เปิดคดี ชายอ้างเมียทิ้ง แกล้งทำเป็นลงหนังสือพิมพ์ตามหา ก่อนเปิดอีกโฉมหน้าแท้จริงคือฆาตกร สังหารเมีย 15 ปี อำพรางศพในบ้าน ครอบครัวสะเทือนใจเผยโมเมนต์เสียงสุดท้าย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 3 กันยายน 2565 เว็บไซต์ hk01.com มีรายงานเหตุฆาตกรรมอำพรางที่เกิดขึ้นในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน เมื่อชายคนหนึ่งลงมือสังหารภรรยาของตัวเอง ฝังศพไว้ในบ้านและปลูกอาคารหลังใหม่ทับ ก่อนจะอ้างกับครอบครัวของภรรยาว่าเธอหนีตามคนอื่นไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งในที่สุดหลังจากเวลาผ่านไปนาน 15 ปี พ่อแม่ของภรรยาจึงได้รู้ชะตากรรมที่แท้จริงของลูกสาว
โดยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา สำนักงานความมั่นคงสาธารณะมณฑลอานฮุย เพิ่งจะแถลงข่าวต่อคดีซึ่งกลายมาเป็นที่สนใจของประชาชน ยืนยันว่าหลังจากถูกตำรวจคุมตัวสอบเข้มนาน 21 วัน ในที่สุด จาง เหมาเว่ย ผู้ต้องสงสัย ก็รับสารภาพจนได้ว่าลงมือสังหารภรรยาตัวเองเมื่อ 15 ปีก่อน ระหว่างทะเลาะวิวาทกัน และยอมเปิดเผยสถานที่ซ่อนศพให้เจ้าหน้าที่รู้
โดยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา สำนักงานความมั่นคงสาธารณะมณฑลอานฮุย เพิ่งจะแถลงข่าวต่อคดีซึ่งกลายมาเป็นที่สนใจของประชาชน ยืนยันว่าหลังจากถูกตำรวจคุมตัวสอบเข้มนาน 21 วัน ในที่สุด จาง เหมาเว่ย ผู้ต้องสงสัย ก็รับสารภาพจนได้ว่าลงมือสังหารภรรยาตัวเองเมื่อ 15 ปีก่อน ระหว่างทะเลาะวิวาทกัน และยอมเปิดเผยสถานที่ซ่อนศพให้เจ้าหน้าที่รู้
ชีวิตรักไม่ราบรื่น เสียงสุดท้ายของลูกที่ได้ยิน คือคำระบายทุกข์
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2538 หญิงแซ่หยาง ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางจากเขตฮั่วชิว ในมณฑลอานฮุย มาทำงานอยู่ในห้องแล็บของโรงพยาบาลตำรวจ ก่อนที่เธอจะพบรักกับ จาง เหมาเว่ย ผู้ต้องหา ไม่นานจากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของจาง เหมาเว่ย และได้แต่งงานมีลูกชายด้วยกัน
หยางกัง น้องชายของผู้เสียชีวิต เผยว่า เดิมทีเขาคิดว่าพี่เขยเป็นคนที่ใช้ได้ ก่อนจะพบว่าพี่เขยเป็นลูกชายที่อยู่ในโอวาทของพ่อแม่มาก เมื่อใดก็ตามที่ภรรยามีปัญหากับแม่ของตัวเอง พี่เขยก็จะเข้าข้างแม่แบบไม่ลังเล ทำให้จาง เหมาเว่ย มีเรื่องโต้เถียงกับภรรยาบ่อยครั้งและเคยทะเลาะกันด้วย
จนเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2550 หยางได้โทร. ไปหาพ่อแม่ของตัวเอง ร้องไห้ระบายให้ฟังว่าชีวิตของเธอไม่มีอะไรดีเลย ความสัมพันธ์ของเธอกับสามีไม่ราบรื่น ซึ่งตอนนั้นพ่อแม่ของเธอคิดว่าเป็นปัญหาในครอบครัวของลูกสาวและไม่สะดวกใจจะเข้าไปยุ่งนัก จึงได้โน้มน้าวเธอไปไม่กี่คำ โดยไม่คิดว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ติดต่อกับลูก
บุกถึงบ้านตามหา กลับถูกบอกหนีตามคนอื่นไปแล้ว
เนื่องจากไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้เป็นเวลานาน ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน พ่อแม่ของหยางจึงเดินทางไปยังบ้านของลูกเขยเพื่อจะตามหาลูกสาว แต่พ่อแม่ของจาง เหมาเว่ย ไม่ยอมบอกว่าหยางไปไหน พวกเขายังแกล้งทำเป็นลงประกาศตามหาคนหายในหนังสือพิมพ์ด้วย ก่อนจะอ้างว่าจริง ๆ แล้วหยางหนีตามคนอื่นไปแล้ว
ขณะที่จาง เหมาเว่ย ทำทีมาบอกว่า เขาโกรธภรรยามาก และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน แต่ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนพาเธอไปส่งถึงรถบัส เพราะเธอบอกว่าอยากไปเยี่ยมน้องชายที่ติดคุกอยู่ที่เซี่ยงไฮ้
เมื่อรู้ข่าวว่าพี่สาวจะมาหา หยางกังก็พยายามถามข่าวคราวจากทางเรือนจำ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไร้วี่แวว เขารู้สึกว่าพี่เขยกำลังโกหก และอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับพี่สาวของเขา
ครอบครัวมั่นใจลูกสาวถูกฆ่า พยายามหาความจริง 15 ปี ไร้หลักฐาน
จากรายงานของตำรวจเผยว่า ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2550 พ่อของผู้เสียชีวิตได้ไปร้องเรียนยังสำนักงานความมั่นคงสาธารณะของเมืองเจียโส่ว ว่าลูกสาวอายุ 34 ปี หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2550 และขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยค้นหา ต่อมาพ่อของหยางยังพยายามยื่นคำร้องต่อทางตำรวจอีกหลายครั้ง เพราะพวกเขาสงสัยว่าลูกเขยจะเป็นคนฆ่าลูกสาว แต่ก็ยังไม่มีเบาะแสใด ๆ มาสนับสนุน
ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2552 หลังครอบครัวหยางแจ้งความ เนื่องจากสงสัยว่า จาง เหมาเว่ย จะเป็นคนลักพาตัวหยางไป เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการสอบสวนและเชื่อว่าเขามีแนวโน้มเป็นผู้ต้องสงสัยจริง แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่แน่นหนาพอ สุดท้ายคดีนี้ก็เป็นอันหลุดไป
หยางกัง ยังเผยอีกว่า หลังจากที่พี่สาวหายตัวไป เขายังรู้มาว่าจาง เหมาเว่ย แอบไปศาลเพื่อยื่นเอกสารขอหย่ากับพี่สาวเขาถึง 2 ครั้ง แต่ศาลไม่อนุมัติ ขณะที่เขาก็ติดต่อพี่เขยไม่ได้ มีเพียงพ่อแม่ของพี่เขยที่อ้างว่าจาง เหมาเว่ย ไปทำธุรกิจอยู่ที่อื่น และพวกเขาก็ติดต่อลูกชายไม่ได้เช่นกัน
ความหวังครั้งใหม่ สู่การรื้อคดี
จนกระทั่งเดือนมกราคม 2565 หวัง ฉิงเสียน ผู้ว่าการมณฑลอานฮุย ได้เดินทางลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนประชาชนในเขตฮั่วชิว น้องชายของหยางจึงนำเรื่องไปร้องเรียนเจ้าหน้าที่อีกครั้ง จนในที่สุดสำนักงานความมั่นคงสาธารณะจึงจัดตั้งทีมพิเศษเพื่อสอบสวนคดีใหม่อีกครั้ง แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรม จึงต้องใช้วิธีเฝ้าสังเกตและตรวจสอบลักษณะแวดล้อมของจาง เหมาเว่ย กับครอบครัว
อย่างไรก็ตาม จาง เหมาเว่ย ยังคงดื้อรั้น เขาปฏิเสธไม่ยอมสารภาพอะไรในตอนแรก จนเมื่อถูกเจ้าหน้าที่เค้นสอบหนักเข้า และเฝ้าจับตาสังเกตพฤติกรรมอยู่ 21 วัน ในที่สุดเขาก็ยอมเปิดปากสารภาพว่าได้ฆ่าภรรยาของตัวเองไปตั้งแต่ 15 ปีก่อน ระหว่างที่มีเรื่องทะเลาะกัน
เผยที่ซ่อน ฝังไว้ในพื้นที่บ้าน ก่อนสร้างตึกทับ
จาง เหมาเว่ย ยังสารภาพว่านำศพของภรรยาไปฝังไว้ในลานบ้าน กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าไปขุดหาศพในจุดดังกล่าว
หยางกัง เปิดเผยว่า ศพของพี่สาวถูกฝังไว้ในสนามหลังบ้านเก่าของจาง เหมาเว่ย จากนั้นในปี 2559 เพิ่งมีการก่อสร้างอาคารสูง 3 ชั้น ทับสวนดังกล่าว ทำให้ศพของหยางถูกฝังอยู่ใต้อาคารที่มีการปล่อยเช่าทำเป็นซูเปอร์มาร์เกต
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก hk01.com