เปิดโพสต์ พุทธะอิสระ vs แพรรี่ ไพรวัลย์ เหน็บกันยับหมัดต่อหมัด อ่านแล้วไม่รู้เลยหมายถึงใคร

          หมัดต่อหมัด มวยอีกคู่ พุทธะอิสระ เตือนพระชาตรี อย่าเอาไม้สั้นไปรันขี้ เหน็บอีกฝ่ายกิริยาส่อสกุล ส่วนแพรรี่โพสต์ถึงลุงครึ่งคนครึ่งพระ อย่าลืมส่องกระจก หมายถึงใครกัน

          ประเด็นร้อนในตอนนี้เกี่ยวกับวงการสงฆ์คงหนีไม่พ้นเรื่องแพรรี่ ไพรวัลย์ กับ พระชาตรี ซึ่งออกรายการโหนกระแสจนอุณหภูมิเดือดทะลัก บานปลายจนถึงขั้นจะฟ้องมาตรา 44 ตรี ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ แล้วก็ทำให้หนุ่ม กรรชัย พิธีกรค่อนข้างปวดหัวพอสมควรในเทปดังกล่าว

          อ่านข่าว : โหนกระแสเดือดแรง แพรรี่ฉะทนายธรรมราช เปิด 6 จอไฝว้หลุดกู-มึง กรรชัยยังโมโหเอง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chatree Hemapandha

          วันที่ 24 กันยายน 2565 เฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) อดีต กปปส. ก็ออกมาโพสต์ถึงดราม่าดังกล่าวด้วยเช่นกัน เปิดหัวว่า "สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล การกระทำส่อความเป็นชาติสกุล"

          กราบนมัสการอาจารย์ชาตรีที่เคารพ เห็นคลิปท่านวิจารณ์ผู้ที่เคยบวชอาศัยผ้าเหลืองเพื่อเรียนรู้ศึกษาจนยกระดับตัวเอง จากเด็กบ้านนอก กลับกลายเป็นพระมหา 2 เพศ ก็พอเข้าใจในความคาดหวังที่สังคมไทยมีต่อคนระดับมหาเปรียญธรรม 9 ประโยค จบมหาวิทยาลัยสงฆ์สำเร็จปริญญาโท ว่า สึกออกมาแล้วจะเป็นต้นแบบที่ดีของสังคม

          แต่ในสิ่งที่สังคมเห็น ท่านอาจารย์ดูจากบุคคลที่เคยบวชมาถึง 18 ปี นับตั้งแต่บวชเณร กลับมีพฤติกรรมมัวเมาการหากินกามคุณอย่างลุ่มหลง ประมาท ทำให้สังคมและอาจารย์ผิดหวัง

          นอกจากนี้ เขายังเปลี่ยนสถานะจากพระมหาเป็นหญิงก็ไม่ใช่ ชายก็ไม่เชิง รุกรานผู้มีศีลโดยไม่สำนึกบาปบุญคุณโทษ ซึ่งการที่พระอาจารย์ชาตรีออกมาเตือน โดยสามัญสำนึกของวิญญูชน จะต้องมาสำรวจตัวเองว่า เรามีอะไรบกพร่อง ผิดพลาด หรือขาดศีลธรรม แล้วค่อยปรับปรุง แต่คนที่อาจารย์ชาตรีวิจารณ์ ไม่ใช่คนที่เป็นบัณฑิต สิ่งที่ท่านทำให้ผู้คนทั้งประเทศและชาวรัสเซียรับรู้ สัมผัสได้ ขอให้เผยแผ่อุดมการณ์ของพระบรมศาสดาให้ก้าวไกลไปทั่วโลก อย่าไปให้ราคากับคนพาล

          ถ้าเปรียบเป็นคำพังเพยคนใต้ เขามักจะสอนลูกหลานเอาไว้ว่า "อย่าเอาไม้สั้นไปรันขี้" คนพาลนี้เต็มไปด้วยอัตตา ตัวกูใหญ่ ใคร ๆ ไม่สามารถแตะต้อง ตักเตือนได้ บัณฑิตจึงควรอยู่ให้ห่างไกล

แพรรี่ ไม่รอช้า โพสต์ดุเดือดถึงลุงครึ่งคนครึ่งพระ

          เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ของแพรรี่ ไพร์วัลย์ โพสต์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า เห็นในสิ่งที่ลุงครึ่งพระครึ่งฆราวาสแล้ว ขึ้นต้นว่า กราบนมัสการ (อลัชชี) ที่เคารพ เจอแบบนี้ก็ขอไม่คุยดีกว่า ป่วยการที่จะพูดกับคนแก่สมองทึบ

          พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ โคย่อมไปสู่สำนักดค กระบือย่อมไปสู่สำนักของกระบือ อลัชชีย่อมคบหาอลัชชี พวกอธรรมวาทีย่อมซ้องเสพด้วยอธรรมวาที คนชื่นชมคนเช่นไร ก็มักเป็นคนเช่นนั้น คนศีลเสมอกันถึงอยู่ด้วยกันได้ ถ้าคนเหล่านี้ไม่ประพฤติตัวแบบเดียวกัน จะมายกย่องกันทำไม

          ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า มีข้อมูลการประพฤติอนาจารของพระอลัชชีรูปนั้นเยอะมาก ๆ ทั้งการสร้างเรื่องราว การสั่งการทำร้ายพระรูปอื่นจนเลือดตกยางออก ยักยอกถ่ายเงินในบัญชีสมัยเป็นรักษาการเจ้าอาวาสจนเงินหายไป 4 ล้านบาทอย่างมีพิรุธ หลักฐานอยู่ที่เอกสารในสำนักงานเจ้าคณะตำบลบางเขน สามารถไปขอดูได้

          ส่วนเรื่องที่น่าแปลกใจ ลุงลูกครึ่งพระครึ่งฆราวาส ปกติชอบทำตัวสู่รู้เป็นขงเบ้งถือพัดโบกไปมา ก่อวีรกรรมไปทั่ว ก่นด่าวัดนั้นวัดนี้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ว่ากัน แต่สิ่งที่สงสัยคือ การที่ลุงลูกครึ่งพระครึ่งฆราวาสกับพระอลัชชี ทำไมถึงทำตีมึนเหมือนไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง หรือแกอาจจะตั้งใจตีมึนจริง ๆ

          สำหรับคนพวกนี้ จริง ๆ แล้วไม่ค่อยมีสติปัญญาเท่าไหร่หรอก ขอแค่ความเห็นทางการเมืองต่างกัน มันก็จะกระโดดงับขาแบบไม่ดูสี่ดูแปดอยู่แล้ว

          หลังจากที่อ่านบทความของอีกฝ่ายทั้งหมด ก็ได้แต่สมเพชเวทนา นี่ยังไม่นับเรื่องทำทีมาพูดเรื่องกิริยาส่อสถุลอีกนะ ช่างกล้า คือแถวนั้นไม่มีกระจกเหรอ ? ไปย้อนดูสิ่งที่ตาลุงคนนี้ทำเอง แล้วจะรู้ว่า กิริยาส่อสกุลจริง ๆ มันเป็นอย่างไร

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร