ดาราสาวถูกนักธุรกิจมอมยา-ข่มขืน พบเป็นหลานอดีต รมต. เปิดคำพูดญาติผู้ก่อเหตุ โทร. ขอปิดข่าว มาอยากช่วยเหลือเรื่องเงิน จ่อลงแคนดิเดตนายกฯ ไม่อยากให้เสียหาย ฝ่ายหญิงหมดคำจะพูด หนูไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน
กลายเป็นประเด็นดังที่คนให้ความสนใจอย่างมาก จากกรณี นายษิทรา
เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
โพสต์ภาพคู่กับหญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า
น้องดาราช่องดัง ถูกเจ้าของบริษัทบันเทิง หลานอดีตรัฐมนตรี
ซึ่งตัวเองกำลังวาดฝันจะเป็นนายกรัฐมนตรี วางอุบายให้ไปคุยงาน
แต่กลับวางยาน้องจนหลับแล้วข่มขืน โดย ทนายตั้ม
ได้พาผู้เสียหายเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย
เพื่อตามความคืบหน้าของคดี
อ่านข่าว : ดาราสาวถูกหลานอดีต รมต. วางยาล่วงละเมิด - พี่บุกถึงที่แต่เจอตอรีสอร์ตนาย ตร. ใหญ่
ล่าสุด วันที่ 25 สิงหาคม 2565 ข่าวช่องวัน รายงานกรณีดังกล่าวว่า ทนายตั้ม พร้อมด้วย น.ส.น้ำ (นามสมมติ) และพี่สาว เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ. พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีหลังจาก น.ส.น้ำ ถูกหลานชายอดีตรัฐมนตรี 3 สมัย มอมยาแล้วข่มขืนที่พูลวิลล่าแห่งหนึ่ง เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่คดีความไม่คืบหน้า จึงได้ร้องให้ทนายตั้มช่วยเหลือ
โดย ทนายตั้ม เผยว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา (24 สิงหาคม) ผู้เสียหายเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนักแสดง เข้ามาติดต่อเพื่อร้องเรียนและขอความช่วยเหลือเรื่องดังกล่าว ตนจึงติดต่อไปยังผู้ก่อเหตุ เป็นนักธุรกิจชายอายุ 35 ปี ตอนแรกเขาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ต่อมาผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้เสียหายสมยอม เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ก่อเหตุถือเป็นเจ้าของบริษัทมีกิจการใหญ่โต และเป็นหลานของอดีตรัฐมนตรี ซึ่งทราบว่าจะลงเล่นการเมือง โดยมีเป้าหมายลงสมัครนายกรัฐมนตรี
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ไทม์ไลน์เหตุการณ์
ต้นเดือนสิงหาคม ผู้ก่อเหตุติดต่อจ้างงานผ่านทางไอจี ด้านผู้เสียหายกำลังจะทำเพลงใหม่ จึงสนใจรับงานและอยากจะขอสปอนเซอร์ ผู้ก่อเหตุจึงขอให้ส่งโปรไฟล์งานผ่านทางไลน์
9 สิงหาคม 2565 นัดคุยงานกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่ฝ่ายชายกลับพาไปที่พูลวิลล่า ย่านถนนนาคนิวาส ระหว่างนั้นฝ่ายชายยกเครื่องดื่มมาให้ดื่มด้วย ผู้เสียหายดื่มไป 2 ขวด จากนั้นจำอะไรไม่ได้อีกเลย
10 สิงหาคม 2565 เวลา 02.00 น. ผู้เสียหายได้สติ จึงโทร. บอกให้พี่สาวมารับเพราะกลับเองไม่ไหว อยู่ในอาการมึนเมา และเมื่อถึงบ้านก็นอนหลับยาวเลย กระทั่งตื่นขึ้นมาอาบน้ำ ระหว่างอาบน้ำพบสารคัดหลั่งลักษณะคล้ายอสุจิ จึงเดินทางไปที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ เพื่อตรวจร่างกาย
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
"หนูก็ไว้ใจเขามากเกินไป เพราะเห็นว่าเขาเป็นคนที่มีหน้าตาทางการเมืองด้วย พยายามทำใจแล้วแต่มันทำใจไม่ได้ค่ะ ทุกอย่างมันล่าช้าและไม่ได้รับความยุติธรรม ทำให้รู้สึกกังวล" ผู้เสียหายกล่าวทั้งน้ำตา
พี่สาวผู้เสียหาย เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนเริ่มผิดสังเกตเนื่องจากน้องสาวขาดการติดต่อไป จึงออกตามหาโดยดูจาก GPS ในมือถือ จนพบว่าน้องสาวถูกพาไปที่พูลวิลล่า จึงออกตามไป เมื่อไปถึง พบคนขับรถของคู่กรณี แต่อีกฝ่ายบ่ายเบี่ยงไม่ให้เข้าไป และอ้างว่าเป็นเพียง รปภ. ตนจึงแจ้งตำรวจให้ช่วยเข้าไปเคาะห้องเพื่อพาตัวน้องสาวออกมา แต่ตำรวจไม่ทำให้ อ้างว่ารีสอร์ตดังกล่าวเป็นของนายตำรวจใหญ่ เกรงจะเป็นการบุกรุก
นอกจากนี้ ขณะที่อยู่สำนักงานของทนายตั้ม มีผู้หญิงคนหนึ่งโทร. มาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นอาของผู้ก่อเหตุ บอกว่ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ และพูดทำนองว่าไม่อยากให้ดำเนินคดีให้เสื่อมเสียทั้ง 2 ฝ่าย เพราะกำลังจะให้หลานชายเล่นการเมือง ต้องดันเขาช่วยเหลือประเทศไทย ไม่รู้หรอกว่าไปทำอะไรกัน แต่ถ้ามีเรื่องอะไรไม่ดีจะทำให้หลานชายเสียหาย
อีกฝ่ายยังพูดอีกว่า ถ้าหนูมีปัญหาเรื่องการเงินก็ยินดีจะช่วย มีอะไรพอจะคุยกันได้ไหม พร้อมยื่นข้อเสนอเรื่องงานในวงการบันเทิง แลกกับการที่จะไม่ดำเนินคดี ด้านผู้เสียหายบอกว่าไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยเพราะหนูไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงิน และยืนยันว่าต้องการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ