ดราม่าสินสอด หนุ่มสาวตกลงแต่งงาน แค่จูงมือกันจดทะเบียน สินสอดไม่ต้องมี แต่จู่ ๆ พ่อฝ่ายหญิงเรียก 2 ล้าน หลังรู้ผู้ชายที่มีดิน คนวิจารณ์สนั่น เหมือนขายลูกกิน

หลายครั้งหลายครา ที่แม้คู่รักจะสานสัมพันธ์กันจนถึงขั้นเตรียมแต่งงาน แต่ความรักนั้นต้องจบลงอย่างน่าเศร้าจากปัญหาของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการไม่ยอมรับจากทางบ้าน หรือแม้กระทั่งปัญหาเรื่องสินสอด และการจัดเตรียมงานแต่งงาน
ขณะที่ล่าสุด (12 กรกฎาคม 2565) เว็บไซต์ ETtoday เปิดเผยเรื่องราวที่น่าเศร้าของคู่รักอีกคู่จากไต้หวัน ที่ฝ่ายชายจำต้องบอกเลิกคนรักของเขา เพราะทนรับการเรียกร้องจากพ่อของเธอไม่ไหว ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกลายมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ต เมื่อเพื่อนของทั้งคู่นำเรื่องราวมาบอกเล่าในกลุ่มเฟซบุ๊ก 爆廢公社
ด้วยสถานการณ์ความลำบากจากช่วงที่มีโรคระบาด ตลอดจนทั้งคู่ไม่ได้ชอบงานรื่นเริงขนาดนั้น พวกเขาจึงตกลงกันว่า จะมีเพียงการซื้อชุดแต่งงานและไปจดทะเบียนสมรสกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีการจัดงานแต่งงาน รวมถึงไม่มีการมอบสินสอดใด ๆ ทั้งนั้น
หลังจากนั้นครอบครัวของทั้ง 2 คนก็ได้นัดพบกันที่ร้านอาหาร ซึ่งตอนแรกพ่อแม่ของว่าที่คู่รักต่างก็ทราบดีถึงเรื่องที่ลูก ๆ ตกลงกันไว้ แต่อยู่ ๆ พ่อฝ่ายหญิงก็พูดขึ้นมากลางโต๊ะอาหาร เรียกร้องเงินสินสอดจำนวน 2.16 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 2.61 ล้านบาท) พร้อมแจกแจงว่าเงินส่วนไหน คือค่าอะไรบ้าง
ตอนนั้นบรรยากาศบนโต๊ะเงียบงันไป ชายหนุ่มจึงถามย้ำอีกครั้ง ซึ่งพ่อของฝ่ายหญิงก็ยืนยันหนักแน่น "ใช่ ฉันต้องการเงินส่วนนี้ เว้นแต่นายจะไม่อยากแต่งงานกับลูกสาวฉันแล้ว"
อย่างไรก็ตาม แฟนหนุ่มชี้ว่า สาเหตุที่เขาเล่าให้เธอฟังเรื่องที่ดินนั้น เป็นเพราะเขามีแผนจะขายที่ดิน เพื่อนำเงินมาซื้อบ้านอยู่กับเธอในอนาคต ไม่คาดคิดว่าจะถูกพ่อแม่ของแฟนเรียกนำมาใช้เรียกร้องเงินจำนวนมากขนาดนี้
ทั้งนี้ เขากับแฟนพยายามคุยกันเรื่องนี้หลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง ชายหนุ่มเผยว่าพ่อของแฟนสาวบอกชัดเจนว่าต้องการเงิน ไม่งั้นก็ไม่ต้องมาแต่งงานกับลูกสาว ในขณะที่เขาคิดว่าการยกสินสอดให้ มีแต่จะสร้างปัญหาตามมาไม่รู้จัก ในอนาคตครอบครัวของฝ่ายหญิงอาจจะมาเรียกร้องเงินจากเขาอีกก็ได้ ถ้าเงินหมด
ท้ายที่สุดเขาจึงตัดสินใจที่จะจบความสัมพันธ์กับแฟนสาว เพราะปัญหาเรื่องสินสอดกับพ่อของเธอ
ขณะที่ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาคอมเมนต์ บางคนก็บอกว่า "ถ้ากล้ารับสินสอด ก็ต้องกล้าให้สินสอดคืนสิ มันดีสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย" นอกจากนี้ยังมีบางคนต่อว่าถึงฝ่ายหญิง ชี้ว่าแม้พ่อของเธอจะทำเกินไป แต่พวกเขาก็อยากจะถามเธอคนนี้ว่า เพิ่งรู้จักพ่อตัวเองมาแค่ 1-2 วันหรือยังไง เดาไม่ออกหรือว่าเขาจะมีแผนอะไรอยู่
รวมถึงมีคนที่อดทึ่งไม่ได้ ชี้ว่านี่มันยุคสมัยไหนแล้ว นี่มันคือการแต่งงานหรือการขายลูกสาวกันแน่
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday, Chinapress






