ชีวิตเรียบง่ายสไตล์ ป๊อก - ปิยธิดา

ป๊อก ปิยธิดา

           คนดูกำลังติดกันงอมแงม สำหรับละครเก่านำมาเล่าใหม่ เรื่อง "นางทาส" ที่รวมพลดาราชั้นนำคุณภาพคับแก้วเข้าไว้ด้วยกัน หนึ่งในนั้นที่ทำเอาทุกคนดูถึงกับเอ่ยปากชม ว่าตีความและถ่ายทอดตัวละครที่ชื่อ "คุณหญิงแย้ม" ได้อย่างดีไม่แพ้ของเก่า นั่นก็คือ "ป๊อก" ปิยธิดา วรมุสิก งานนี้ "บันเทิง คม ชัด ลึก" เลยขอลัดเลาะเข้าไปสนทนากับเมียเอกของท่านเจ้าคุณถึงกองถ่ายลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

  กระแสตอบรับ "นางทาส"

           ป๊อก : เท่าที่เห็นนะ คนดูนางทาสเยอะมาก กระแสตอบรับดี คนเขาดูจะบอกว่าเชื่อว่าเราเป็นคุณหญิงแย้ม ตั้งแต่ตอนฟิตติ้ง โดยที่ก่อนหน้านี้ คนจะนึกภาพไม่ออก ว่าป๊อกจะเล่นได้เหรอ หลังจากที่ฟิตติ้งแล้วก็โอเค รู้สึกว่าเป็นคุณหญิงจริงๆ

  ตอนแรกหนักใจไหม

           ป๊อก : ไม่ได้หนักใจเรื่องการทำผมหรืออะไรทั้งหลายแหล่ เพราะเราเชื่อมั่นว่าพี่ทีมงานเขาช่วยเราได้อยู่แล้ว แต่จะหนักใจเรื่องการพูด เพราะป๊อกพูดเร็ว ก็เลยปรับให้มันช้าลง พอช้าลง เราก็จะลืมบทน้อยลง เพราะระหว่างที่พูดจะสามารถนึกบทได้ด้วย แต่ก่อนอาจจะเทกบ่อย เพราะว่าพูดเร็ว รัว แล้วก็ผิด แต่ตอนนี้พอพูดช้าลง ก็ไม่ค่อยผิดบทแล้ว

  เป็นละครเก่ามาเล่าใหม่ โดนจับตามองตั้งแต่ต้น รู้สึกอย่างไร

           ป๊อก : มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ป๊อกคิดว่าการทำหลายๆ แบบ มันก็ตีความกันหลากหลาย อย่างนักแสดงจะมีบทไม่กี่บทที่เป็นบทครู นักแสดงทุกคนต้องเล่นบทนี้ แต่จะตีความกันยังไงก็อีกเรื่องหนึ่ง อันนี้ป๊อกรู้สึกว่า ต่อให้เป็นบทสนทนาเดียวกัน ซีนเดียวกัน แต่ว่านักแสดงแต่ละท่าน มีความคิดเห็น ในมุมมองที่แตกต่างจากการตีความออกไป มันเป็นเรื่องที่สนุกนะ เป็นเรื่องที่คนดูจะได้กำไร และให้นักแสดงได้ฝึกด้วยว่า การตีความแบบนี้แบบนั้น มันดีหรือไม่ดียังไง

  ส่วนของป๊อก ตีความบท "คุณหญิงแย้ม" อย่างไร

           ป๊อก : คุณหญิงแย้มเป็นคนดี มีความยุติธรรม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีความเป็นมนุษย์ มีรักชอบโกรธหลงปกติครบถ้วน ถึงจะเมตตา แต่ด้วยความที่เป็นเมียใหญ่ ไม่มีใครหรอกที่จะชอบให้สามีมีเมียเยอะๆ แต่ด้วยความที่ต้องเอาใจสามี ก็ต้องหน้าชื่นอกตรม แล้วตัวคุณหญิงแย้มก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่า เย็นจะคลอดลูก แล้วคุณหญิงแย้มก็คลอดลูก แล้วลูกคุณหญิงแย้มต้องมาตาย เรียกว่าตัวคุณหญิงแย้มค่อยๆ ดำเนินไปมากกว่า

          ป๊อกชอบตรงที่ว่าไม่ใช่ตัวละครที่เป็นแม่พระซะทีเดียว ตอนที่เขาให้ลูกมาแล้ว เราก็มีความหวาดระแวง กลัวเหมือนกันว่าเขาจะมาเอาคืนหรือเปล่า มันทำให้มีมิติของตัวละครมากขึ้น ถ้าเป็นใครก็ตามที่ไปขอลูกเขามา แล้วปิดบังสามีอย่างนี้ ป๊อกว่าทุกคนต้องระแวง จะให้คุณหญิงแย้มเป็นแม่พระไปตลอดก็คงไม่ใช่ ป๊อกก็ตีความตามหลัก คิดแทนตัวเองว่าเป็นคุณหญิงแย้ม แล้วด้วยบทก็บอกแบบนั้น คุณหญิงแย้ม ป๊อกว่ายังโชคดีที่มิติของคุณหญิงแย้มทุกคนได้เห็น แต่ของคนอื่นๆ ไม่มีซีนรองรับ ถือว่าเป็นความโชคดี

  ต้องระวังการแสดงขนาดไหน ไม่ให้ดูเป็นตัวร้าย

           ป๊อก : ก็ยากเหมือนกัน ต้องระวัง เพราะมีเล่นพลาดไปบ้างเหมือนกัน ความรู้สึกเรา ในบทก็บอกว่าแค่งอน เราก็รู้สึกว่าแค่งอน แต่ลืมไปว่าพอภาพออกไปกลายเป็นดูแรง ดูโกรธ ไม่ใช่แค่งอน ก็เลยรู้ว่าพลาดแล้ว แต่ไม่เป็นไร แก้ตัวใหม่ ก็ต้องปรับเล็กน้อย นี่ถือว่าเป็นข้อดีของละครที่ถ่ายไปออกอากาศไป เพราะป๊อกเองจะเช็กการแสดงของตัวเองตลอด อันไหนเกินไป อันไหนอ่อนไป

ป๊อก ปิยธิดา


11 ปีกับคำว่า "นักแสดง"

  ผลงานเรื่องต่อไป

           ป๊อก : ยังค่ะ ยัง แค่เรื่องนี้ก็เอาให้จบก่อนเถอะ แค่นี้ก็ไม่รู้จะยังไงแล้ว ให้เสร็จทีละอย่างดีกว่า ไม่ไหว ปรับสมองไม่ทัน เราไม่ใช่โรงงานอุตสาหกรรม เราทำงานเพราะรู้สึกอยากเล่นละคร เราไม่ใช่โรงงานกรวยกระดาษ ปั๊มออกๆ ไม่เอาๆ ขอมีสมาธิกับมันหน่อยเถอะ ป๊อกเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เข้าวงการแล้ว เพราะถ้าเป็นคนที่อยู่กับเรื่องตรงนี้ ก็อยากจะอยู่ให้มันเสร็จสิ้น ให้มาสับไปสับมาแล้วงง เลยนับถือน้องๆ ที่ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยว่าเก่ง เป็นเราทำไม่ได้หรอก

  เคยรับงานซ้อนกันบ้างไหม

           ป๊อก : เคย มันมีความจำเป็น ก็เหนื่อยเหมือนกันนะ เหนื่อยไป แล้วก็เครียด คิดว่าทีละเรื่องดีกว่า มีเวลาคุยกับคุณพ่อคุณแม่บ้างดีกว่าไหม เคยทำงานออกแต่เช้า กลับดึก แล้วกลับมาลูกหมาที่เราซื้อไว้มันโต ป๊อกก็ตกใจว่า อุ้ย...โตตั้งแต่เมื่อไร (หัวเราะ) เลยรู้สึก โอย...ตายแล้ว เราไม่ควรมีชีวิตแบบนี้ อยากได้ชีวิตที่ทำงานไปด้วย เรื่องส่วนตัว ครอบครัวก็มาด้วย ไปพร้อมๆ กันดีกว่า ไม่อยากมาใช้เงินทีหลัง ไม่เอาๆ เดี๋ยวตายไปเมื่อไรก็ไม่รู้

  นักแสดงส่วนใหญ่ถือคติ "น้ำขึ้นให้รีบตัก"

           ป๊อก : ก็เข้าใจ แต่ป๊อกคิดว่าเราค่อยๆ ทำดีกว่าไหม น้ำขึ้นให้รีบตักก็เข้าใจ แต่ป๊อกชอบทำงานตามอารมณ์ของตัวเอง ถ้ามันเหนื่อยนัก ง่วงมากก็ไม่ไป ไม่รับได้ไหม สมมติถ้าเป็นงานอื่นนะ แต่ถ้าเป็นคิวละครยังไงก็ต้องมา ป๊อกรู้สึกว่าถ้าเราโหมรับงานมากเกินไป มันเหนื่อยนะ แบบนี้มันไม่ใช่ตัวเอง มันขัดความรู้สึก ก็อย่าเลย ไม่ไปดีกว่า ป๊อกเป็นนักแสดง ไม่ใช่ดารา

  คำว่า "นักแสดง" กับ "ดารา" เหมือนกันไหม

           ป๊อก : ไม่เหมือนนะ คนที่จะเป็นดาราได้ ต้องเป็นคนที่มีอะไรในตัวเองเยอะพอสมควร เขาถึงใช้คำนั้นได้ มีรัศมีเปล่งประกาย ไปไหนคนก็อยากเจอ อยากทักทาย อยากดู คุณไปทำอะไรที่ไหนก็ตาม แต่สำหรับป๊อก ป๊อกแค่อยากเล่นละคร ป๊อกชอบเล่นละคร ป๊อกทำตรงนี้เป็นอาชีพมากกว่าที่จะมาทำเพื่อเป็นอะไรต่อไป

  ตั้งใจไว้อย่างนี้ตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงหรือเปล่า

           ป๊อก : ก็ไม่ถึงขนาดนั้น ตอนเด็กก็มีบ้างที่คิดเป็นอย่างอื่น แต่พอเริ่มโตมา เห็นคนอื่นทำงานกัน แล้วรู้สึกว่า โอย ไม่อยากไปเลย เหนื่อยจังเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปโชว์ตัวที่โน่นที่นี่ ป๊อกก็ถามว่าแล้วทำไมต้องไปล่ะ เขาก็บอกว่าไม่ไปไม่ได้ เพราะผู้จัดการรับงานไว้ให้แล้ว ป๊อกก็รู้สึกว่า ถ้าเป็นเราเราคงไม่ไป เราคงโกรธ โชคดีที่เราไม่ได้มีใครมาทำอย่างนั้น แต่เขาก็โชคดีได้ทำงาน มันก็โชคดีกันไปคนละแบบ ก็เลยรู้ว่า วิถีการดำเนินชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

  ถึงว่าไม่เคยเห็นรับงานอีเวนท์

           ป๊อก : ใช่ เพราะป๊อกรู้สึกว่าถ้าจ้างให้เป็นพิธีกรได้ แต่ถ้าให้ไปร้องเพลง เราก็ไม่ร้องเพลง เพราะป๊อกร้องเพลงไม่ได้ ป๊อกไม่ใช่นักร้อง แล้วถ้าจ้างให้ไปโชว์ตัว ให้เราไปทำอะไร ถ้าให้ไปยืนเฉยๆ แล้วรับสตางค์ ป๊อกรู้สึกละอาย ละอายแก่เจ้าของผลิตภัณฑ์เขา ไปแค่นี้ ยังไม่ได้ทำอะไรให้คุ้มกับเงินที่เขาจะเสียให้เรา ให้เราทำอะไรหน่อยเถอะ ให้ช่วยทำอะไรก็ได้ เล่นเกม สอยดาวก็ได้ ถ้ามาบอกป๊อกว่า หนูร้องเพลงไม่ได้ ไปร่วมงานเฉยๆ ก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่าเลย เปลืองสตางค์ ไม่ต้องมาจ้างหนูหรอก การทำงานของป๊อกต้องมีจุดยืน และก็ยอมรับว่าค่อนข้างเลือกงานด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ป๊อกเป็นคนไม่ใช้จ่ายสิ้นเปลือง ไม่ได้สุรุ่ยสุร่าย ก็ใช้เท่าที่เรามีสบายๆ เรื่อยๆ ไปอย่างนี้ดีกว่า ไม่ต้องรวยมากถึงขนาดนั้นหรอก เอาแค่ทำงานไปเรื่อยๆ มีความสุขก็พอ

  คิดจะเป็นนักแสดงถึงอายุเท่าไร

           ป๊อก : อันนี้บอกไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เป็นคนถือเงินและจ้างใคร แล้วแต่ว่าเราไหวหรือเปล่า หรือบางทีอาจจะไหว แต่ถ้าไม่มีคนจ้าง แล้วเราจะสนองความต้องการของตัวเองได้ยังไง ถ้าเผื่ออยากทำ แล้วยังมีคนอยากให้เล่นอยู่ ก็จะเล่น แต่ถ้าวันหนึ่งอยากทำ แต่ไม่มีคนจ้าง ก็คงต้องหยุด แต่ตอนนี้ยังรู้สึกอยากทำงานอยู่

  นอกจากงานแสดงมีอะไรอยากทำอีกไหม

           ป๊อก : จริงๆ ป๊อก พี่ตั๊ก (นภัสกร มิตรเอม) และรุ่นน้องพี่ตั๊ก เราจับมือกันตั้งกลุ่ม "องศาศิลป์" ความฝันของพวกเราคืออนาคตอยากทำละครเวทีใหญ่ๆ ที่จริงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ก็มีคนได้เห็นผลงานของพวกเรากลุ่มองศาศิลป์แล้ว ที่สวนสันติชัยปราการ และมีเล่นละครเวทีเพื่อการกุศลบ้าง พี่ตั๊กจะเป็นคนเขียนบทและกำกับเอง เพราะพี่ตั๊ก และ ป๊อก ต่างก็ชอบการแสดงด้วยกันทั้งคู่ เลยมีความฝันว่าอยากจะทำละครเวทีโปรดักชั่นแบบพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) เราอยากให้ละครเวทีเฟื่องฟูในเมืองไทย เพราะคนไทยก็มีคนชอบดูละครเวทีเยอะ ใครที่เคยดูละครเวทีก็จะติดใจ แต่ที่บางทีมันยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร คงเป็นเพราะการคมนาคมไม่สะดวก ก็ต้องอาศัยการใช้สื่อช่วยเยอะๆ

ป๊อก ปิยธิดา


ความรักฉบับป๊อก...ป๊อก

  ความรักกับ "ตั๊ก" นภัสกร

           ป๊อก : เราคบกันมา 6 ปีแล้ว เรามีชีวิตเรียบง่ายเหมือนกันเลย เรื่องทะเลาะกันแทบไม่มี ส่วนใหญ่จะเถียงกันเล็กน้อย เพราะเรื่องคนอื่น เช่นว่าทำไมบ้านนั้นเขาทาสีนี้ ป๊อกว่าสวยดี พี่ตั๊กว่าไม่สวย แล้วก็มีงอนกันบ้าง แต่ถ้าทะเลาะกันไม่เคยเลย เพราะพี่ตั๊กจะเป็นฝ่ายยอม แล้วเขาก็จะอธิบายเหตุผล เพราะพี่ตั๊กด้วยนี่แหละ ที่ทำให้ป๊อกรู้สึกว่าใจเย็นลงเยอะ อย่างตอนคบกันใหม่ๆ เวลาขับรถ แล้วพี่ตั๊กให้ทางคนอื่น ป๊อกก็จะไม่เข้าใจ ทำไมล่ะ พี่ตั๊กก็จะบอกว่า ก็ให้เขาไปสิ ถ้าเผื่อตรงนั้นไม่มีคันนั้นสักคันหนึ่ง ถ้าเราให้เขาไป รถก็จะไม่ติดเลยนะป๊อก ก็รู้สึกว่าเขาให้ซะจนป๊อกรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนไม่ดี (หัวเราะ) ไม่มีน้ำใจ ก็เลยกลายเป็นว่า ถ้าเผื่อให้กันได้ก็ให้กันไป

  ดูตั๊กค่อนข้างมีผลกับป๊อกเยอะ

           ป๊อก : ใช่ ยอมรับเลย เพราะพี่ตั๊กเขาเป็นคนใจเย็น มีเหตุผล สบายๆ พื้นฐานนิสัยเป็นคนนิ่งๆ ขรึมๆ ทำให้เราที่อยู่ด้วย กลายเป็นคนแบบนี้ไปด้วย ด้วยแนวความคิดที่บางทีเขาสอนเรา แล้วเราก็รู้สึกว่าเออ มันใช่เนอะ มันก็ดี ถ้ามันไปในทางที่ดี ที่เหมาะที่ควร เด็กๆ ก็มีบ้างที่ใจร้อน แต่ตอนนี้โตแล้ว

  คุยกันเรื่องอนาคตบ้างหรือยัง

           ป๊อก : ก็เห็นพี่ตั๊กบอกเอาไว้ว่า ถ้าจบหนังเรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก็คงจะได้มานั่งคิดกันว่าเมื่อไร ยังไงดี แต่ตอนนี้เขายุ่งวุ่นวาย ทั้งหนัง ทั้งรายการอีก ก็ไม่เป็นไร รอได้ (ยิ้ม)

  ตื่นเต้นขนาดไหน

           ป๊อก : ก็ตื่นเต้นเหมือนกันว่าอยากจะใส่ชุดเจ้าสาวสีอะไร (หัวเราะ) ล้อเล่น มันก็ตื่นเต้นว่าเราเริ่มโตกันอีกขั้นแล้วนะ ตอนนี้ก็เริ่มคิดว่าจะเชิญใคร ยังไง ตอนนี้ก็คุยกันแล้วคร่าวๆ คบกันก็ต้องมีจุดหมายบ้าง ไม่ใช่คบกันไปวันๆ คิดว่าช่วงปีหน้าไปแล้ว ก็คงจะบอกได้ว่าจะแต่งเมื่อไร

          ยังไง "บันเทิง คม ชัด ลึก" ก็ขอเอาใจช่วยนะจ๊ะ แบบว่าอยากได้ยินเสียงระฆังวิวาห์เต็มแก่แล้ว...ว


ผู้หญิงคนนี้ชื่อ : ปิยธิดา วรมุสิก

ชื่อเล่น : ป๊อก

เกิดวันที่ : 22 มิถุนายน 2518

ผลงานชิ้นแรกในวงการบันเทิง : โฆษณาทีวีสี คู่กับ เอกรัตน์ สารสุข

ผลงานละครเรื่องแรก : ตะลอนทัวร์

ผลงานสร้างชื่อ : ละคร "ธรณีนี่นี้ใครครอง" และ "แก้วกลางดง"

ผลงานปัจจุบัน : นางทาส


            อ่านเรื่องย่อ ละคร นางทาส คลิกเลย


อารยา มาลัยเล็ก : เรื่อง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชีวิตเรียบง่ายสไตล์ ป๊อก - ปิยธิดา โพสต์เมื่อ 19 เมษายน 2551 เวลา 10:19:22 18,604 อ่าน
TOP
x close