แพรรี่ ลั่น เอาแน่ ! ปมร้องสอบทนายธรรมราช ชี้ ไม่ใช่ทนายแต่อยากสอน คุก 5 ปี รับไหวเหรอ...คนเป็นทนายควรมีความรอบคอบเรื่องคดีความอะไรใดๆ ไม่ใช่มาโชว์พาว
เรียกว่าเป็นประเด็นดราม่าร้อน ๆ ของอดีตพระมหาไพรวัล หรือ แพรรี่ ไพรวัลย์
วรรณบุตร ที่ถูกทนายธรรมราช ตัวแทนจากฝั่งพระชาตรี ออกมาบอกว่าจะใช้มาตรา
44 ตรี ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มาฟ้องร้องฐานทำคณะสงฆ์แตกแยก ซึ่งต่อมา แพรรี่
ไพรวัลย์ ได้เดินทางไปร้องเรียนกับทางสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์
ให้ตรวจสอบมรรยาทของทนายธรรมราช ที่มีการเหยียดเพศสภาพ
และบูลลี่อาการป่วยของทนายเกิดผล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด
(30 กันยายน 2565) รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดยหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย
ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35
น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ แพรรี่ และทนายเกิดผล
ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เป็นยังไงบ้าง ?
แพรรี่ : งานเข้าตลอดเลยค่ะ (หัวเราะ) งานดีบ้างไม่ดีบ้าง
วันนี้มาในคอนเซ็ปต์โรสกับแจ็ค ไททานิค ?
แพรรี่ : วันนี้มาแบบสุภาพค่ะ
งานเข้าเยอะมาก ?
แพรรี่ : พอออกรายการพี่หนุ่มไปมันก็ยังไม่จบ ยังมีวิวาทะเล็ก ๆ น้อย ๆ
มีการโพสต์ การไลฟ์พาดพิงกัน จนนำไปสู่การที่ดิฉันไปสภาทนายความ
แพรรี่ : ร้องเรื่องมรรยาททนายความค่ะ เพราะดิฉันก็มีทีมทนายและได้ข้อมูลมาว่าอีกฝ่ายที่มีวิวาทะกันเขามีการไลฟ์บ้าง โพสต์ข้อความบางอย่างบ้างมีการพาดพิงถึงดิฉันที่รู้สึกว่าน่ารังเกียจค่ะ เช่น เพศสภาพ หลัก ๆ คือเรื่องนี้ที่รับไม่ได้
อันไหนที่เขาพูดแล้วรู้สึกไม่ถูกต้อง ?
แพรรี่ : เขาไลฟ์แล้วบอกว่าให้ดิฉันคลำหว่างขาดู ดิฉันคลำทุกวันนะคะ ไม่ต้องบอก
ในคลิปเขาบอกว่าไปรุมเขา ?
แพรรี่ : ดิฉันว่าไม่เกี่ยวกัน ดิฉันว่าคนเขาฟังไม่ได้ฟังเพราะดิฉันทาลิปสีอะไร ใส่วิกสวยไม่สวย ทุกคนก็มีสิทธิ์ชี้แจง ท่านก็ยกข้อกฎหมายมาชี้แจง ไม่น่าจะเกี่ยวเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก เรื่องเพศสภาพ ไม่ควรยกมาเป็นประเด็น เพราะไม่ได้เป็นเหตุเป็นผลอะไรเลย
หลังจากนั้นได้มีโอกาสพูดคุยกันไหม ?
แพรรี่ : ไม่ค่ะ ถ้าให้พูดคุยเป็นการส่วนตัว ดิฉันไม่คุยค่ะ
เดี๋ยวจะเหมือนสร้างคอนเทนต์ กลายเป็นว่าวิวาทะกันเพื่อต้องการกระแส
ต้องการคอนเทนต์ ดิฉันไม่รู้จักเขามาก่อนเลย ถ้าจะคุยก็อย่างนี้
คุยออกรายการพี่หนุ่มเลย แล้วให้คนที่สนใจประเด็นนี้ได้ฟังด้วย
เวลาทะเลาะกันทะเลาะออกโซเชียล
แต่เวลาจะไปคุยกันไปคุยข้างหลังดิฉันไม่ชอบแบบนั้นค่ะ
ให้ทีมงานติดต่อทนายธรรมราช ปรากฏว่าแกไม่ว่าง ไม่สะดวกในตอนนี้ ก็เข้าใจแหละแกอาจคิดทบทวนอะไรบางอย่างหรือเปล่า หรือรอดูฝั่งนี้ว่ามีการพูดพาดพิงถึงเขาไหม มุมพี่เกิดผล ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้าง ?
เกิดผล : ตอนนี้เป็นไตระยะสุดท้าย ระยะที่ 5 ค่าไตต่ำลงเรื่อย ๆ เมื่อวานไปตรวจก็ต่ำลงไปอีก ซึ่งหมอวางแผนไว้แล้วว่าต้องฟอกไตหรือเปลี่ยนไต แต่ยังไม่สามารถฟอกหรือเปลี่ยนได้ เพราะสภาพร่างกายยังไม่แข็งแรงพอ เนื่องจากหมอต้องวางระบบเส้นเลือด ตอนนี้หมอฉีดยากระตุ้นเม็ดเลือด เกล็ดเลือดให้แข็งแรงก่อน ไม่งั้นถ้าทำท่อไปเส้นเลือดอาจแตกได้ ไม่รู้เดือนไหนครับ
ทราบมานานหรือยังว่าเป็นโรคไต ?
เกิดผล : ผมทราบตอนขาบวม ตัวบวมและน้ำท่วมปอด ไปรพ. หมอแจ้งว่าเป็นไตระยะที่ 4 แล้ว
ผมก็ยังงงว่า 1 2 3 ไปอยู่ที่ไหนมา มาโผล่ที่ 4 เลย ผมไปตรวจปกติ
ไปตรวจเบาหวาน หมอเคยพูดว่าค่าไตเสื่อมนะ แต่ไม่ได้บอกว่าเสื่อมระดับไหน
แต่มาอีกทีคือมันไม่สบายแล้ว มันบวมและน้ำท่วมปอดแล้ว
พอไปหาหมอค่าไตก็เหลือ 24 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นมันก็ลดลงเรื่อย ๆ
จนปัจจุบันเหลือ 12 เปอร์เซ็นต์
นี่เรียกว่าอาการไตวายแล้ว ต้องฟอกไตแน่นอน ก่อนหน้านี้มีคนไปบริจาคไตให้พี่ แต่พี่ไม่รับ ?
เกิดผล : ส่วนตัวผมเอง คิดว่าคนอยากได้ไตไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว เชื่อว่าอีกหลาย ๆ คนก็อยากได้ไต แต่ถ้าเอาไตจากผู้บริจาคที่เขาเสียชีวิตแล้วผมยินดี แต่ถ้าคนเป็น ผมรู้สึกไม่อยากเบียดเบียนใคร เกรงใจด้วย ถ้าเขาจะบริจาคจริง ๆ ผมว่าไม่จำเป็น เพราะเรามีหลายโรค มีเบาหวาน ความดัน ไขมัน หลายโรค อายุเราจะเข้า 50 แล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร เราไม่มีอะไรติดค้างในใจ ถ้าจะบริจาคไตให้ผม ก็บริจาคให้คนที่เขามีความต้องการ มีลูกมีเมีย มีหลายคนที่เขาต้องดูแล หรือเด็กที่กำลังโต 18 19 20 เขาจะได้มีชีวิตยืนยาว ทำประโยชน์ให้ครอบครัวเขา ทำประโยชน์ให้สังคม ขณะที่ถ้าเอามาอยู่กับผม ผมว่าไม่เกิน 10-20 ปี มันจะไม่คุ้มค่ากับผู้ที่มีเจตนาดี อยากให้อยู่กับคนที่ต้องการและอยู่ได้นาน ๆ มากกว่า
ประเด็นที่พี่มาเกี่ยวข้องกับแพรรี่ และทนายธรรมราช เกิดสาเหตุจากที่ออกรายการโหนกระแส มีการพูดคุย จะว่าวิวาทะไหมก็กึ่ง ๆ แต่วิวาทะในมุมข้อกฎหมาย เพราะทนายธรรมราชบอกว่าเขาสามารถร้องหรือแจ้งความฝั่งแพรรี่ได้เนื่องจากว่าไปหมิ่นสงฆ์ หมิ่นคณะสงฆ์ เข้าพ.ร.บ.คณะสงฆ์ มาตรา 44 ปรากฏว่าพี่เอง ก็สวนมาหลังจากที่ดูรายการ พี่บอกว่ายังไง ?
เกิดผล : ผมก็ตีความว่าถ้าเอาตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มาตรา 44 ตรี
คำว่าคณะสงฆ์ควรหมายความว่าเป็นคณะ อาจ 2 รูปขึ้นไป
แต่ไม่ได้หมายความว่าคนใดคนหนึ่ง ถึงแม้ตีความว่า มาตรา 5 ทวิ
บอกว่าหมายถึงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งที่บวชในพุทธศาสนา
ก็ไม่ได้หมายความว่าเจาะจงเฉพาะรูปนั้น เช่น ไปด่าพระรูปเดียวก็อาจผิด
พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ได้ เช่น ด่าเจ้าอาวาสว่าเจ้าอาวาสองค์นี้ไม่ทำอะไรในวัด
ทำให้คณะสงฆ์แตกแยก แต่ผมตีความว่า คณะสงฆ์น่าจะเป็นหมู่คณะ
ประการที่สองผมมองว่าการที่คุณแพรรี่ไปว่าพระชาตรี
เป็นเรื่องเฉพาะเจาะจงตัวบุคคล ไม่ได้ไปพาดพิงหรือมีเจตนาตำหนิคณะสงฆ์
เพราะถ้าจะพูดเรื่องหลักกฎหมายทั่วไป คือประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 ก่อน
คือเจตนา ต้องอ่านเจตนาก่อนว่าเขาจะด่าพระหรือด่าคณะสงฆ์ หรือเจตนาทำร้าย
หรือเจตนาหมิ่นประมาท ถ้าไม่เข้าเจตนาองค์ประกอบภายใน
ก็ไม่ต้องพูดถึงองค์ประกอบภายนอก ทีนี้ผมก็มีความเห็นว่าควรเป็นอย่างนี้
และยกตัวอย่างว่าถ้าพระไม่ดี ไปผิดศีลกาเม หรือทะเลาะกับชาวบ้าน
แล้วชาวบ้านด่าพระก็ไม่ผิด ต่อให้เตะปากพระก็ผิดแค่ฐานทำร้ายร่างกาย
แต่ไม่ผิด พ.ร.บ.สงฆ์ ผมยกตัวอย่างพระไม่ดี แค่นั้นเอง
ก็เกิดประเด็นโต้แย้งกันขึ้นมา
ปรากฏว่าทนายธรรมราชเขาขึ้นมาว่า อ๋อ ๆ ตีความคำว่าคณะสงฆ์แบบนี้ใช่ไหม ถึงว่าน้องไตเสื่อมจึงมาหา ขอบพระคุณครับที่ท่านพี่ที่เมตตา ผมรู้แล้วว่าด้วยเหตุอย่างนี้เอง จะบอกให้เอาบุญนะท่านพี่ ท่านรู้จักสมุนไพรองค์รวมไหม อยากรู้ทักมา น้องจะบอกให้ แพรรี่มองยังไง ?
แพรรี่ : รู้สึกว่าเขาไม่ค่อยมีวุฒิภาวะนะคะ ดูจากข้อความ ไม่ควรทำ โดยเฉพาะคนอยู่ในวิชาชีพเดียวกัน มันก็ต้องเคารพกัน ไม่งั้นจะมีคำว่าทนายอาวุโส ก็ไม่มั่นใจว่าเขาแอบไท-อินหรือเปล่าเรื่องสมุนไพรองค์รวม หมายความว่าไงคะ เขาอาจแนะนำให้พี่เกิดผลกินสมุนไพรรวมหรือเปล่าคะ (หัวเราะ)
พี่มองยังไง ?
เกิดผล : เห็นครั้งแรกเหมือนเด็กอยากเอาชนะมากกว่า รู้สึกว่าวุฒิภาวะต่ำมาก มีปัญหาหรือมีปมอะไรหรือเปล่า ถึงอยากเอาชนะ แค่นี้ เพราะเราคุยเรื่องข้อกฎหมาย ก็ต้องเถียงเรื่องข้อกฎหมายสิ คุณไม่เห็นด้วยตรงไหนก็ว่ามา ไม่เห็นด้วยเพราะอะไร แต่คุณเอาเรื่องโรคภัยไข้เจ็บมาพูด ตอนแรกไม่อยากโต้ตอบ ผมมองว่าวุฒิภาวะน่าจะต่ำไป ไม่เหมาะกับคำว่าเป็นทนายความ น่าจะเป็นการประชดประชันมากกว่าในครั้งแรกที่คิดอย่างนั้น
พี่ก็โพสต์ไปว่าสติครับน้อง สติ โรคภัยไข้เจ็บเป็นเรื่องปกติ อย่าเอาปัญญามาเทียบกับโรคไตของพี่ ตรรกะอะไรของน้องวะ แปลก ๆ แหกทะลุมิติ พี่รักษาสุขภาพพี่ได้ น้องรักษาตั๋วทนายของน้องให้นาน ๆ ก็แล้วกัน เกินเยียวยา หลังจากนั้นเขาก็ส่งกลับมาว่า ก็ในเมื่อพี่ไปพูดถึงพระสงฆ์แบบนั้น เขาก็อยากเปรียบเทียบให้พี่เห็นว่าเขาพูดถึงเรื่องโรคไตของพี่บ้าง ขอให้ท่านพี่ทนายเกิดผลเข้าใจ ท่านพี่ยกตัวอย่างเตะปากพระสงฆ์หมู่เหล่าพระสงฆ์ท่านจะคิดเช่นใด ส่วนผมยกเรื่องไตเสื่อม พร้อมสมุนไพรเพื่อรักษาท่านพี่รู้สึกอย่างไร ส่วนเจตนาผมไม่เคยคิดว่าร้ายผู้ใด เพียงอยากบอกท่านพี่ให้เห็นถึงความรู้สึกของพระสงฆ์ที่ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบบ้าง ?
เกิดผล : ผมเห็นแล้วล่ะครับ แต่มันเป็นภาษาที่นักกฎหมายหรือทนายความไม่ควรจะใช้ คือเขาตัดถ้อยคำ ผมบอกว่าพระไม่ดีเป็นแบบนี้ ๆ ถ้าประชาชนเตะปากแล้วจะเป็นยังไง แต่เขาบอกว่าถ้าเตะพระ เขาพูดโดยรวม ซึ่งคนเป็นทนายที่ดีต้องพูดให้ครบ พูดไม่ครบก็เหมือนโกหกครึ่งหนึ่ง
พี่พูดงี้ไม่กลัวเขาฟ้องเหรอ ?
เกิดผล : กลัวทำไม กลัวจะกล้าพูดเหรอ ผมไม่ได้ใส่ความเขา
สิ่งที่ปรากฏมันชัดเจนว่าเขาเขียนอย่างนั้นจริง ๆ
ทำไมไม่เอามาทั้งหมดล่ะว่าผมพูดอะไร
ทำไมไม่บอกว่าบทความที่ผมเขียนว่าถ้าพระแบบนี้ผิดศีลข้อ 3
ไปทะเลาะกับชาวบ้าน ถ้าชาวบ้านเตะไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงฆ์
อย่างมากก็ผิดฐานทำร้ายร่างกาย ทำไมไม่เอาตรงนี้มาพูด
ทำไมไปพูดว่าท่านพี่จะเตะพระ ผมจะไปเตะใคร ผมไม่ได้พูดถึงพระที่ปฏิบัติดี
ปฏิบัติชอบ แต่คุณเลือกที่จะเอาถ้อยคำบางถ้อยคำมา
คุณจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้คนเข้าใจผิด ถ้าคนไม่ได้อ่านทั้งสองฝ่าย
ถ้าเขาเชื่อคุณ ผมก็เสียหาย
แพรรี่ : ยังค่ะ ไปร้องมรรยาททนายความ และรอให้ที่เขาไปร้องดิฉันก่อนหน้านี้มันได้ความยังไงก่อน มันยุติยังไงก่อน ดิฉันถึงค่อยดำเนินคดีในส่วนดิฉันค่ะ
เรื่องนี้ไม่ยอมแน่นอน ?
แพรรี่ : ไม่ยอมค่ะ
เขาไปแจ้งความหรือยังฝั่งทนายธรรมราช ?
แพรรี่ : เหมือนเขาไปยื่นเรื่อง เอาหลักฐานเอาข้อกล่าวหา แบบถอดจากเสียงที่หนูไลฟ์ไป และไปยื่นเพิ่มเติมอีก แต่ในชั้นสอบสวนเขายังไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ ไม่มีการทำอะไรใด ๆ เลย เรายังไม่ใช่ผู้ต้องหา เดี๋ยวพนักงานสอบสวนก็ต้องเรียกตัวทนายที่ร้องหนูไปสอบอีก เขาก็ต้องไปดูว่าที่เขาอ้างว่าหนูใส่ร้ายป้ายสีคณะสงฆ์ตามมาตราตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ คณะสงฆ์มีมติหรือยัง หรือมีมติยังไง เขาก็ต้องส่งเรื่องไป สภ.พุทธมณฑล แล้วให้สำนักงานพุทธซึ่งมีหน้าที่เป็นเลขาธิการเถรสมาคมออกมาบอกว่ามหาเถรมีมติให้ฟ้องหนูไหม ให้ดำเนินคดีฐานใส่ร้ายป้ายสีไหม มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เหมือนที่เขาเอามาโพสต์ลงโซเชียล
จริง ๆ
คนเป็นทนายควรมีความรอบคอบเรื่องคดีความอะไรใด ๆ ไม่ใช่มาโชว์พาว อยู่ดี ๆ
ไปฟ้องใครแล้วเอามาโพสต์ปั้ง ๆ ๆ เขาก็ต้องระวังว่าหนูในฐานะผู้เสียหาย
ก็ต้องดำเนินการใด ๆ กับเขากลับแน่นอน ถ้าหนูไม่ได้ผิดจริง แล้ว
พ.ร.บ.คอมพ์ มันหนักนะคะ 5 ปี โทษหมิ่นประมาทแค่ 2 ปี
นี่ขนาดหนูไม่ได้เรียนกฎหมายแต่อยากสอนนะคะ ถ้าโดนไปมันหนักนะคะ 5
ปีรับไหวเหรอคะ เห็นตอนที่เขาไปยื่นเพิ่มเติมเขาบอกว่าหนูจะรับไหวไหม
ก็อยากถามพี่ว่า 5 ปี พี่รับไหวไหมคะ ตั๋วทนายได้มาก็ลำบาก
เรียนกฎหมายก็ไม่ง่าย หนูอยากให้เอาความรู้ เอาตั๋วทนายที่ได้มา
ทำวิชาชีพที่เกิดประโยชน์ ที่ช่วยเหลือคน ไม่ใช่มารังแกคน
วันนั้นที่พูดคุยกันไป แพรรี่ รู้เรื่องมาตรา 44 อยู่แล้ว ?
แพรรี่ : หนูเป็นคนในคณะสงฆ์มาก่อน ทำไมจะไม่รู้ แล้วจริง ๆ เขาพูดผิดนะคะ ไม่ใช่พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ 2505 แต่เป็น พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม หนูรู้หมดแหละค่ะ รบกวนดูเจตนารมณ์กฎหมายด้วยนะคะ จะสุ่มสี่สุ่มแปดไม่ได้นะคะ ระวังจะไปอยู่สุ่มไก่นะคะ
เราเปรียญ 9 ต้องศึกษาเรื่องพวกนี้ ?
แพรรี่ : หนูรู้ ไม่ใช่ว่าสุ่มสี่พูดเรื่องคณะสงฆ์ครั้งแรก หนูพูดมาหลายครั้งมาก และคิดว่าหลายคนมีสิทธิ์พูดได้ในฐานะพุทธบริษัท ติชมด้วยความสุจริตใจและเราไม่ได้มุ่งเป้าไปที่คณะสงฆ์ใดคณะสงฆ์หนึ่ง เราพูดถึงเรื่ององค์กร ถึงพระที่ทำไม่ดี ต่อให้เขาอ้างว่าเป็นคณะสงฆ์ก็ตามทีเถอะ หนูว่าต้องแยก คณะสงฆ์ที่ดีท่านไม่มาเกี่ยวข้องหรอกค่ะ ท่านก็ไม่เดือดร้อนหรอก เพราะหนูพูดชัดว่าหนูพูดถึงอลัชชี แล้วอลัชชีไม่จำเป็นต้องมีรูปเดียวนี่คะ มีหลายรูปก็ได้ ซึ่งไม่ควรนับว่าเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา
เกิดผล : แบบนี้ต้องเรียกว่าคณะอลัชชี ใช่ไหม
แพรรี่ : หนูไม่ได้พูดถึงคณะสงฆ์ค่ะ หนูพูดถึงคณะอลัชชี
จะให้โอกาสให้อภัยเขาไหม ถ้าเขาเคลียร์แล้วขอโทษ ?
แพรรี่ : จริง ๆ หนูอยากสร้างบรรทัดฐานนะคะ อยากให้กระบวนการที่หนูไปร้องไว้ ไม่ว่าจะมรรยาททนายความก็ตาม หรือคดีหลังจากนี้ที่หนูดำเนินการ มันไปถึงที่สุดก่อน แล้วหนูถึงพร้อมที่จะให้อภัยเขา แต่จะให้มายกเลิกกลางคันแล้วรู้สึกว่าไม่ต้องทำอะไร หนูคิดว่ามันไม่ดีหรอก ใครทำอะไรก็ต้องได้รับผลอย่างนั้น แต่หนูไม่ติดใจ โกรธเคืองอะไรเขาอยู่แล้ว แต่ต้องให้กระบวนการยุติธรรมทำงานบ้างค่ะ ไม่ใช่เวลาทะเลาะกันจะเป็นจะตายสุดท้ายมาขอโทษ หนูว่ามันควรสร้างบรรทัดฐานให้สังคมค่ะ
ไหว้สวยรวยกระเช้าไม่เอา ?
แพรรี่ : ที่บ้านมีกระเช้าเยอะแล้วค่ะ
หลังจากนี้จะมีการวิจารณ์เกี่ยวกับพระอีกไหม ?
แพรรี่ : หนูก็ยังทำหน้าที่อยู่เรื่อย ๆ เวลามันมีประเด็นปัญหา อย่างล่าสุดหนูว่าจะไม่พูดแล้ว อย่างภิกษุณี หลวงพ่อพยอมบอกว่าทำไมไม่ไปถามคนชื่อแพรรี่ หนูก็ต้องช่วยงานเพราะหนูศรัทธาอาจารย์พยอมมาก หนูก็ช่วยพูดให้ในมุมหนู ในมุมปรารถนาดี หนูก็แนะนำว่าท่านต้องเลือกสักแพลตฟอร์มหนึ่งเนอะ ถ้าท่านอยากขาย ต่อให้อวดอ้างสรรพคุณที่มันโอเว่อร์ แต่ท่านไม่ใช่ภิกษุณีหนูก็พอรับได้ เพราะเห็นว่าหลายคนก็ทำไปในทางไสยศาสตร์ เป็นชาวบ้านก็ยังไม่น่าเกลียด วันหนึ่งคุณมูฟมาในฐานะนักบวชแล้วแต่มาทำแบบนี้
เราพูดแบบนี้แล้วถ้ามีคนย้อนว่าต้องพระมหาสมปองล่ะ ?
แพรรี่ : หนูติดประเด็นนั้นเหมือนภิกษุณีปลาย หนูว่าทำได้หลายอย่าง ถ้าจะชวนคนร่วมบุญ กรณีที่ศรีลังกาเขาเดือดร้อนจริง ๆ ถ้ามีคนนับถือในตัวท่านจริง ๆ คนก็พร้อมทำบุญ ท่านก็ให้วัตถุมงคลเป็นเครื่องเตือนสติในทางจิตใจไปสิคะ อาจเป็นพระพุทธรูปก็ได้ แต่ว่าไม่ใช่เป็นของขายที่อวดอ้างสรรพคุณในทางไสยศาสตร์
สงกาญ์ : ต้องเรียนว่าผมไม่ได้เป็นห่วงเลย จากการที่ผมไปในฐานะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม อยากรู้ว่าเรื่องราวเป็นยังไง เขาบอกว่ามีนักกฎหมายมายื่นคำกล่าวโทษ แล้วมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก จากนั้นมายื่นหลักฐานเพิ่มเติม อ้างว่าเป็นคำถอดเทปของน้องแพรรี่ ซึ่งตร. ก็รอสอบปากคำอยู่ จากการพูดคุยที่เขามากล่าวอ้างผิดตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ปี 2505 จริง ๆ แล้วต้องเรียนว่า พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มีการแก้ไขเพิ่มเติม ปี 2535 มาตรา 44 ตรี จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันนั้นมีโอกาสคุยกับหัวหน้าพนักงานสอบสวน โดยรองผู้บังคับการ ตร.ภูธร จ.ฉะเชิงเทรา จากการคุย เขาบอกว่าเมื่ออ้างถึงพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ดังที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ ก็ต้องไปสอบคณะสงฆ์ คงเป็นกรรมการเถรสมาคมว่ามีมติเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือเปล่า แต่ทีนี้จะไปสอบคณะกรรมการมหาเถรสมาคมก็ดูอาจไม่สมควร ต้องไปสอบเลขาธิการคณะกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งมี ผอ.สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำหน้าที่ไปดูว่ามีมติเรื่องนี้หรือไม่อย่างไร และเพื่อความรวดเร็ว เห็นทางรองผู้การ จ.ฉะเชิงเทรา บอกว่าจะส่งประเด็นไปให้โรงพักพุทธมณฑล ทำการสอบสวนในเรื่องนี้ แล้วเรื่องนี้ไม่ห่วงเลย บอกตรง ๆ ถ้าไม่มีมติเรื่องหนึ่งเรื่องใดแล้ว เชื่อว่าแนวโน้มคดีนี้ยิ้มได้เลยครับ แต่เป็นห่วงคนเอามาโพสต์ หนึ่งไปกล่าวหาบุคคลหนึ่งบุคคลใด ไประบุเจาะจงว่าคุณแพรรี่กระทำความผิดทางอาญา ผมเป็นห่วง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 อนุ 1 ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2560 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ต่างกรรมต่างวาระ อันที่สองผิดเรื่องการแจ้งความเท็จอีก ยุ่งเลยนะครับ ถ้ามีเชิงสักนิดหนึ่งต้องเป็นลักษณะร้องทุกข์กล่าวโทษให้มีการตรวจสอบ สอบสวนข้อเท็จจริงเสียก่อน หากพบว่ามีการกระทำความผิดค่อยพิจารณา ไม่ใช่ไประบุว่าคนหนึ่งคนใดกระทำความผิดทางอาญา ไม่ได้ครับ เรื่องนี้เสียหายมากครับ
การที่แพรรี่กับฝั่งพี่เกิดผลไปร้องมรรยาททนายความ ดูทรงแบบนี้น่าจะโดนไหม ?
สงกาญ์ : ก็ต้องมาดูว่าเนื้อหาที่มีการกล่าวพาดพิงถึงคุณแพรรี่ หรือน้องเกิดผลเป็นอย่างไร เป็นเรื่องส่วนตัวหรือไม่อย่างไร เชื่อว่าเร็ว ๆ นี้อาจจะมีการแถลงข่าว เรื่องดังกล่าว ว่าผิดหรือไม่อย่างไร สมมติรับไว้ก็ต้องส่งเรื่องให้ตัวผู้ที่มีการกล่าวหาน้องแพรรี่หรือทนายเกิดผล ชี้แจง ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ก็เปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องมีการชี้แจง ไม่น่าเกิน 3 เดือนน่าจะทราบ
เรื่องพี่เอาไงต่อเรื่องโรคไตที่มาบูลลี่พี่ ?
เกิดผล : ตัวผมเองไม่ได้คิดที่จะทำอะไรต่อแล้ว
ฟ้องได้ไหม ?
เกิดผล : คงไม่เข้าครับ เพราะไม่เป็นเรื่องหมิ่นประมาท
เป็นการเยาะเย้ยถากถางธรรมดา ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย
ไม่ได้รู้สึกอะไรส่วนตัวนะ แต่ผมเห็นว่าคนเป็นทนายความ
มันพูดอย่างนี้ได้ด้วยเหรอ มันควรพูดเหรอ
ผมถึงไปร้องสภาทนายความให้ทางกรรมการได้พิจารณาว่าถ้อยคำนี้
บุคคลที่เป็นทนายความที่มีเกียรติวิชาชีพควรพูดไหม
ถ้าพูดไม่ได้จะมีบทลงโทษหรือมาตรการต่อไปอย่างไร
ซึ่งผมติดใจตรงนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาทนายความครับ
กรณีบางคนออกมาบูลลี่เรา อย่างนักร้องแรป มองยังไง ?
แพรรี่ : หนูไม่ได้รู้จักเขาเลย ไม่ทันได้ตอบโต้อะไร เขาก็ออกมาชี้แจง ขอโทษไปเสียก่อน มีคณะทัวร์อื่นไปหาเขาเสียก่อน ก่อนที่หนูจะพูดถึงเขาอีก
ถ้าพูดถึงนี่หนักแน่ ?
แพรรี่ : (หัวเราะ) หนูมองว่าเป็นเรื่องไม่น่ารักเนอะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเอาเรื่องเพศสภาพ เพราะต่อให้คนมีเพศหลากหลาย มีเพศวิถีที่ไม่ได้ตรงคอนเซ็ปต์ที่สังคมไทยจะนิยมยกย่อง คนจะเป็นเพศอะไรก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน การที่หนูเป็นแบบนี้หนูด้อยไปกว่าใครตรงไหนคะ หนูก็ไม่ด้อยไปกว่าแรปเปอร์ท่านนั้น หนูก็ทำมาหากินได้พอ ๆ กับเขา ไม่ต้องพูดว่าใครเก่งกว่ากัน แต่ทุกคนก็มีสองมือสองเท้าเท่ากัน แบบนี้หนูก็รู้สึกว่าทำไมต้องเอาเรื่องเพศสภาพมาพูด
หรือบางคนเหมือนเอาเรื่องในอดีตมาพูด ?
แพรรี่ : หนูว่าทุกคนตั้งแต่เกิดมา มีพ่อแม่ครูบาอาจารย์
ได้รับการสั่งสอนเรื่องของกาลเทศะ เรื่องบริบท
ทำไมหนูต้องเข้าใจคนเดียวว่าเราจะเป็นอะไรก็เข้าใจบริบทและทำตัวให้เหมาะสม
ทุกคนไม่ได้รับการสั่งสอนเรื่องนี้เหรอคะ หนูสงสัย
ถ้าได้รับการสั่งสอนก็ไม่ควรตั้งคำถามว่าทำไมเป็นพระลุคหนึ่ง
ก็นั่นเป็นพระไงคะ จะให้มาใส่หมวกอย่างนี้ก็ไม่ได้หรือเปล่า
ถึงจะอยากใส่ก็ตาม (หัวเราะ) หนูงง
ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องมาพูดกันแล้วหรือเปล่า มันเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ๆ
นะ หนูอยากให้มันหมดไปได้แล้วในสังคม
เวลาเราจะมาโต้แย้งอะไรกันหยิบประเด็นมาคุยกันเถอะ
ไม่ใช่เอาเรื่องเพศสภาพมา อย่างว่าหนูเป็นตุ๊ดอย่างนี้
หนูก็เถียงไม่ได้เพราะหนูเป็นจริง ๆ
แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าการเป็นตุ๊ดของหนูทำให้หนูหมดสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์หรือพูดเรื่องอะไรแบบนี้
หรือการเป็นตุ๊ดของหนูทำให้หนูต้องเป็นพลเมืองชั้นสอง
มีสิทธิ์มีเสียงน้อยกว่าคนอื่น มันก็ไม่ใช่
แพรรี่ก็ติดตามเรื่องที่โซเชียลบูลลี่เรา ?
แพรรี่ : เยอะค่ะ หลายคนก็ออกมา อดีตพระบ้าง แม่ค้าบางคน อดีตพระหนักกว่าเพื่อนเลย (หัวเราะ) ที่ออกมาพูดว่าอย่าเอาไม้สั้นไปรันขี้ หนูก็บอกว่าดูดี ๆ ว่าตัวเองเป็นขี้หรือไม้สั้น บางทีตัวเองเป็นขี้แล้วเข้าใจว่าเป็นไม้สั้น มันก็ทำให้ตัวเองเข้าใจผิด คิดว่าตัวเองเป็นคนดี ก่อนวิจารณ์ใครดูตัวเองให้ดี ๆ ก่อน แทนที่จะว่าคนอื่นกลับว่าตัวเอง หลายคนเป็นอย่างนั้นเลย
โฟนอินหา "พ.ต.ท.หญิง วรัญญา เกิดเอี่ยม" รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา คดีแพรรี่ตอนนี้ตกเป็นผู้ต้องหาไหม กรณีทนายธรรมราช ?
พ.ต.ท.หญิง วรัญญา : ยังค่ะ ยังไม่ถึงขั้นผู้ต้องหานะคะ คือว่าทนายธรรมราช มากล่าวโทษว่ามีความผิดเกิดขึ้น ขั้นตอนต่อมาตร. ก็รวบรวมพยานหลักฐาน และข้อหานี้เป็นข้อหาเกี่ยวกับดูหมิ่นคณะสงฆ์ ตร. ต้องนำเรียนสำนักพุทธ มหาเถระค่ะ ต้องหารือว่าปกติขั้นตอนวิธีการร้องทุกข์ดูหมิ่นคณะสงฆ์ ทางสำนักพุทธต้องมีมติอย่างไร มอบอำนาจมาหรือไม่ นี่คือวิธีการค่ะ
ต้องเรียกทนายธรรมราชมาให้ปากคำไหม ?
พ.ต.ท.หญิง วรัญญา : ต้องเชิญมาค่ะ ขออนุญาตรวบรวมพยานหลักฐานก่อนนะคะว่าข้อเท็จจริงจะไปได้ไหม และเชิญเขามาให้ปากคำ ส่วนคุณแพรรี่ อยู่ในขั้นตอนต่อไปค่ะ
จำเป็นต้องเรียกไหม ?
พ.ต.ท.หญิง วรัญญา : ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ว่าไม่เป็นการดูหมิ่นคณะสงฆ์ ถ้าเกิดได้รับคำตอบจากสำนักพุทธ ก็อาจจะไม่ต้องเรียกค่ะ
อาจยกเลิก ในมุมตร. ถ้าสมมติเรื่องนี้ยก ความผิดจะย้อนกลับไหม ?
พ.ต.ท.หญิง วรัญญา : (หัวเราะ) ก็เป็นคำกล่าวโทษค่ะ ถ้ามีใครมาร้องว่าเขาแจ้งเท็จก็เป็นอีกคดีหนึ่งได้นะคะ
ถ้าแบบนี้ยกขึ้นมาเขาไม่รับ ความผิดย้อนกลับไหม ?
เกิดผล : ต้องย้อนสิครับ
เหมือนที่ทนายสงกาญ์บอกว่าต้องการกล่าวโทษโดยไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงคน
เช่นให้พนักงานสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน อันนี้ถือว่าไม่ได้กล่าวหาใคร
แต่กรณีเขาจงใจกล่าวหาให้คุณแพรรี่ได้รับโทษทางอาญา
ตัวเขาเองก็เป็นคนพูดเอง ก็ต้องรับโทษตามมาตรานี้ ๆ
แสดงว่าตัวเขาต้องยืนยันตามข้อเท็จจริงว่าคุณแพรรี่กระทำความผิดตามกฎหมาย
ส่วนข้อกฎหมายผิดไม่ผิด พนักงานสอบสวนจะรวบรวมข้อมูลอีกทีหนึ่ง
แสดงว่าเขาต้องการให้คุณแพรรี่รับโทษทางอาญาจึงเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จให้บุคคลอื่นรับโทษทางอาญา
มีโทษครับ ก็ย้อนกลับไปที่เขา แล้วมาโพสต์อีก ก็อาจเป็นพ.ร.บ.คอมพ์
ได้อีกเหมือนกัน
ถ้าเรื่องนี้ฝั่งทนายที่ไปร้องคุณ ตร. ไม่รับ คุณไม่ได้ผิด ?
แพรรี่ : ทีมทนายหนูพร้อมทำงานแล้วค่ะ สแตนด์บายรอแล้ว เขารวบรวมหลักฐาน เก็บทุกวัน ก่อนหนูไปร้องสภาทนายความ หนูรู้สึกว่าเขาเริ่มเป็นทนายที่มีมารยาทมากขึ้น เพราะเขาไม่ค่อยไลฟ์ ไม่ค่อยโพสต์อะไรถึงหนูเลย หนูขอบพระคุณมากนะคะ
เอาแน่พูดง่าย ๆ ?
แพรรี่ : เอาแน่ จริง ๆ ถ้าไม่มีป้าคนนั้นหนูอาจไม่ฟ้องนะ ป้าคนที่มีเสียงเข้ามาในรายการ ที่บอกว่าเสียใจ หนูก็เสียใจกับป้าเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ)
พี่เกิดผลเข้ากระบวนการการฟอกไต ?
เกิดผล : ก็ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนว่าสามารถฟื้นฟูด้วยวิธีอื่นได้ไหม ถ้ามีวิธีอื่นฟื้นฟู การฟอกไตน่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ ส่วนใครจะบริจาคไตไม่ขอรับนะครับ เอาไปให้คนอื่นที่จำเป็นใช้มากกว่าเรา ผมคิดว่าผมก็อยู่ได้ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ ในความเป็นโรคภัยไข้เจ็บผมก็มีความสุข
แพรรี่จะไปไหนต่อ ?
ขายน้ำพริกอยู่ ?
แพรรี่ : ไม่มีพญายมราชอะไรค่ะ กินแล้วดี มีสติปัญญา ด่าได้แซ่บค่ะ ไม่มีการปลุกเสกค่ะ
ภาพจาก รายการโหนกระแส