ตำรวจฉลองเลื่อนตำแหน่ง เมาแล้วกร่างยิงพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวจนพิการ ศาลตัดสินแล้ว คุก 25 ปี ชดใช้ 7.9 ล้าน ส่วนทนายเกิดผลแจง ทำไมไม่ประหารชีวิต พร้อมเผยกลิ่นแปลก ๆ เกี่ยวกับเงิน
จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ ส.ต.ท. เมากร่าง ใช้ปืนยิงฝรั่งโชว์หน้าผับแห่งหนึ่งใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังจากจัดงานเลี้ยงฉลองย้ายสังกัด แต่พลาดถูกนายอรุณ ทองพลับ พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวบริเวณดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ประสาทส่วนล่างตั้งแต่เอวลงไปถึงขาไม่สามารถขยับได้ อาจไม่หายเป็นปกติ ทำให้เสาหลักของครอบครัวต้องล้ม 3 แม่ลูกพบกับความลำบาก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564
ล่าสุด วันที่ 17 สิงหาคม 2565 เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด ของนายเกิดผล แก้วเกิด ที่เป็นทนายความฝั่งครอบครัวนายอรุณ เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ว่า โจทก์ฟ้องจำเลย 4 ข้อหา ได้แก่
1. พยายามฆ่า
2. พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
3. ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร
4. เสพยาเสพติด
โดยมี พยานและคลิปบันทึกจากภาพวงจรปิดเป็นหลักฐาน แต่จำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทั้งที่เคยรับสารภาพในชั้นสอบสวน อ้างว่า ถูกผู้บังคับบัญชาหลายฝ่ายกดดัน จึงต้องจำใจรับสารภาพ
ส่วนสาเหตุที่ยิงผู้บาดเจ็บ เพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายจะมาทำร้าย ขอให้ศาลลงโทษในสถานเบา เพราะมีหน้าที่ต้องดูมารดา
คำตัดสินของศาล
ข้ออ้างที่ขอให้ลงโทษสถานเบาฟังไม่ขึ้น เพราะบุคคลอื่นก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบเช่นกัน อย่างฝั่งผู้เสียหายที่เป็นผู้พิการตลอดชีวิต ยังต้องมีหน้าที่รับผิดชอบบุตรอีก 2 คน ประกอบกับจำเลยที่เป็นตำรวจ มีความชำนาญในการใช้ปืน ย่อมรู้อันตรายของมัน แต่กลับไม่เคารพกฎหมายเสียเอง ดื่มสุราและเสพยาเสพติดจนไม่สามารถครองสติได้
เมื่อยิงปืนใส่ผู้เสียหายที่ไม่มีพฤติการณ์ที่จะเป็นภัยคุกคามต่อจำเลย ดังนั้นการใช้ปืนเล็งและยิงถือว่ามีเจตนาฆ่า แต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย รักษาทัน ความผิดจึงเป็นฐานพยายามฆ่า
การที่จำเลยพกปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้พกพาและไม่มีข้อยกเว้น แม้จะอ้างว่าเป็นตำรวจก็ฟังไม่ขึ้น เพราะวันเกิดเหตุมีการพกปืนดื่มสุราฉลองเลื่อนตำแหน่ง ไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
สรุปความผิด 4 กระทง ศาลตัดสินว่า
1. ความผิดฐานพยายามฆ่า จำคุก 33 ปี 4 เดือน
2. ความผิดฐานพกอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ปรับ 1,000 บาท
3. ความผิดฐานยิงปืนในเมืองหมู่บ้าน ไม่มีเหตุอันควร ปรับ 1,000 บาท
4. ความผิดฐานเสพยาเสพติด จำคุก 2 เดือน
นอกจากนี้ จำเลยต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเป็นระยะเวลา 20 ปี รวมทั้งสิ้น เป็นเงิน 7,992,500 บาท อย่างไรก็ตาม จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีศาลจึงเมตตาลดโทษให้ 1 ใน 4 ของ โทษตามคำพิพากษา คงจำคุก 25 ปี 4 เดือน 15 วันปรับ 1,000 บาทและให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แก่ผู้เสียหายเป็นเงิน 7,992,500 บาท
ทนายเผย ตำรวจแอบย้ายทรัพย์สินบางส่วนแล้ว
อย่างไรก็ตามนายเกิดผลมีการโพสต์เพิ่มเติมถึงสินไหมทดแทนว่า ตนเชื่อว่า จำเลยไม่มีจ่าย ถึงมีก็ไม่จ่าย คงเป็นหน้าที่ของผู้เสียหายต้องสืบหาทรัพย์สินจำเลย เพื่อนำมาบังคับคดีขายทอดตลาดต่อไป เท่าที่ตนสืบทราบ จำเลยได้ยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินไปบางส่วนแล้ว ซึ่งตนจะขอสืบหาก่อนว่าจะโอนให้ใคร ถ้าโอนให้ครอบครัว ตนจะฟ้องข้อหาร่วมกันโกงเจ้าหนี้อีกแน่นอน
ชาวเน็ตไม่พอใจ ทำไมไม่ประหารชีวิต ทนายโร่อธิบาย
ทนายเกิดผล อธิบายสาเหตุที่คดีนี้ไม่ถึงขั้นประหารชีวิต หลังจากชาวเน็ตไม่พอใจว่า คดีนี้เป็นคดีความผิดฐานพยายามฆ่า ไม่ใช่ความผิดฐานฆ่าคนตาย ซึ่งกฎหมายลงโทษได้เพียง 2 ใน 3 ของโทษที่เป็นความผิดสำเร็จเท่านั้น ซึ่งหมายถึง พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวต้องเสียชีวิตเท่านั้น ศาลถึงตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
และจากโทษของการประหารชีวิตหรือติดคุก 100 ปี ถ้าหากกฎหมายให้ลงโทษได้เพียง 2 ใน 3 จึงเท่ากับว่า ลงโทษได้เพียง 33 ปี 4 เดือนเท่านั้น ถือว่า ศาลลงโทษสูงสุดแล้วสำหรับคดีนี้ ถ้าหากสูงกว่านี้คงเป็นประหารชีวิต
ภายหลังศาลเมตตาลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 25 ปี 4 เดือน 15 วัน ส่วนผู้เสียหายจะอุทธรณ์หรือไม่ รอคัดคำพิพากษาฉบับเต็ม เพื่อดูข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงที่ศาลพิพากษาว่ามีเหตุให้อุทธรณ์หรือไม่
จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ ส.ต.ท. เมากร่าง ใช้ปืนยิงฝรั่งโชว์หน้าผับแห่งหนึ่งใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังจากจัดงานเลี้ยงฉลองย้ายสังกัด แต่พลาดถูกนายอรุณ ทองพลับ พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวบริเวณดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ประสาทส่วนล่างตั้งแต่เอวลงไปถึงขาไม่สามารถขยับได้ อาจไม่หายเป็นปกติ ทำให้เสาหลักของครอบครัวต้องล้ม 3 แม่ลูกพบกับความลำบาก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564
ล่าสุด วันที่ 17 สิงหาคม 2565 เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด ของนายเกิดผล แก้วเกิด ที่เป็นทนายความฝั่งครอบครัวนายอรุณ เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ว่า โจทก์ฟ้องจำเลย 4 ข้อหา ได้แก่
1. พยายามฆ่า
2. พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
3. ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร
4. เสพยาเสพติด
โดยมี พยานและคลิปบันทึกจากภาพวงจรปิดเป็นหลักฐาน แต่จำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทั้งที่เคยรับสารภาพในชั้นสอบสวน อ้างว่า ถูกผู้บังคับบัญชาหลายฝ่ายกดดัน จึงต้องจำใจรับสารภาพ
ส่วนสาเหตุที่ยิงผู้บาดเจ็บ เพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายจะมาทำร้าย ขอให้ศาลลงโทษในสถานเบา เพราะมีหน้าที่ต้องดูมารดา
คำตัดสินของศาล
ข้ออ้างที่ขอให้ลงโทษสถานเบาฟังไม่ขึ้น เพราะบุคคลอื่นก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบเช่นกัน อย่างฝั่งผู้เสียหายที่เป็นผู้พิการตลอดชีวิต ยังต้องมีหน้าที่รับผิดชอบบุตรอีก 2 คน ประกอบกับจำเลยที่เป็นตำรวจ มีความชำนาญในการใช้ปืน ย่อมรู้อันตรายของมัน แต่กลับไม่เคารพกฎหมายเสียเอง ดื่มสุราและเสพยาเสพติดจนไม่สามารถครองสติได้
เมื่อยิงปืนใส่ผู้เสียหายที่ไม่มีพฤติการณ์ที่จะเป็นภัยคุกคามต่อจำเลย ดังนั้นการใช้ปืนเล็งและยิงถือว่ามีเจตนาฆ่า แต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย รักษาทัน ความผิดจึงเป็นฐานพยายามฆ่า
การที่จำเลยพกปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้พกพาและไม่มีข้อยกเว้น แม้จะอ้างว่าเป็นตำรวจก็ฟังไม่ขึ้น เพราะวันเกิดเหตุมีการพกปืนดื่มสุราฉลองเลื่อนตำแหน่ง ไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
สรุปความผิด 4 กระทง ศาลตัดสินว่า
1. ความผิดฐานพยายามฆ่า จำคุก 33 ปี 4 เดือน
2. ความผิดฐานพกอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ปรับ 1,000 บาท
3. ความผิดฐานยิงปืนในเมืองหมู่บ้าน ไม่มีเหตุอันควร ปรับ 1,000 บาท
4. ความผิดฐานเสพยาเสพติด จำคุก 2 เดือน
นอกจากนี้ จำเลยต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเป็นระยะเวลา 20 ปี รวมทั้งสิ้น เป็นเงิน 7,992,500 บาท อย่างไรก็ตาม จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีศาลจึงเมตตาลดโทษให้ 1 ใน 4 ของ โทษตามคำพิพากษา คงจำคุก 25 ปี 4 เดือน 15 วันปรับ 1,000 บาทและให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แก่ผู้เสียหายเป็นเงิน 7,992,500 บาท
ทนายเผย ตำรวจแอบย้ายทรัพย์สินบางส่วนแล้ว
อย่างไรก็ตามนายเกิดผลมีการโพสต์เพิ่มเติมถึงสินไหมทดแทนว่า ตนเชื่อว่า จำเลยไม่มีจ่าย ถึงมีก็ไม่จ่าย คงเป็นหน้าที่ของผู้เสียหายต้องสืบหาทรัพย์สินจำเลย เพื่อนำมาบังคับคดีขายทอดตลาดต่อไป เท่าที่ตนสืบทราบ จำเลยได้ยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินไปบางส่วนแล้ว ซึ่งตนจะขอสืบหาก่อนว่าจะโอนให้ใคร ถ้าโอนให้ครอบครัว ตนจะฟ้องข้อหาร่วมกันโกงเจ้าหนี้อีกแน่นอน

ชาวเน็ตไม่พอใจ ทำไมไม่ประหารชีวิต ทนายโร่อธิบาย
ทนายเกิดผล อธิบายสาเหตุที่คดีนี้ไม่ถึงขั้นประหารชีวิต หลังจากชาวเน็ตไม่พอใจว่า คดีนี้เป็นคดีความผิดฐานพยายามฆ่า ไม่ใช่ความผิดฐานฆ่าคนตาย ซึ่งกฎหมายลงโทษได้เพียง 2 ใน 3 ของโทษที่เป็นความผิดสำเร็จเท่านั้น ซึ่งหมายถึง พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวต้องเสียชีวิตเท่านั้น ศาลถึงตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
และจากโทษของการประหารชีวิตหรือติดคุก 100 ปี ถ้าหากกฎหมายให้ลงโทษได้เพียง 2 ใน 3 จึงเท่ากับว่า ลงโทษได้เพียง 33 ปี 4 เดือนเท่านั้น ถือว่า ศาลลงโทษสูงสุดแล้วสำหรับคดีนี้ ถ้าหากสูงกว่านี้คงเป็นประหารชีวิต
ภายหลังศาลเมตตาลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 25 ปี 4 เดือน 15 วัน ส่วนผู้เสียหายจะอุทธรณ์หรือไม่ รอคัดคำพิพากษาฉบับเต็ม เพื่อดูข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงที่ศาลพิพากษาว่ามีเหตุให้อุทธรณ์หรือไม่