจากการฉีด HA Filler (Hyaluronic Acid Filler)
โดยพบเคสที่คนไข้รายหนึ่ง ฉีด HA filler บริเวณ Glabella (แสกหน้า) ระหว่างคิ้วและเหนือจมูก ภายหลังฉีดมีอาการตามัว ปวดตาข้างซ้าย ซึมลง ร่วมกับมีอาการขาอ่อนแรงทันที
ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้รับการรักษาด้วยการฉีดเมทิลเพรดนิโซโลน (Methylprednisolone) โดยภายหลังการรักษา 2 สัปดาห์ พบว่าอาการอ่อนแรงเริ่มดีขึ้น แต่ผู้ป่วยยังมองไม่เห็นเหมือนเดิม
ล่าสุด (6 กรกฎาคม 2565) สาขาวิชาผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Ramadermatology ออกมาเตือนผลข้างเคียงจากการฉีดที่เกิดจากการฉีด HA Filler (Hyaluronic Acid Filler)
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ramadermatology
โดยพบเคสที่คนไข้รายหนึ่ง ฉีด HA filler บริเวณ Glabella (แสกหน้า) ระหว่างคิ้วและเหนือจมูก ภายหลังฉีดมีอาการตามัว ปวดตาข้างซ้าย ซึมลง ร่วมกับมีอาการขาอ่อนแรงทันที
ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้รับการรักษาด้วยการฉีดเมทิลเพรดนิโซโลน (Methylprednisolone) โดยภายหลังการรักษา 2 สัปดาห์ พบว่าอาการอ่อนแรงเริ่มดีขึ้น แต่ผู้ป่วยยังมองไม่เห็นเหมือนเดิม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ramadermatology
จากเคสดังกล่าวมีข้อแนะนำถึงแพทย์ว่า สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์คือ การมีความรู้เรื่อง อนาโตมีอย่างแม่นยำ ฉีดด้วยความระมัดระวัง Early detection กรณีมี Complications
สำหรับผู้ที่จะเข้าเสริมความงามด้วยการฉีดฟิลเลอร์นั้น แนะนำว่าควรตรวจสอบว่าแพทย์ที่ให้บริการเป็นแพทย์หรือไม่ และควรเลือกใช้บริการกับแพทย์และสถานพยาบาลที่ไว้ใจได้
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Ramadermatology