เมียสุดแค้น ผัวนอกใจไปมีชู้กว่า 10 ปี ลูกเมียไม่เคยดูแล
ขอเอาคืนตอนป่วยหนัก ปฏิเสธไม่เซ็นยินยอมให้แพทย์รักษา
ตราบเท่าที่ฉันยังมีสถานะเมีย อย่าหวังจะฟื้น
ในช่วงเวลาที่ผู้ป่วยอยู่ระหว่างความเป็นหรือความตาย
ชะตากรรมของพวกเขานอกจากจะขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ทำการรักษาแล้ว
ก็ยังขึ้นอยู่กับสมาชิกในครอบครัวว่าจะให้เดินหน้ารักษาต่อไปหรือไม่
ซึ่งไม่นานมานี้ก็มีกรณีน่าตกใจเกิดขึ้น
เมื่อหญิงรายหนึ่งตัดสินใจใช้ช่วงเวลาเป็นตายของสามี
สนองคืนสิ่งที่เขาทำกับเธอและลูกไว้ตลอดช่วงเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา
ด้วยการบอกให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจของเขาซะ แทนที่ให้ผ่าตัดรักษา
เรื่องดังกล่าวถูกรายงานโดยเว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 พบว่าไม่นานมานี้ในมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน มีชายวัย 38 ปี คนหนึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยภาวะเลือดออกในสมอง ซึ่งเป็นภาวะวิกฤตที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ผู้ที่พาเขามาเป็นสาวสวยคนหนึ่งซึ่งร้องไห้หนักมากและพยายามขอร้องทีมแพทย์ให้ช่วยชีวิตสามีของเธอ
เรื่องดังกล่าวถูกรายงานโดยเว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 พบว่าไม่นานมานี้ในมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน มีชายวัย 38 ปี คนหนึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยภาวะเลือดออกในสมอง ซึ่งเป็นภาวะวิกฤตที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ผู้ที่พาเขามาเป็นสาวสวยคนหนึ่งซึ่งร้องไห้หนักมากและพยายามขอร้องทีมแพทย์ให้ช่วยชีวิตสามีของเธอ
"แต่ตอนที่เราออกมา กลับพบว่าผู้หญิงที่อ้างตัวว่าเป็นภรรยาของเขาไม่อยู่ที่นั่นแล้ว แต่มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งแสดงตัวว่าเป็นภรรยา ‘ตัวจริง’ ของเขาแทน" แพทย์ที่อยู่ในเหตุการณ์เผย
ข้อมูลจากเว็บไซต์ 163.com เผยว่า หลังได้ทราบอาการของสามี รวมถึงฟังเรื่องแผนการรักษาหลังจากนี้ซึ่งจะต้องมีการผ่าตัดและมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ภรรยาก็ยืนคิดอยู่ราว 5 นาทีก่อนจะบอกกับแพทย์ให้ถอดเครื่องช่วยหายใจของสามีได้เลย
ภาพจาก 163.com
จนเมื่อถึงตอนนี้ สามีป่วยหนักและยังอาจทิ้งภาระค่ารักษาพยาบาลอันมากมาย เธอจึงเลือกที่จะขอให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจของเขาแทน ปล่อยให้เขาเสียชีวิตไปซะ
อย่างไรก็ตาม แม้จะทราบเหตุผลจากภรรยา แต่ในทางปฏิบัติแล้วแพทย์ไม่สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจของผู้ป่วยออกได้ในตอนนั้น ซึ่งทางภรรยาก็ทราบดีว่าแพทย์ไม่สามารถทำตามที่เธอขอได้จริง ๆ แต่เธอก็ยังไม่อาจระงับความโกรธแค้นที่มีได้ สุดท้ายก็ตัดสินใจใช้ทางเลือกสุดท้าย คือปฏิเสธไม่เซ็นเอกสารยินยอมให้ทำการรักษา
ทั้งนี้ รายงานเผยว่าต่อมาทีมแพทย์ก็ได้พบกับญาติคนอื่นของผู้ป่วย ซึ่งรีบตามมายังโรงพยาบาลเพื่อเซ็นเอกสารยินยอมให้ทำการผ่าตัดในที่สุด ซึ่งแม้การรักษาจะล่าช้ากว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดไป แต่ผู้ป่วยก็ได้รับการรักษาและจะต้องติดตามอาการต่อไปในอนาคต
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก เวิลด์ออฟบัซ, 163.com







