ด.ญ. วัย 12 ปี ถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืนทั้งที่นอนข้าง ๆ แม่ สะกิดแม่ก็ไม่ช่วย แถมบอกให้อดทนเพราะเขาให้เงินใช้ สุดทนเขียนระบายความอัดอั้นเป็นเรียงความส่งครู แม่บอกให้อดทน เพราะพ่อเลี้ยงไม่ได้รักแม่ แต่รักลูก
เดลินิวส์ รายงานกรณีเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี ได้เดินทางไปร้องทุกกับ นางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังทราบว่า ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ลูกสาวถูกผู้เป็นพ่อเลี้ยงข่มขืนกระทำชำเรา
นายเอ เล่าว่าตนและอดีตภรรยาแยกทางกัน ต่างคนต่างก็มีคนใหม่ ช่วงแรกลูกอยู่ในความดูแลของตน กระทั่งเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2565 อดีตภรรยาได้มารับลูกไปอยู่ด้วย และพยายามกีดกันไม่ให้ตนติดต่อกับลูก กระทั่งวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ครูของลูกได้โทร. มาหา ให้ตนไปพบที่โรงเรียนก่อนจะแจ้งว่าลูกสาวเขียนเรียงความระบายความในใจ
โดยเนื้อหาในเรียงความมีใจความว่า ด.ญ.บี ถูกพ่อเลี้ยงกระทำชำเรา
ซึ่งแม่แท้ ๆ รู้แต่ไม่ให้ความช่วยเหลือ อีกทั้งยังบอกให้อดทน
เพราะพ่อเลี้ยงไม่ได้รักแม่ แต่รักลูก พ่อเลี้ยงบอกจะส่งเสียดูแลตนไปจนตาย
แต่ตนกลัวไม่อยากทำอีก ต้องทนทุกข์ ไม่รู้จะขอให้ใครช่วย
นายเอ ระบุว่า หลังจากนั้น ลูกก็มาเล่าให้ตนฟังว่าช่วงที่อยู่กับแม่ ลูกถูกพ่อเลี้ยงกระทำชำเรา 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 นอนด้วยกัน 3 คน กลางดึก ลูกถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน พยายามสะกิดให้แม่ช่วยแต่แม่ไม่ตื่น โดยหลังเกิดเหตุทุกครั้ง ลูกก็บอกแม่ทุกครั้งแต่แม่ไม่ช่วย แถมยังบอกให้อดทนเพราะเขาให้เงินใช้ เมื่อตนรู้เช่นนั้นก็โกรธมาก รีบรับลูกจากโรงเรียนแล้วพาไปแจ้งความ หลังจากนั้นพ่อเลี้ยงก็ติดต่อมาขออย่าเอาเรื่อง โดยจะจ่ายค่าเสียหายให้ 1 แสนบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี แต่ตนไม่ยอมจึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณา
ล่าสุด (20 กรกฎาคม 2565) ช่อง 3 รายงานว่า นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางไปที่ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อนำหลักฐานไปยื่นค้านประกันตัวหลังทราบว่าพ่อเลี้ยงได้เข้ามอบตัวจากตำรวจ และยังมีพฤติกรรมคุกคามพ่อแท้ ๆ ให้ถอนแจ้งความ โดย นายเอ ได้นำคลิปเสียงการสนทนามาเปิดให้นางปวีณา และเจ้าหน้าที่ตำรวจฟัง กรณีที่พ่อเลี้ยงจะจ่ายเงินแลกกับไม่ให้ดำเนินคดี
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า หลังจากพ่อแท้ ๆ ได้เข้ามาร้องทุกข์นั้น ทางตำรวจได้ส่งตัว ด.ญ.บี ไปตรวจร่างกาย และนัดสหวิชาชีพสอบปากคำและออกหมายจับพ่อเลี้ยงไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 แต่ผู้ต้องหาหลบหนีไปต่างจังหวัดและย้ายไปอาศัยบ้านญาติหลายที่ ตำรวจได้ตามไปทุกที่เพื่อกดดันกระทั่งมีการติดต่อเข้ามอบตัว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกการจับกุมแล้วและจะดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เบื้องต้นก็ได้ประสานกับทางมูลนิธิปวีณาฯ มาโดยตลอดและทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกและรีบเร่งรัดดำเนินการและกดดันผู้ต้องหาจนต้องข้อเข้ามอบตัว
ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า พ่อเด็กได้เข้ามาร้องทุกข์กับมูลนิธิ และมีการคุยกับครูของเด็ก ครูก็ห่วงเด็กมากเพราะเด็กบอกว่าไม่มีใครช่วยเหลือจนเด็กกดดัน กระทั่งวันที่ครูให้เขียนเรียงความ เด็กจึงเขียนระบายความรู้สึกดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม พ่อแท้ ๆ ได้ยื่นหลักฐานว่าพ่อเลี้ยงมีการคุกคาม และเผยคลิปเสียงไกล่เกลี่ยจ่ายเงินแทนดำเนินคดี ซึ่งตนมองว่าพ่อแท้ ๆ และเด็กควรจะได้รับความเป็นธรรม แต่ตอนนี้ทางตำรวจก็เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว ไม่ว่าเป็นสมุดที่เขียนเรียงความส่งครู คลิปเสียงที่คุยกับพ่อแท้ ๆ ที่พ่อเลี้ยงรับสารภาพและจะจ่ายเงินตรงนั้นก็เป็นหลักฐานยืนยันว่าเขาได้กระทำผิดจริง ตอนนี้ก็มอบหน้าที่ให้ทางตำรวจดำเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรม
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์, ช่อง 3
นายเอ เล่าว่าตนและอดีตภรรยาแยกทางกัน ต่างคนต่างก็มีคนใหม่ ช่วงแรกลูกอยู่ในความดูแลของตน กระทั่งเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2565 อดีตภรรยาได้มารับลูกไปอยู่ด้วย และพยายามกีดกันไม่ให้ตนติดต่อกับลูก กระทั่งวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ครูของลูกได้โทร. มาหา ให้ตนไปพบที่โรงเรียนก่อนจะแจ้งว่าลูกสาวเขียนเรียงความระบายความในใจ
นายเอ ระบุว่า หลังจากนั้น ลูกก็มาเล่าให้ตนฟังว่าช่วงที่อยู่กับแม่ ลูกถูกพ่อเลี้ยงกระทำชำเรา 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 นอนด้วยกัน 3 คน กลางดึก ลูกถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน พยายามสะกิดให้แม่ช่วยแต่แม่ไม่ตื่น โดยหลังเกิดเหตุทุกครั้ง ลูกก็บอกแม่ทุกครั้งแต่แม่ไม่ช่วย แถมยังบอกให้อดทนเพราะเขาให้เงินใช้ เมื่อตนรู้เช่นนั้นก็โกรธมาก รีบรับลูกจากโรงเรียนแล้วพาไปแจ้งความ หลังจากนั้นพ่อเลี้ยงก็ติดต่อมาขออย่าเอาเรื่อง โดยจะจ่ายค่าเสียหายให้ 1 แสนบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี แต่ตนไม่ยอมจึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณา
ล่าสุด (20 กรกฎาคม 2565) ช่อง 3 รายงานว่า นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางไปที่ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อนำหลักฐานไปยื่นค้านประกันตัวหลังทราบว่าพ่อเลี้ยงได้เข้ามอบตัวจากตำรวจ และยังมีพฤติกรรมคุกคามพ่อแท้ ๆ ให้ถอนแจ้งความ โดย นายเอ ได้นำคลิปเสียงการสนทนามาเปิดให้นางปวีณา และเจ้าหน้าที่ตำรวจฟัง กรณีที่พ่อเลี้ยงจะจ่ายเงินแลกกับไม่ให้ดำเนินคดี
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า หลังจากพ่อแท้ ๆ ได้เข้ามาร้องทุกข์นั้น ทางตำรวจได้ส่งตัว ด.ญ.บี ไปตรวจร่างกาย และนัดสหวิชาชีพสอบปากคำและออกหมายจับพ่อเลี้ยงไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 แต่ผู้ต้องหาหลบหนีไปต่างจังหวัดและย้ายไปอาศัยบ้านญาติหลายที่ ตำรวจได้ตามไปทุกที่เพื่อกดดันกระทั่งมีการติดต่อเข้ามอบตัว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกการจับกุมแล้วและจะดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เบื้องต้นก็ได้ประสานกับทางมูลนิธิปวีณาฯ มาโดยตลอดและทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกและรีบเร่งรัดดำเนินการและกดดันผู้ต้องหาจนต้องข้อเข้ามอบตัว
ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า พ่อเด็กได้เข้ามาร้องทุกข์กับมูลนิธิ และมีการคุยกับครูของเด็ก ครูก็ห่วงเด็กมากเพราะเด็กบอกว่าไม่มีใครช่วยเหลือจนเด็กกดดัน กระทั่งวันที่ครูให้เขียนเรียงความ เด็กจึงเขียนระบายความรู้สึกดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม พ่อแท้ ๆ ได้ยื่นหลักฐานว่าพ่อเลี้ยงมีการคุกคาม และเผยคลิปเสียงไกล่เกลี่ยจ่ายเงินแทนดำเนินคดี ซึ่งตนมองว่าพ่อแท้ ๆ และเด็กควรจะได้รับความเป็นธรรม แต่ตอนนี้ทางตำรวจก็เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว ไม่ว่าเป็นสมุดที่เขียนเรียงความส่งครู คลิปเสียงที่คุยกับพ่อแท้ ๆ ที่พ่อเลี้ยงรับสารภาพและจะจ่ายเงินตรงนั้นก็เป็นหลักฐานยืนยันว่าเขาได้กระทำผิดจริง ตอนนี้ก็มอบหน้าที่ให้ทางตำรวจดำเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรม
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์, ช่อง 3
