ส่องทรัพย์สินเครือข่าย P Miner ที่ถูกยึด เห็นแล้วโอ้โห มีทั้งรถหรูฮาร์เลย์ เบนท์ลีย์ แลมโบกินี่ รวมถึงเงินในบัญชี 112 ล้าน เร่งล่าตัวกลับมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่เข้ายึดทรัพย์ เป้ กิติกร เจ้าของ P miner Cryptocurrency ในคดีหลอกลงทุนคริปโต คาดว่ามีความเสียหาย 1,700 ล้านบาท โดยวิธีที่จูงใจให้คนมาร่วมลงทุนคือ จะมีการเปิดกลุ่มวีไอพีให้คนนำเงินมาลงทุน 1 ล้านบาท รวม 300 คน และจะได้ปันผลตั้งแต่ 10-15% แต่สุดท้ายผู้ร่วมลงทุนกลับไม่ได้อะไรคืนมา
ต่อมา เป้ กิติกร ก็แถลงว่า ที่ผ่านมามูลค่าเหรียญคริปโตขาดทุนอย่างหนัก ทำให้บริษัทขาดทุนถึง 70% บริษัทไม่มีสภาพคล่องและไม่สามารถนำทุนสำรองมาใช้ได้ ยืนยันว่าไม่ได้โกงและจะไม่หลบหนี อย่างไรก็ตาม หลายคนก็คาดกันว่า เป้ กิติกร น่าจะอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ส่องทรัพย์สินที่ถูกยึด โอ้โห มีทั้งรถหรู เงินในบัญชี 112 ล้าน
ล่าสุด วันที่ 7 กันยายน 2565 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีการแถลงข่าวการทลายการหลอกลงทุน P Miner หลังจากเข้าค้นบ้านพักใน จ.เชียงใหม่ ของเครือข่ายนายกิติกร CEO ของห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโตเคอร์เรนซี่ กรุ๊ป โดยสามารถยึดของกลางได้หลายอย่างเช่น รถยนต์เบนท์ลีย์ เบนเทย์ก้า, แลมโบกินี่ ฮูราคาน, เฟอร์รารี่ สไปเดอร์, ปอร์เช่ 718 บ็อกสเตอร์, บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์โฟร์, รถจักรยานยนต์ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน, เครื่องขุดเหรียญดิจิทัล 50 เครื่อง รวมถึงการอายัดเงินในบัญชีผู้ต้องหา 117 บัญชี มูลค่า 112 ล้านบาท
พล.ต.ท. กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ สอท. กล่าวว่า คดีนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ถูกชักชวนให้เป็นสมาชิกร่วมลงทุนขุดเหรียญและเทรดเหรียญคริปโตตามโครงการต่าง ๆ มากกว่า 30 โครงการ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ซึ่งบางโครงการอ้างว่าได้กำไรมากถึง 82% ต่อเดือน หรือกำไร 1,000% ต่อปี สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายพึงจะจ่ายได้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
สำหรับมูลค่าความเสียหาย รวมกว่า 439 ล้านบาท ตอนนี้มีผู้เสียหายบางส่วนเข้าแจ้งความกับกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
ภาพจาก ไทยพีบีเอส