พนักงานรวมตัวแฉ นิสัยแท้จริงคนขโมยของ ดราม่าซุปก้นหม้อ 20,000 โป๊ะเลย !

          ต่อมาทางร้านออกมาชี้แจง ยอมรับว่า มีการไล่และแจ้งความพนักงานคนดังกล่าวจริง เพราะพนักงานเอาวัตถุดิบของร้านไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสิ่งที่ขโมยนั้นไม่ใช่เศษไก่ แต่คือไก่ ทั้งที่มีการเตือนหลายครั้ง ส่วนเรื่องที่ไปโรงพัก ทางพนักงานขอร้องไม่ให้ดำเนินคดี และเสนอจ่ายเงินชดเชยให้ 20,000 บาท แล้วจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับร้านอีก ไม่ใช่เป็นทางร้านเรียกเก็บ


          ทั้งนี้ พนักงานคนดังกล่าว เคยทำหน้าที่หัวหน้ากุ๊กและเป็นคนดูแลสต๊อกสินค้า รวมถึงวัตถุดิบทุกอย่างแทนเจ้าของร้าน เจ้าของร้านก็ไว้ใจเพราะอยู่กันมานาน ส่วนเรื่องการขโมยของในร้านก็มีมาสักระยะหนึ่งแล้ว กระทั่งวันที่พนักงานถูกจับได้ ตนก็คิดว่า กรรมทำงานแล้ว

วันที่โดนจับโป๊ะ หลักฐานคาตา

          ในวันเกิดเหตุ พนักงานคนดังกล่าวนำกระดูกซุปขนาดใหญ่ที่มีเนื้อติด ตักออกมาใส่ชาม ไม่ใช่เศษตามที่เป็นข่าว ตอนแรกคิดว่าจะทานเองที่ร้าน แต่พอมีการตรวจค้นพนักงานทุกคนในวันนั้น ก็เจอของกลางที่พนักงานคนดังกล่าวเพียงคนเดียว ทำให้พวกตนคุยกับพนักงานคนอื่นว่า เขาไม่ได้กินที่ร้านหรือ ? ซึ่งที่ผ่านมาร้านมักประสบเหตุเรื่องวัตถุดิบกับสิ่งของหาย จนเจ้าของร้านเรียกประชุม ขอร้องอย่าขโมยของออกจากร้าน คล้ายกับการเตือนพนักงานที่กระทำผิด

          ตนนั้นทำงานร่วมกับนายจ้างมานานกว่า 20 ปี ถ้าหากไม่ดีจริงคงไม่อยู่ทุกวันนี้ เขาคอยช่วยเหลือเราตลอด แม้แต่ญาติพี่น้องเสียชีวิต พอทราบข่าวก็มอบเงินช่วยเหลือ ทำแบบนี้กับพนักงานทุกคน รวมถึงมีการเลี้ยงอาหารพนักงานครบ 3 มื้อโดยไม่เคยหวง ขอแค่อย่าขโมยของกลับบ้านโดยไม่แจ้ง ยิ่งตอนโควิด 19 ระบาด พนักงานก็ได้รับเงินเดือนเต็มทุกเดือนไม่มีหัก ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมข่าวที่ออกมาถึงสวนทางกับความจริง

พนักงานอีกคน แฉ นิสัยลูกจ้างคนนั้น

          ขณะที่อำพันธ์ มณีรัตน์ พนักงานร้านอีกคนที่ทำงานมา 4 ปี กล่าวว่า เพื่อนร่วมงานที่เป็นข่าวคนนั้น เป็นคนที่ไม่มีน้ำใจกับใครเลย และไม่สนิทกับใคร นิสัยก็ไม่ได้เป็นไปตามข่าวในเรื่องความขยัน ส่วนเจ้าของร้าน ตั้งแต่ร่วมงานมาก็ไม่เคยทำไม่ดีกับพนักงาน ตนป่วยเป็นมะเร็ง ต้องผ่าตัดให้เลือด เจ้าของร้านก็ระดมจัดหาเลือดให้คนรู้จักบริจาคเลือดให้ ตอนพักที่โรงพยาบาลก็จ่ายเงินเต็มไม่หักแม้แต่บาทเดียว

          นอกจากนี้ ช่วงโควิด 19 เจ้าของร้านก็หายา หาอุปกรณ์ป้องกันโควิดมาให้รักษา ส่งอาหารและยาจนหายดี ทำเหมือนคนในครอบครัว ไม่เคยทอดทิ้ง สวนทางกับข่าวที่ว่าเจ้าของร้านไม่ดูแล

          ตนอยากให้สังคมแยกแยะ และอยากให้คนนอกที่ไม่รู้วอนหยุดสร้างความเสียหายให้ร้านกับสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ยอมรับว่าเสียใจที่พนักงานคนดังกล่าวมาใส่ร้ายร้าน หากอยากทราบความจริงให้มาถามพนักงานร้านเอง ทุกคนพร้อมให้คำตอบ หากเจ้าของไม่ดีจริง พนักงานคงไม่อยู่มาเป็น 10 ปี และทางร้านก็ใจดีมาก แม้ตนจะอายุมาก สุขภาพไม่แข็งแรง ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ แต่ที่ร้านนี้รับ ทำให้มีรายได้ไปดูแลครอบครัวอีกหลายชีวิต

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก บริษัท โสภณ เคเบิ้ล ที.วี.และสื่อสาร พัทยา จำกัด