แม่วอนหมอออกมาพูดบ้าง หลังเจอกระแสโซเชียลโจมตี ยันลูกไม่ได้ด่าหมอ เผยเจออดีตผู้ใหญ่บ้านบุกมาขู่ให้ถอนแจ้งความ ให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น รื้อบ้านทิ้ง - ด้านหมอลั่น เจอเด็กด่าจะตีไม่ได้เลยเหรอ
จากกรณีข่าวผู้ปกครองรายหนึ่งที่ออกมาโพสต์เตือนหลังพาลูกอายุ 3 ขวบ ไปหาหมอที่อนามัย แต่กลับถูกหมอยกมือตบหน้าลูก เพราะเด็กด่าว่า "ไอสัส" แม้ว่าทางแม่และยายเด็กจะไปต่อว่า แต่หมอกลับบอกว่าลูกหมอ หมอก็ทำแบบนี้ ก่อนจะยื่นที่พ่นยาให้เธอแล้วเดินออกไปโดยไร้คำขอโทษใด ๆ เมื่อแม่เดินทางไปพบหมออีกครั้ง หมอกลับบอกว่า แล้วจะทำไม งั้นก็ไม่ต้องมาให้หมอรักษา มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อลูกตนถูกตบ ลูกก็นิ่งน้ำตาไหลและร้องไห้แบบไม่มีเสียง ซึ่งตนเห็นกับตาเลยว่าหมอตบแรงโดนไปถึงหู พอลูกร้องมีเสียง ตนก็ถามหมอว่า "หมอตบลูกหนูทำไม" ซึ่งหมอตอบกลับมาว่า ลูกหมอ หมอก็ทำแบบนี้ก่อนจะเดินออกไป หลังจากนั้นตนก็ใส่หน้ากากพ่นยาให้ลูก แล้วระหว่างนั้นรอยที่แก้มเริ่มแดงขึ้น ตนก็ถ่ายรูปไว้และรู้สึกว่าไม่โอเคแล้ว ทำไมถึงตบอะไรขนาดนี้ ตนก็เอาเครื่องพ่นยาออกแล้วเดินไปหายายของลูกเพื่อชวนกลับบ้าน และบอกว่าหมอตบหน้าลูก
ด้านยายของเด็กเล่าว่า หลังจากรู้เรื่องว่าหลานโดนตบก็ได้ไปถามหมอว่าทำทำไม หมอตอบกลับว่า "ก็เด็กด่าผมว่า "ไอ้เXยตู่" และก็บอกว่า "ครับ ๆ ผมตบ" หลังจากนั้นก็พากันกลับบ้านแล้วมาดูหน้าหลานอีกที ต่อมาตนก็เดินทางไปหาหมออีกเพราะต้องการคำอธิบายและคำขอโทษจากหมอ ซึ่งหมอก็ย้อนตนว่า แล้วจะทำไม มาทางไหนก็ไปทางนั้น ไม่ต้องมารักษาที่นี่ ตนจึงพาลูกสาวไปแจ้งความที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อเอาผิดหมอ ซึ่งหมอไม่ติดต่อ ไม่ขอโทษเลย
ด้าน คุณเมย์
ระบุว่า ปกติลูกไม่พูดคำหยาบ แต่จะมีหลุดบ้างเวลากลับจากโรงเรียน
ปกติตนก็ไม่ค่อยได้พูดคำหยาบอยู่แล้ว ด้านยายก็ไม่พูดคำหยาบ แต่คิดว่าเด็ก ๆ
ที่เล่นด้วยกันคงพูด เวลาเล่นของเล่นอะไรกับเพื่อน ๆ แล้วมีอะไรแตกหัก
น้องก็จะสบถคำนั้นออกมาคือคำว่า "ไอ้สั..." น้องพูดคำนี้เป็นคำเดียว
และไม่ได้พูดทุกวัน แต่จะเป็นคำนี้ที่ออกจากปากน้องบ่อยที่สุด คำอื่นไม่มี
หลังจากนั้นทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดก็ประสานทางครอบครัวมาว่าจะพาหมอมาขอโทษ
แต่หมอก็ไม่มาและไม่เคยติดต่อมาแม้แต่ครั้งเดียว
ทั้งนี้ หนุ่ม กรรชัย ระบุว่า ได้ไปคุยกับคุณหมอ ขอใช้สิทธิ์ให้สัมภาษณ์ ไม่ขอให้เอาเสียงและภาพมาออก แต่ข้อมูลที่หมอบอกเด็กพูดคำว่าหมอเฮีย จึงใช้มือตบที่แก้มซ้ายหนึ่งครั้ง ตีเหมือนเตือน แล้วบอกแม่เด็กว่าช่วยสอนลูกด้วย แต่แม่เด็กไม่พอใจไปบอกยาย ยายบอกว่าเลี้ยงหลานมาไม่เคยตีไม่เคยด่าหลานด้วย เรื่องตบเด็กนั้นเป็นการตักเตือน ผมโดนเด็กด่า ผมตีไม่ได้เหรอ ตีครั้งเดียวด้วยปลายนิ้วมือ ไม่ได้ใช้ไม้ มันเลยขึ้นเป็นรอยแดง ไม่ใช่จู่ ๆ จะตีเด็ก แต่ถูกเด็กด่าก่อน ผมผิดเหรอ ส่วนที่ให้กลับไป ลูกเมียติดโควิดอยู่ชั้นบน ผมก็แค่พูดว่ามาทางไหนป้าก็ไปทางนั้นเถอะ หมายถึงบริเวณนี้อันตราย
ภาพจาก รายการโหนกระแส
ต่อมา หนุ่ม กรรชัย รายงานว่า หลังจากเกิดเหตุทางทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของคุณเมย์ จังหวะเดียวกับอดีตผู้ใหญ่บ้านเดินทางมาและบอกว่าไม่ต้องเบลอหน้า ให้เปิดหน้าได้เลย
โดยภาพที่ทางทีมข่าวบันทึกไว้นั้นเป็นภาพที่อดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวพูดว่า
"ไปถอนแจ้งความเลย เดี๋ยวกูจัดการเองเรื่องนี้", "มันก็เพื่อนกู
มันก็พวกกู ไปถอนแจ้งความเลยนะ ถ้าไม่ถอนมึงมีเรื่อง", "เด็กอาจจะไปว่าเขา
ว่าเขารุนแรงหน่อย", "ไม่ได้ด่าเขา
แต่เขาอาจจะมีปัญหาเรื่องอารมณ์ร้อนก็คิดหน่อย"
ภาพจาก รายการโหนกระแส
ซึ่งภาพที่ออกมาจะเห็นว่าอดีตผู้ใหญ่บ้านแสดงอารมณ์ค่อนข้างรุนแรง ขู่ให้ทางครอบครัวไปถอนแจ้งความหมอ จะมีเรื่องอะไรก็ช่าง หมอเขาอยู่มานานแล้ว ถ้าไม่ยอมถอนก็ให้ย้ายออกจากหมู่บ้านนี้ไป
รื้อบ้านออกไปเลย เพราะว่าหมอตู่เขาดีกับกูมานานแล้ว
ถ้าไม่ถอนแจ้งความมึงไม่ต้องอยู่ ไปให้ไกล ๆ เลย ด้าน คุณเมย์
ระบุว่า ตนไม่รู้ว่าเพราะอะไรอดีตผู้ใหญ่บ้านจึงทำแบบนี้
ตนไม่รู้ว่าเขากับหมอตู่จะรู้จักกันมานานหรืออะไรยังไง
แต่ตนอยากให้เห็นใจด้วยว่าลูกตนถูกกระทำ ยอมรับว่าลูกพูดคำหยาบ
แต่ลูกไม่ได้ด่าหมอ ถ้าวันนั้นหมอพูดกับตนดี ๆ แล้วจะขอทำโทษลูก ตนก็ไม่ได้ห้าม แต่นี่หมอตบลูกตนโดยที่พูดไม่บอกเลย
ภาพจาก รายการโหนกระแส
หมอเป็นหมอจิตแพทย์เด็กด้วย กรณีนี้ยังไง หมอบอกว่าเขาตบสั่งสอนเฉย ๆ ได้ไหม ?นพ.ธีรนันท์ : ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าปัญหาที่เราพบได้เรื่อย ๆ อันแรกเลยคือทำร้ายหมอ ทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการแพทย์ เวลาไปฉีดยาหรือแอดมิตแล้วหงุดหงิดขึ้นมาได้ สอง เข้าห้องตรวจแล้วซนเล่นของเล่น หมอก็พบบ่อย สาม คือการพูดคำหยาบเฉย ๆ ไม่ได้มีการทำร้ายหมอ ก็พบได้เรื่อย ๆ เราก็จะมีวิธีการจัดการตัวเอง เรื่องการทำร้ายร่างกายเป็นอะไรที่ควรหลีกเลี่ยง ไม่ว่าจะบุคลากรทางการแพทย์หรือทางการศึกษา หรือครอบครัวเอง
หมอบอกว่าเรื่องตบเด็กคล้ายการตักเตือน โดนเด็กด่าตีไม่ได้เหรอ ?
นพ.ธีรนันท์ : ถึงเป็นลูกตัวเองก็ไม่ควรตีเหมือนกัน การตีเป็นการทำโทษเด็กอย่างหนึ่ง แต่เป็นวิธีสุดท้ายที่เราจะเลือก เราปรับพฤติกรรมอย่างอื่น สั่งสอนอย่างอื่นได้ในการพูดคุยให้รางวัลต่าง ๆ
เขาบอกไม่ได้ใช้ไม้ ตีครั้งเดียวใช้ปลายนิ้วมือ ผมผิดเหรอเด็กมาด่าก่อน ?
นพ.ธีรนันท์
: ไม่ควรครับ แต่ทางกลับกัน อยากให้สังคมเข้าใจคุณหมอด้วย
อยากให้รอแพทยสภาสอบสวนอีกครั้ง
เพราะกลัวว่าเดี๋ยวคุณหมอจะเกิดเสียน้ำใจแล้วลาออกขึ้นมาแล้วจะขาดบุคลากรทางการแพทย์
ถ้าตักเตือนแล้วคุณหมอเข้าใจก็อาจปรับปรุงตัวได้
ภาพจาก รายการโหนกระแส
เรื่องข้อกฎหมาย ทนายมองยังไง ?ทนายเจมส์ : ต่อให้เด็กด่าคุณหมอก็ตามก็ไม่สามารถไปตีเด็ก ยิ่งเป็นครูกระทรวงออกชัดเจนว่าห้ามตีเด็ก ผมเข้าใจเองว่าหลัง ๆ มา เด็กวัยรุ่น หรือคนโต ใช้วิธีการที่รุนแรง เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แล้วเด็กซึมซับวิธีการทำรุนแรงแบบนี้ จนเด็กเข้าใจว่าการรุนแรงคือความธรรมดา และใช้วิธีการรุนแรงกับคนอื่น ๆ เขาเลยรณรงค์ไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับเด็ก เพื่อไม่ให้เด็กจดจำ ดังนั้นต้องดูลักษณะบาดแผล แพทย์จะวินิจฉัยว่าเป็นอันตรายต่อกายและจิตใจหรือเปล่า ถ้าไม่ก็เป็นความผิดลหุโทษ คดีลหุโทษถึงแม้โทษแค่ 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่น โทษเล็กน้อยมาก แต่ถอนไม่ได้ ต่อให้เต็มใจถอนก็ถอนไม่ได้ ยิ่งการบังคับให้เขาออกโน่นนี่นั่นก็เป็นการบังคับเสรีภาพคนอื่น ถ้าเด็กด่าหมอจริง ๆ เด็กดูหมิ่นซึ่งหน้า อายุไม่เกิน 12 ปี กฎหมายแก้ไขใหม่เมื่อปี 2565 ถือว่าไม่ต้องรับโทษ ฉะนั้นเด็กด่าก็ไม่เป็นความผิด พูดง่าย ๆ คุณหมอจะใช้สิทธิตามกฎหมายก็ไม่ได้ ไปตบตีเด็กก็ไม่ได้อีก ก็ฝากคุณแม่ไว้ พฤติกรรมแบบนี้ไม่มีใครชอบ แต่การตีเด็กโดยไม่อธิบาย เขาก็งงว่าตีเขาเพราะอะไร เขาไม่รู้ว่าตีเขาทำไม พอคุณบอกจะสั่งสอนเขา บอกแม่เขาดีกว่า ขนาดแม่ ยาย บอกเด็กแล้ว สอนเด็กแล้ว ยังมีหลุดออกมา
แม่กับยายสอนไหมว่าคำนี้ไม่ดี ?
แม่เมย์ : บอกตลอด พอบอกก็หาย ๆ ไป แต่พอไปเล่นกับเด็กก็กลับมาอีก
กรณีนี้ถ้าไม่เอาเรื่อง ต่อไปหมอจะตบใครก็ได้เหรอ เพราะถ้าเอาเรื่องเดี๋ยวหมอลาออก ?
นพ.ธีรนันท์ : จริง ๆ มันต้องเป็นกระบวนการตักเตือนโดยแพทยสภา ผมเชื่อว่าต้องมีการประเมินปัญหาว่าเกิดอะไรขึ้น ไป ๆ มา ๆ ถ้าเกิดจากโควิดมา ก็อาจทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนไปได้ เพราะเห็นข่าวเหมือนเขาเป็นโควิดมา
หมอบอกข้อมูลน่าสนใจ มีบางคนที่เคยไปตบเด็กแล้วบอกว่าไม่เห็นเป็นไรเลย แสดงว่าบุคคลนี้อาจเคยกระทำมาหลาย ๆ ครั้ง ?
นพ.ธีรนันท์ : จริง ๆ แล้วการที่เรามองว่าเป็นเรื่องปกติ ก็เป็นไปได้ที่อาจมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ ฉะนั้นเราต้องไปสืบเพิ่มเติมอีกที แต่สำคัญที่สุดคือผลกระทบหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก นี่คือที่หมอเป็นห่วง นี่เป็นการทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ส่งผลถึงจิตใจแน่นอน แต่จะส่งผลถึงขั้นพัฒนาการเลยไหม โรคทางกายเลยไหม ปัจจุบันเราพบว่าส่งผลครับ การที่เด็กหวาดระแวง ไม่กล้าไปโรงพยาบาล ไม่กล้าเข้าสังคม ไม่กล้าเข้าหาผู้ใหญ่ พัฒนาการเรื่องภาษา บางทีก็ถดถอยลง บางทีอาจกระทบพัฒนาการเรื่องอื่น ทางกลับกัน การได้รับความรุนแรงตั้งแต่เด็ก มีความเสี่ยงจะเป็นโรคหัวใจ ไขมัน โรคอ้วน และโรคอื่น ๆ ในระยะยาวได้ ไม่น่าเชื่อว่าสภาวะจิตใจส่งผลถึงโรคทางกายได้
ภาพจาก รายการโหนกระแส
เหมือนคุณหมอมีภาวะด้านความรู้สึกแบบนี้
ต้องหยุดการรักษาหรือเปล่า เหมือนนักบิน ถ้ามีภาวะความเครียดในจิตใจ
บริษัทห้ามบินเลยนะ เพราะมีผลกระทบถึงผู้โดยสาร
บุคลากรที่ต้องรับผิดชอบชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
การดูแลหรือระงับอารมณ์ตัวเองสำคัญที่สุด
ถ้านั่งกังวลใจว่าไม่ถอนแจ้งความเดี๋ยวหมอลาออก
มันจะเป็นบรรทัดฐานหรือเปล่า ถ้าทำแบบนี้อีกจะยังไง มันก็หลายเหตุเหมือนกัน
ทนายเจมส์มองยังไง ?ทนายเจมส์ : การกระทำใด ๆ ก็แล้วแต่ แล้วกระทบพัฒนาการเด็ก อันนี้มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มีโทษหนักขึ้นมาอีก สมมติบังคับให้เด็กทำอะไรไม่ดีซ้ำ ๆ ก็มีผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็ก มีความผิดเช่นเดียวกัน
ยายเอาไงต่อไป ?
ยายจิ๋ม : เอาเรื่องถึงที่สุด
ตำรวจว่ายังไง ?
แม่เมย์ : รอคุณหมอมาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาวันนี้ค่ะ
ยายจิ๋ม : ตำรวจช่วยเต็มที่
บอกจะเข้ามาขอโทษก็ไม่มา ?
ยายจิ๋ม : ไม่มาค่ะ
ภาพจาก รายการโหนกระแส
ห่วงเรื่องการทำงานของบุคลากร ที่มีชีวิตประชาชนเป็นเดิมพันอยู่ข้างหลัง ?ทนายเจมส์ : ผมก็มองเหมือนกัน บางทีคนป่วยไปแล้วโดนด่า ก็เพิ่มความเครียดให้เขาอีก สมมติไปเจอหมอที่มีอัธยาศัยดี มีจิตวิทยาคุยกับคนไข้ดี จิตใจดี ร่างกายก็หายเร็ว
ยายจิ๋ม : ถ้าน้องไม่ป่วยไป หายใจทางปาก จะไม่อะไรเยอะขนาดนี้ แต่นี่น้องป่วยไป ตบน้องได้ยังไง หมอผู้หญิงรู้ว่าน้องเป็นหอบอยู่ก็มาพ่นให้ น้องมีอาการหนักมาก แล้วจะเอาไปโรงพยาบาลน้องก็ไม่ไป
จะบอกว่าหลานก็ไม่สบาย 3 ขวบ สุดท้ายโดนตบอีก ?
ยายจิ๋ม : เราเอาไปรักษา ไม่ได้เอาไปให้ตบ ไม่สมควรตบ เด็กป่วยไป
ภาพจาก รายการโหนกระแส
อยากบอกอะไร ?แม่เมย์ : อยากให้คุณหมอออกมาพูดอะไรบ้าง เพราะในโซเชียลก็โจมตีหนูกับลูก (ร้องไห้) แล้วลูกหนูอยู่บนตักหนู แล้วคุณหมอตบอะ (ร้องไห้) โดยที่หมอไม่พูดไม่บอกอะไรสักคำ หมอบอกกับนักข่าวว่าหมอตบเบา ๆ ตบแค่ปลายนิ้ว แต่คุณหมอตบเต็มมือคุณหมอ แม้แต่คำขอโทษสักคำก็ไม่มี
ทนายเจมส์ : ตอนตบหมอยืนอยู่ใช่ไหม
แม่เมย์ : หมอยืนค่ะ น้องนั่งในตักแม่
ทนายเจมส์ : ก็อยากฝาก เป็นไปได้ไหมเราใช้หมอผู้ใหญ่ไปรักษาเด็กเลยไม่ได้เข้าใจพฤติกรรมเด็ก อย่างที่คุณหมอบอกว่าเขาทำแบบนี้บ่อย ๆ ก็เป็นห่วงว่าครอบครัวเขาจะจดจำแล้วไปทำแบบนี้กับคนอื่นหรือเปล่า
ภาพจาก รายการโหนกระแส