เจ้าสาวสะดุ้ง ตื่นมาเจอเพื่อนเจ้าบ่าว แอบย่องขึ้นเตียง ละเมิดทางเพศคืนวันวิวาห์ ส่วนเจ้าบ่าวนอนหลับที่โซฟาไม่รู้เรื่อง
ตามรายงานเผยว่า เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจัดงานแต่งงานขึ้นเมื่อปี 2559 โดยหลังจากจบพิธีในห้องจัดเลี้ยง ก็มีปาร์ตี้ฉลองหลังแต่งงานที่ห้องสวีตในโรงแรม เพื่อน ๆ ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้รับเชิญให้ขึ้นไปร่วม รวมไปถึงเพื่อนเจ้าบ่าววัย 42 ปี (ไม่เปิดเผยชื่อ) ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ
ในปาร์ตี้มีการดื่มแอลกอฮอล์สังสรรค์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. เจ้าสาวรู้สึกเหนื่อยและเพลีย จึงเข้าไปในห้องนอนเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นที่จัดปารตี้ มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น ซึ่งเจ้าสาวจำได้ว่า เธอปิดประตู แต่ไม่ได้ล็อก
เจ้าสาวรู้สึกตัวตอนเวลาประมาณ 06.00 น. ตอนที่มีใครบางคนกำลังรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวและล่วงละเมิดทางเพศ ตอนนั้นเธอยังเข้าใจว่าเป็นสามี จึงขอให้เขาไปอาบน้ำและไม่มีเสียงตอบรับ และยังคงลูบไล้เธอต่อไป
ในห้องนอนค่อนข้างมืดทำให้เจ้าสาวมองไม่ชัดเท่าไหร่ อย่างไรก็ดี เมื่อเธอหันไปสังเกตดูให้ดี ๆ ก็พบว่า ผู้ชายที่อยู่ข้างเธอนั้นมีใบหน้าใหญ่และกลมกว่าของสามีมาก เธอจึงรู้ว่าไม่ใช่เขา ทำให้เธอสะดุ้งตกใจสุดขีด
เจ้าสาวร้องถามว่า "คุณเป็นใคร" แต่เขาก็ไม่ตอบอีก เธอจึงรีบวิ่งออกมาจากห้องด้วยความกลัว ก่อนจะไปเจอสามีที่นอนหลับไปบนโซฟาในชุดเจ้าบ่าว จากนั้นเธอก็เห็นหน้าชัดเจนว่า ชายที่เข้าไปลวนลามเธอในห้องคือ เพื่อนของสามี
เจ้าสาวได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเพื่อนเจ้าบ่าว แต่ในตอนแรก เขาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า เขาคิดว่าเขาหลับอยู่ที่บ้านและกำลังสัมผัสภรรยาของเขา ทว่าท้ายที่สุด ผู้พิพากษาพบว่าเขาโกหก เพราะโดยปกติแล้วภรรยาของเขาจะไม่อนุญาตให้เขานอนบนเตียงด้วย หากเขาดื่มเหล้ากลับมาบ้านแล้วไม่ได้อาบน้ำ
ทั้งนี้ ในการพิจารณาคดี ผู้พิพากษายังชี้ว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมการหลอกลวงร่วมด้วยในขณะที่ก่อเหตุ โดยจงใจทำให้เหยื่อเข้าใจว่าตนเองคือสามี ด้วยเหตุนี้ จึงตัดสินให้จำคุก 7 ปี พร้อมโทษโบย 6 ครั้ง
ส่วนเจ้าบ่าวและเจ้าสาว หลังจากเกิดเรื่อง ก็ได้ตัดสินใจหย่าขาดจากกัน เป็นอันสิ้นสุดรักจบลงอย่างน่าเศร้า ทั้งที่คบหากันมายาวนานถึง 11 ปี
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่