สายวิทย์ VS สายศิลป์ เรียนต่อ ม.ปลาย สายไหนดี ?

            เตรียมตัวให้พร้อม ! ขึ้น ม.ปลาย เลือกเรียนสายวิทย์ หรือสายศิลป์ดี ? สายไหนที่ใช่และตรงกับตัวเองที่สุด เลือกแล้วจะส่งผลอะไรกับเส้นทางการเรียนในอนาคต ไปดูกัน
ปตท.

            เชื่อว่าน้อง ๆ นักเรียนระดับ ม.ต้น หลายคนที่กำลังจะขึ้น ม.ปลาย อาจเกิดความสับสนและคิดไม่ตกว่าจะเลือกเรียนสายไหนดีระหว่าง “สายวิทย์” หรือ “สายศิลป์” ซึ่งการตัดสินใจในช่วงนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่จะกำหนดอนาคตการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ส่วนหนึ่งเลยทีเดียว แต่ก่อนที่จะเลือกสายการเรียนนั้น อยากให้น้อง ๆ ลองวิเคราะห์ตัวเองดูเสียก่อนว่าชอบอะไร อยากเรียนคณะไหน หรืออยากเป็นอะไรในอนาคต เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการตัดสินใจทั้งสิ้น เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนทั้ง 2 สายมาแนะนำ ว่ามีจุดแข็ง-จุดอ่อนอย่างไร และเมื่อเรียนแล้วจะสอบเข้าคณะไหนในมหาวิทยาลัยได้บ้าง เผื่อจะเป็นแนวทางให้น้อง ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ
สายวิทย์-สายศิลป์
เลือกสายไหน เรียนวิชาอะไรกันบ้าง ?
           การเลือกว่าจะเรียนสายไหนในระดับ ม.ปลาย ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญในชีวิตของน้อง ๆ เพราะเมื่อเลือกแล้วจะเป็นตัวกำหนดทิศทางและอนาคตให้มุ่งสู่อาชีพในสายนั้น ๆ จึงอยากให้ใช้เวลาคิดทบทวนกันให้ดี ๆ สังเกตตัวเองว่าชอบเรียนอะไร และอยากเรียนต่อคณะไหน มหาวิทยาลัยไหน บางคนคิดไปถึงอาชีพที่อยากเป็นในอนาคต ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะยิ่งถ้ารู้ความชอบและความถนัดของตัวเองเร็วก็สามารถเลือกเรียนได้ตรงสาย และจะไม่เสียเวลาด้วย

สายศิลป์ เรียนอะไรบ้าง

         ไม่ว่าจะเป็นศิลป์-ภาษา หรือศิลป์-คำนวณ จะมีวิชาหลัก ๆ อยู่ 2 วิชาด้วยกัน คือ คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่จะได้เรียนอย่างละเอียดมากขึ้น ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงระดับสูงเหมือนเรียนไวยากรณ์ภาษาไทยเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีวิชาภาษาที่ 3 เช่น ภาษาฝรั่งเศส ภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน และภาษาอื่น ๆ ที่สามารถเลือกเรียนเองหรือทางโรงเรียนจัดให้ ส่วนคณิตศาสตร์นั้นก็ถือเป็นวิชาหลัก แต่ความยากและความเข้มข้นของเนื้อหา รวมถึงชั่วโมงในการเรียน จะไม่เท่ากับสายวิทย์ ส่วนวิชาพื้นฐานอื่น ๆ เช่น ภาษาไทย สังคมศึกษา และวิทยาศาสตร์ทั่วไป ก็จะมีการเรียนบ้าง แต่จะลดตามระดับความสำคัญลงมา

ปตท.

จุดแข็ง-จุดอ่อนของการเรียนสายศิลป์

  • ชั่วโมงในการเรียนไม่หนักเท่ากับสายวิทย์ ยืดหยุ่นได้

  • มีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษที่ดี สามารถเลือกเรียนภาษาที่ 3 ได้

  • มีโอกาสในการเก็บเกี่ยวบทเรียนและประสบการณ์จากการทำกิจกรรม

  • ความหลากหลายของคณะในการเลือกเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยน้อยกว่าสายวิทย์

  • พื้นฐานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ไม่เข้มข้นเท่าสายวิทย์

สายวิทย์ เรียนอะไรบ้าง

            ชื่อสายนี้ก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องเน้นหนักไปที่วิชาที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เป็นหลัก รวมไปถึงการคำนวณที่เข้มข้นอย่างวิชาคณิตศาสตร์ เนื้อหาจะลงลึกและเข้มข้นมากขึ้น ในวิชาวิทยาศาสตร์จะแยกเนื้อหาออกมาเป็น 3 วิชาหลัก ๆ คือ ชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ โดยมีทั้งส่วนที่เป็นเนื้อหาในตำราและส่วนที่เป็นการทดลองในห้องแล็บ ส่วนวิชาคณิตศาสตร์ก็จะเน้นมากขึ้นกว่าเดิมทั้งพื้นฐานและเพิ่มเติม สำหรับวิชาพื้นฐานต่าง ๆ อย่างภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา ก็ยังต้องเรียนอยู่ แต่จำนวนชั่วโมงอาจจะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
ปตท.

ภาพจาก flydragon / Shutterstock.com

จุดแข็ง-จุดอ่อนของการเรียนสายวิทย์

  • มีโอกาสเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หลายคณะ

  • มีพื้นฐานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่ดี สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต

  • มีชั่วโมงในการเรียนที่ค่อนข้างหนัก ต้องทั้งเรียนในตำราและทำการทดสอบต่าง ๆ หรือบางครั้งต้องเรียนพิเศษเสริม อาจจะไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนัก

  • ต้องขยันหาความรู้ให้ตัวเอง ต้องคอยตามงานให้ทัน

  • การแข่งขันและความกดดันสูง เนื้อหาวิชาเฉพาะทางที่ยาก

เรียนสายไหน สอบเข้าคณะอะไรได้บ้าง ?
           การเลือกคณะที่อยากเรียนในระดับมหาวิทยาลัยก็ต้องพิจารณาจากสายการเรียนในระดับมัธยมปลายด้วย เพราะหากเลือกเรียนสายใดสายหนึ่งไปแล้ว อาจจะตัดโอกาสในการสอบเข้าบางคณะที่ไม่ตรงสายได้ ทีนี้เราลองมาดูกันดีกว่าว่าหากน้อง ๆ เลือกเรียนสายวิทย์ หรือสายศิลป์ จะสามารถเลือกเข้าเรียนต่อในคณะอะไรได้บ้าง

คณะที่สายศิลป์เลือกสอบได้

           น้อง ๆ ที่เลือกเรียนสายศิลป์ ทั้งศิลป์-คำนวณ หรือศิลป์-ภาษา สามารถเลือกเข้าคณะเหล่านี้ได้ เช่น คณะอักษรศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี คณะบริหารธุรกิจ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะครุศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ และคณะวารสารศาสตร์ เป็นต้น
ปตท.

คณะที่สายวิทย์เลือกสอบได้

           ด้วยเนื้อหาวิชาทางด้านที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ทำให้น้อง ๆ ที่เรียนสายนี้สามารถเลือกสมัครสอบเข้าคณะต่าง ๆ เช่น
  • สายสุขศาสตร์ : คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะสหเวชศาสตร์ คณะกายภาพบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์

  • สายวิทยาศาสตร์ : คณะวิทยาศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะประมง คณะเกษตรศาสตร์ คณะอุตสาหกรรม

  • สายสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ : คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี คณะนิเทศศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ เป็นต้น
คิดจะเรียนสายวิทย์ คิดถึง KVIS
           สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่อยากเรียนสายวิทย์ เพื่อมุ่งมั่นจะเป็นนักวิจัยในสายงานต่าง ๆ การเลือกโรงเรียนที่มีความโดดเด่นทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ และในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปรู้จักกับโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายแบบโรงเรียนประจำ ที่เน้นความเป็นเลิศทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ก่อตั้งโดย กลุ่ม ปตท. กับจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างนักวิจัยมาพัฒนาประเทศตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมกันเลยทีเดียว
ปตท.

          โดยแต่ละปีโรงเรียนกำเนิดวิทย์จะเปิดรับนักเรียนที่มีความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เพียงปีละ 72 คน เท่านั้น แบ่งเป็น 4 ห้อง ห้องละ 18 คน ซึ่งนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าเรียนจะได้รับทุนการศึกษาเต็มจำนวนตลอด 3 ปี แบบไม่มีข้อผูกมัดและไม่ต้องชดใช้ทุน
          โรงเรียนกำเนิดวิทย์มีวิธีการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ คำนึงถึงความต้องการของนักเรียนเป็นหลัก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เช่น ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการจัดการเรียนการสอน สนับสนุนให้นักเรียนทำวิจัยและนำเสนอผลงานเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถทางด้านภาษา อีกทั้งมีระบบไอซีทีที่ล้ำสมัย ให้นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ได้รวดเร็วทุกเวลาและทุกสถานที่ มีห้องปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนห้องสมุดที่ล้ำสมัย เพียบพร้อมไปด้วยสื่อการเรียนรู้ครบครัน ที่นักเรียนสามารถทำงานวิจัยได้ทุกวัน ใช้ความคิด ความรู้ และทักษะ นำเสนอออกมาเป็นผลงาน นวัตกรรม หรือโปรเจกต์ที่โดดเด่นออกมามากมาย และคว้ารางวัลระดับนานาชาติมาแล้วด้วย ยกตัวอย่างเช่น
เซ็นเซอร์ตรวจจับไฟป่าแบบไร้สายและระบบวิเคราะห์การเกิดไฟป่า

เพื่อให้หน่วยงานควบคุมไฟป่าสามารถรับรู้การเกิดของไฟป่าได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสียหายต่อระบบนิเวศให้ได้มากที่สุด โดยได้รับรางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 2 ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย / ปวช. โครงการ Thailand Innovation Awards 2022 และผ่านเข้ารอบ 30 ทีมสุดท้าย ได้เข้าร่วมกิจกรรมค่าย GPSC YSI Camp 2022 โครงการ GPSC Young Social Innovator Season 5

ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

SAFFAS นวัตกรรมแพ็กเกจบรรจุภัณฑ์สำหรับแก้ไขปัญหาในภาคส่วนอาหาร

ประกอบด้วยสารสกัดจากดอกคำฝอย ที่มีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียและต้านอนุมูลอิสระ ทำให้สามารถยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง และเนื้อสัตว์ อีกทั้งยังเป็นทางออกให้แก่เกษตรกรที่ปลูกยาสูบเปลี่ยนไปปลูกดอกคำฝอยทดแทน

โดยได้รับรางวัล Winner in the Virtual Showcase of Conrad Innovation Challenge 2022 Finalist in the “FSFW: RE-PURPOSED FARMLANDS & ALTERNATIVE USES OF TOBACCO (AND ITS BY-PRODUCTS) category” ซึ่งนับเป็นรางวัลระดับนานาชาติ

ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

การพัฒนาเครื่องแยกเศษอาหาร และการสร้างผลิตภัณฑ์น้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมักชีวภาพ และถ่านเชื้อเพลิงอัดแท่งจากเศษอาหารที่ผ่านการแยก

โดยใช้ดอกธูปฤาษีเป็นตัวกรองน้ำมัน เมื่อนำเศษอาหารมาผ่านเครื่องแยกแล้วจะได้เป็น 3 ส่วน คือ 

  • เศษอาหารแห้งนำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ

  • น้ำที่ผ่านการกรองนำไปทำน้ำหมักชีวภาพ

  • ดอกธูปฤาษีที่กรองน้ำมันแล้วนำไปทำเป็นถ่านเชื้อเพลิงอัดแท่ง

          โดยได้รับรางวัลเหรียญเงิน จากงาน 2022 Japan Design, Idea and Invention Expo (JDIE 2022) รางวัล Special Prize จากโครงการ KMUTNB INNOVATION AWARDS 2022 และรางวัลเหรียญเงิน สาขาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ จากการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษา ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ภาคตะวันออก ครั้งที่ 39
ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

           นอกจากนี้ยังมีนักเรียนและศิษย์เก่าของโรงเรียนกำเนิดวิทย์จำนวนมากที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อเป็นผู้แทนประเทศไทยไปเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับนานาชาติในสาขาฟิสิกส์ เคมี และคอมพิวเตอร์ ตลอดจนการแข่งขันจาก Research Debate ระดับนานาชาติด้วย
ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

           อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากหลักสูตรการเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่เข้มข้นแล้ว สิ่งหนึ่งที่โรงเรียนให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือ การเสริมทักษะชีวิตให้สมดุล ทั้งการอยู่ร่วมกัน ความรับผิดชอบ การช่วยเหลือผู้อื่น และตรงต่อเวลา เป็นต้น โดยมีการจัดระบบหอพักแยกชายและหญิง ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของครูหอพักตลอด 24 ชั่วโมง สร้างความรู้สึกที่อบอุ่นและไม่กดดันจนเกินไป รวมถึงโรงอาหารที่ช่วยดูแลเรื่องโภชนาการให้ครบถ้วนสมบูรณ์ด้วย
ปตท.

ปตท.

ปตท.

ปตท.

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

           น้อง ๆ นักเรียนคนไหนที่สนใจและต้องการสมัครสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ โทรศัพท์ 0-3301-3888 ได้เลย
           มาถึงตอนนี้คิดว่าน้อง ๆ หลายคนคงจะพอเห็นภาพชัดขึ้นมาบ้างแล้วว่าจะเลือกเรียนสายอะไรถึงจะเหมาะกับตัวเองที่สุด หรือเพื่อความมั่นใจให้มากขึ้นไปอีกก็ลองสอบถามจากรุ่นพี่ ม.ปลาย ดูก็ได้ว่าเรียนสายไหนแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ลักษณะการเรียนเป็นแบบไหน ต้องเตรียมตัวเจอกับอะไรบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกเรียนสายไหนก็ขอให้ตั้งใจเรียนให้เต็มที่ เพราะจะสายวิทย์หรือสายศิลป์ต่างก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองทั้งคู่
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงเรียนกำเนิดวิทย์
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สายวิทย์ VS สายศิลป์ เรียนต่อ ม.ปลาย สายไหนดี ? อัปเดตล่าสุด 9 พฤศจิกายน 2565 เวลา 08:54:54 8,670 อ่าน
TOP
x close