เพิกถอนวีซ่า 2 นักข่าวสื่อดังทำข่าวในจุดเกิดเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู พบวีซ่าที่ใช้เป็นวีซ่าท่องเที่ยว แต่มาทำงาน ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ รวมความผิดอื่น ๆ มีโทษจำคุก 5 ปี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Foreign Correspondents' Club of Thailand - FCCT
จากกรณีที่เกิดเหตุนักข่าว CNN เข้าไปทำข่าวในจุดเกิดเหตุกราดยิง จ.หนองบัวลำภู โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีภาพที่ปีนรั้วออกมา คล้ายกับการแอบเข้าไปทำข่าว ซึ่งทำให้คนไทยหลายคนไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม ทาง CNN ระบุว่า ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว เขาอนุญาตให้เข้าไปทำข่าวได้ ตอนนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่ยืนล้อม แต่ตอนออกมาเจ้าหน้าที่กลับมายืนล้อม จนต้องปีนรั้วออก
อ่านข่าว : ดราม่า CNN บุกถ่ายถึงในจุดกราดยิง พร้อมโต้กลับ ทำไมทำอย่างนั้น จนต้องปีนออก
ล่าสุด วันที่ 9 กันยายน 2565 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว และให้ตำรวจติดตามตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริง พบว่า ผู้สื่อข่าวและช่างภาพอยู่ในพื้นที่ จ.อุดรธานี จึงเชิญตัวมาสอบสวน
เบื้องต้น ตำรวจตรวจพบว่า ผู้สื่อข่าวและช่างภาพเข้ามาในประเทศไทยในฐานะวีซ่าท่องเที่ยว แต่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ทำข่าว ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ในการเดินทาง หลังจากนี้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ จะเดินทางไป สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เพื่อสอบสวนด้วยตัวเอง
สำหรับความผิดกรณีดังกล่าว เข้าข่ายบุกรุกสถานที่ราชการ มีโทษจำคุก 5 ปี และยังมีความผิดฐานยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ถ้าหากสอบสวนจนได้ข้อสรุปแล้ว ถ้ามีความผิดจริงจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
เพิกถอนวีซ่า 2 นักข่าวแล้ว
ช่อง 3 รายงานว่า นายดนัยโชค บุญโสม นายกอบต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู มีการเข้ามาสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า มีใครทราบเรื่องนี้บ้าง คำตอบคือ ไม่มีใครทราบเรื่องการขออนุญาต เพราะทุกคนวุ่นกับการช่วยเหลือและจัดงานเรื่องนี้ ทำให้อยากรู้ว่า สื่อดังกล่าวต้องการอะไร เข้าไปทำไม แค่นี้เจ้าหน้าที่ ชาวบ้านก็สูญเสียเจ็บกันมากแล้ว เป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติกัน
ระหว่างการสัมภาษณ์ มีตำรวจเข้ามาแจ้งให้ นายกอบต.อุทัยสวรรค์ เข้าไปพบตำรวจ สภ.นากลาง และแจ้งความกับสื่อดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ ตม. เพิกถอนวีซ่าของผู้สื่อข่าวทั้ง 2 รายแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์