เปิดลำดับ การสืบราชสันตติวงศ์สหราชอาณาจักร ภายหลังการผลัดแผ่นดิน ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต
ภาพจาก DANIEL LEAL / AFP
การสูญเสียครั้งสำคัญแห่งราชวงศ์อังกฤษ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต นับเป็นความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่ของสหราชอาณาจักร เครือจักรภพ รวมไปถึงทั่วโลก (อ่านข่าว : สำนักพระราชวัง แถลงด่วน ! สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตแล้ว)
การสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ส่งผลให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งราชบัลลังก์สหราชอาณาจักร เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นประมุของค์ใหม่โดยทันที โดยทรงสามารถตัดสินใจเลือกได้จาก 4 พระนามเต็ม ชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ ซึ่งนับเป็นการตัดสินใจครั้งแรก ในรัชสมัยของพระองค์
ในขณะที่ คามิลลา พระวรราชชายาของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงได้เป็นพระราชินี แห่งสหราชอาณาจักร โดยมีพระยศคือ Queen Consort ซึ่งหมายถึง พระราชินีที่เป็นพระมเหสีของพระมหากษัตริย์
โดยหลังจากนี้จะมีธรรมเนียมขั้นตอนปฏิบัติ และพระราชพิธีการต่าง ๆ ตามมา และภายใน 24 ชั่วโมง หลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงมีพระราชโองการ ประกาศการสืบทอดราชบัลลังก์อย่างเป็นทางการ ต่อหน้าสภาภาคยานุวัติ (Accession Council) ที่พระราชวังเซนต์เจมส์ ในกรุงลอนดอน ก่อนที่จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อเสด็จขึ้นครองราชย์โดยสมบูรณ์ ซึ่งต้องใช้เวลาจัดเตรียมการระยะหนึ่ง
ภาพจาก TOLGA AKMEN /POOL / AFP
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
งานพระราชพิธีที่ถือว่าเป็นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 นั้น คือพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยในส่วนของการเตรียมงาน คาดว่าจะยังไม่มีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นในเร็ววันหลังจากที่พระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ขึ้นครองราชย์ เฉกเช่นกับเมื่อครั้งพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ขึ้นครองราชย์เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1952 แต่มีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1953
ตลอดระยะเวลา 900 ปีที่ผ่านมา มีการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระเจ้าวิลเวียมผู้พิชิต พระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และ พระเจ้าชาร์ลสที่ 3 จะถือเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 40 ที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ ที่แห่งนี่
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์นิกายแอลกลิคัน โดยมีผู้ประกอบพิธีคือ อาร์ชบิชอปแห่งแคนทาบูรี่ จุดที่สำคัญที่สุดในพระราชพิธีนี้ก็คือ อาร์ชบิชอปแห่งแคนทาบูรี่จะเป็นผู้สวมพระมหามงกุฎแห่งเซนต์เอ็ดเวิร์ดให้กับพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ซึ่งพระมหามงกุฎนี้ มีประวัติอันยาวนานย้อนไปถึงปี ค.ศ. 1661
พระมหามงกุฎ ถือเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดที่อยู่ในหอคอยแห่งลอนดอน และพระมหากษัตริย์จะทรงสวมพระมหามงกุฎนี้เฉพาะในพิธีพระบรมราชาภิเษกเท่านั้น
พระเจ้าชาร์ลสที่ 3 พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ จะกล่าวปฐมบรมราชโองการ และในพิธีนั้น พระองค์จะทรงถือเครื่องราชกกุธภัณฑ์ อันประกอบด้วยลูกโลกและคทา ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการเสวยราชสมบัติ และอาร์ชบิชอปแห่งแคนทาบูรี่ จะเป็นผู้ประกอบพิธีสวมพระมหามงกุฎ
ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์สหราชอาณาจักร
ภายหลังจากพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เสด็จขึ้นครองราชย์ เจ้าชายวิลเลียม พระโอรสพระองค์ใหญ่ จึงทรงอยู่ในตำแหน่งรัชทายาทลำดับที่ 1 โดยคาดว่าจะเปลี่ยนจาก ดยุกแห่งเคมบริดจ์ จะได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งเป็นตำแหน่งของพระบิดา ก่อนเสด็จขึ้นเป็นพระมหากษัติย์
เจ้าชายจอร์จ พระโอรสองค์ใหญ่ ในเจ้าชายวิลเลียม และพระชายาเคท จึงทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 ในลำดับการสืบราชบังลังก์อังกฤษ ต่อจากพระบิดา ตามมาด้วย พระขนิษฐา เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และ พระอนุชา เจ้าชายหลุยส์ ทรงอยู่ในตำแหน่งรัชทายาทลำดับที่ 3 และ 4 ตามลำดับการสืบทอด
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก BBC, Telegraph, New York Times