กูรูชี้ เหตุนกแอร์ไม่ปล่อยคนไป นาทีเป็นตายเครื่องไถลนอกรันเวย์ จน ผดส. สวดสายการบินยับ

         เปิดสภาพผู้โดยสารหลังเครื่องบินไถลรันเวย์ ติดอยู่ในเครื่องเป็นชั่วโมง หายใจลำบาก ซัดไม่มีความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ถ้าเป็นไฟไหม้คงม่องแล้ว ด้านคนเคยทำงานการบิน ชี้แจงอีกมุม เรื่องนี้ปัญหาอยู่ตรงไหนบ้าง ทำไมล่าช้า แล้วเหตุใดแอร์ไม่ปล่อยให้ผู้โดยสารลงจากเครื่อง


            จากกรณีที่เครื่องบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD108 ดอนเมือง - เชียงราย ไถลออกนอกรันเวย์ที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (30 กรกฎาคม 2565) ซึ่งต่อมาภายหลัง ทางนกแอร์ยืนยันว่าผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย แต่ผู้โดยสารกลับค้านแถลงการณ์ ที่ไม่มีการอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องทันทีที่เกิดเหตุ หากเป็นเหตุไฟไหม้ผู้โดยสารอาจเสียชีวิตไปแล้วก็ได้

อ่านเพิ่มเติม เครื่องบินนกแอร์ไถลตกรันเวย์ แจงช่วยเหลืออย่างดี เจอผู้โดยสารตีแสกหน้า หนังคนละม้วน

มุมผู้โดยสาร เล่านาทีเกิดเหตุ ต้องอยู่ในเครื่องเป็น ชม.

            ล่าสุด วันที่ 31 กรกฎาคม 2565 เฟซบุ๊ก Warangkhana Wongchai ผู้โดยสารรายหนึ่งเล่าถึงสถานการณ์หลังจากเกิดเหตุ พร้อมวิจารณ์ถึงความไม่พร้อมในการจัดการช่วยเหลือว่า ผู้โดยสารเกือบทั้งหมดต้องติดอยู่บนเครื่องนานกว่า 1 ชั่วโมง เพราะรถตู้ที่จะมารับเข้าสู่ตัวอาคารมาช้า พออยู่นานไปยิ่งรู้สึกหายใจไม่ออก ผู้โดยสารจึงขออนุญาตหัวหน้าแอร์ให้ผู้โดยสารทั้งหมดลงมาข้างนอกเครื่องได้ไหม แต่ทางหัวหน้าแอร์ไม่อนุญาต เพราะเป็นกฎของสนามบิน ห้ามคนยืนบนรันเวย์ และตอนนี้ฝนตก กลัวผู้โดยสารเปียก

            แต่สุดท้าย แอร์ทนเสียงบ่นไม่ไหวจึงให้ผู้โดยสาร 163 คนสไลด์ตัวออกนอกเครื่อง ส่วนรถตู้ที่เวียนมารับ พบว่า 1 ชั่วโมงมีเพียงแค่ 2 คัน ถ้าหากเป็นอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับไฟไหม้อาจจะไม่รอดกันยกลำ เพราะการจัดการแย่มาก

            สำหรับภาพที่เกิดขึ้นเมื่อมองจากนอกเครื่องบิน พบว่า ตัวเครื่องบินไถลออกนอกตัวรันเวย์จริง โดยมาหยุดจอดที่พื้นหญ้าข้างรันเวย์ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายคน รวมถึงเจ้าหน้าที่พยาบาลที่คอยช่วยเหลือ เผื่อมีใครได้รับบาดเจ็บ


            ส่วนความคิดเห็นของชาวเน็ต ต่างข้องใจในการเตรียมความพร้อมของสนามบินเกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำไมถึงล่าช้าขนาดนี้ ทำให้ผู้โดยสารต้องอยู่ในเครื่องบินท่ามกลางความมืดเป็นชั่วโมง หายใจลำบาก ส่วนบางคนก็เข้าใจสาเหตุที่ไม่ปล่อยผู้โดยสารลงจากเครื่อง เพราะการปล่อยคนมาอยู่บนรันเวย์สนามบิน เป็นสิ่งที่อันตรายมาก และผิดกฎการท่าชัดเจน

            อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถ้ามองกันจริง ๆ คนที่ผิดไม่ใช่สายการบิน เพราะไม่ได้มีหน้าที่จัดการเรื่องนี้ แต่คนที่ควรรับผิดชอบคือฝั่งสนามบินที่จัดประสานงานความช่วยเหลืออย่างล่าช้า ซึ่งเหตุผลอาจจะเป็นเพราะการไม่ได้เตรียมตัว เพราะเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าวก็เป็นเวลา 3 ทุ่มแล้ว พนักงานที่สแตนด์บายการทำงานยิ่งเหลือน้อย

ฟังในมุมคนเคยทำงานด้านการบิน ทำไมเรื่องนี้ถึงจัดการล่าช้า

            ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก Jirayu Aksornthab ของคุณจิรายุ อักษรทับ ซึ่งเคยมีประสบการณ์การทำงานการบินมาก่อน เขียนถึงกระบวนการการทำงานในมุมของฝั่งสนามบิน เป็นมุมมองอีกมุมหนึ่งของฝั่งคนทำงาน ดังนี้

            สิ่งแรกคือ เข้าใจทั้งฝ่ายผู้โดยสารและฝ่ายเจ้าหน้าที่สนามบิน แต่เนื่องด้วยช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นเวลา 3 ทุ่ม เจ้าหน้าที่สายการบินอาจมีไม่เพียงพอ เพราะเป็นสถานีต่างจังหวัด ดังนั้นจึงควรคิดถึงขั้นตอนการปฏิบัติในสถานการณ์จริงด้วย


1. การหาโรงแรมที่พักให้ผู้โดยสาร

            เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำเสร็จได้อย่างรวดเร็ว เพราะสายการบินเองก็คงไม่ได้ติดต่อกับทางโรงแรมเพื่อให้เตรียมห้องสำหรับผู้โดยสารหลักร้อยคนตลอดเวลา ส่วนใหญ่ที่ติดต่อคือ เตรียมไว้ให้นักบินและลูกเรือเพียง 5-6 ห้องเท่านั้น

2. การจัดหาอาหาร

            ในต่างจังหวัด เวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม ร้านอาหารต่าง ๆ ก็ปิดกันหมดแล้ว จะมีร้านไหนที่พร้อมรองรับทำอาหารให้ผู้โดยสารหลักร้อยคนในเวลาแบบนี้ ทั้งข้าว ทั้งกับข้าว แม้ว่าเชียงรายจะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ก็ยังไม่เท่ากับเชียงใหม่

3. รถรับ-ส่งสนามบิน - โรงแรม

            จากเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด คือ เวลาเกิดเหตุ, พนักงานน้อย, สถานที่อยู่ต่างจังหวัด ทำให้การเตรียมการแค่ 3 อย่างนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร ผู้โดยสารบางคนอาจเข้าใจว่า พอเครื่องไถลแล้วพาคนเข้าอาคาร อาหารต้องมีพร้อม โรงแรมพร้อม รถรับ-ส่งพร้อม เรื่องนี้ถ้าหากเป็นกรุงเทพฯ อาจทำได้ แต่พอเป็นต่างจังหวัดมันจัดการได้ไม่ง่ายเลย

4. เหตุผลที่แอร์ให้ผู้โดยสารอยู่ในเครื่องเป็นเวลานาน

            เรื่องนี้เป็นเพราะว่า สภาพอากาศภายนอกฝนตกหนัก แฉะ เละ และมืด การให้อยู่ในห้องโดยสารจึงสามารถควบคุมได้ง่ายกว่า และมีการประเมินแล้วว่า ตัวเครื่องบินไม่ได้เกิดเพลิงไหม้หรือประกายไฟแต่อย่างใด

            ทั้งนี้ คุณจิรายุ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของสายการบินดังกล่าว แต่ตอบในมุมมองของคนที่เคยทำงานการบินมาก่อนแค่นั้น เรื่องที่เกิดขึ้นใจเขาใจเรา ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เป็นโชคดีมากที่ไม่ใช่อุบัติเหตุร้ายแรงที่มีคนเสียชีวิตแต่อย่างใด เป็นกำลังใจให้สายการบิน และขอแสดงความห่วงใยต่อผู้โดยสารทุกคนครับ