ป่วนหนัก ไวรัลคนห่ามเปลี่ยนขบวนรถไฟใต้ดินเป็นปาร์ตี้ เต้นเด้งก้น - ไถลตัวบนพื้นรถไฟสนุกสนาน เรียกเสียงวิจารณ์สนั่น แทบไม่อยากเชื่อสายตา ทั้งเลวร้ายและสกปรก
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @_mikefromqueens
วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 เว็บไซต์อินดี้ 100 รายงานว่า คลิปปาร์ตี้อันบ้าคลั่งที่เกิดขึ้นภายในรถไฟใต้ดินของนิวยอร์กซิตี ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ กลายมาเป็นไวรัลล่าสุดที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกออนไลน์ หลายคนแทบไม่เชื่อสายตากับสิ่งที่ได้เห็นความโกลาหลปั่นป่วนที่เกิดขึ้นภายในขบวนรถไฟที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
คลิปดังกล่าวที่ถูกโพสต์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @_mikefromqueens เผยให้เห็นกลุ่มชายและหญิงจำนวนมากรวมตัวจัดปาร์ตี้กลางขบวนรถไฟ โดยมีทั้งสาว ๆ ในชุดบิกินี่ สไลด์น้ำ สระยาง รวมถึงแอลกอฮอล์ ขณะที่คนอื่น ๆ พากันมุงดูความวุ่นวายนั้นด้วยความงุนงง พร้อมยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอัดคลิป ระหว่างนั้นสาว ๆ ทั้งหลายต่างพากันออกมาเต้นเด้งก้นอย่างสนุกสนาน บางช่วงยังมีผู้ชายคนอื่น ๆ มาแจม ด้วยการเต้นเด้งเอวอยู่ด้านหลังของพวกเธอ
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @_mikefromqueens
สิ่งที่เกิดขึ้นนับเป็นภาพอุกอาจที่ชาวเน็ตไม่คิดว่าจะได้พบเห็น รายงานเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนรถไฟใต้ดินขบวนหนึ่งในนิวยอร์กซิตี แต่ไม่ได้ระบุว่าถ่ายขึ้นในช่วงใด อย่างไรก็ตาม พบว่ายังมีคนอื่นนำคลิปจากเหตุการณ์เดียวกันมาโพสต์บนทวิตเตอร์ด้วย พร้อมบอกว่า "เป็นขบวนรถไฟที่วุ่นวายที่สุดเท่าที่เคยมีมา"
ในขณะที่คลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลก็มีผู้คนมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็น บอกว่า "มันเกิดอะไรขึ้นที่นั่น" และ "อย่าแม้แต่จินตนาการถึงกลิ่นที่จะทำให้เราทรมาน" กับบางคนที่มองว่า ขนาดบ้านของเธอสะอาด ๆ เธอยังทำใจเอาเท้าไปเหยียบพื้นเปียก ๆ ไม่ได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการนำเท้าเปียกสไลด์ไปบนพื้นรถไฟ
รวมถึงมีอีกหลาย ๆ คนแสดงความกังวลจากสภาพการระบาดของโรคในขณะนี้ บอกว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายและสกปรกอย่างยิ่ง ไม่แปลกใจที่จำนวนผู้ป่วยโควิด 19 กับฝีดาษลิงมีจำนวนเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทิม มินตัน ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของสำนักงานขนส่งนครหลวง ผู้ให้บริการรถไฟใต้ดิน กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มันคล้ายจะเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นแบบฮอลลีวูด หรือการแสดงผาดโผนโง่ ๆ เท่านั้น พร้อมย้ำว่าชาวนิวยอร์กไม่ยินดีจะให้รถไฟเกิดความล่าช้า ตอนที่รถต้องหยุดให้บริการเนื่องจากผู้ใหญ่เห็นแก่ตัวที่กลายมาเป็นเทรนด์ในตอนนี้
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก อินดี้ 100, nypost