ศาลอาญาสั่งจำคุกลูกสาวอาม่าฮวย แอบถอนเงินช่วงที่แม่ป่วย โดยเปลี่ยนจากเซ็นชื่อเป็นพิมพ์ลายนิ้วมือ คุก 20 ปี ใช้เงินคืน 123 ล้านบาท ยังเหลือคดีแพ่ง ฟ้องอีก 200 ล้าน
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
วันที่ 29 ธันวาคม 2565 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ศาลอาญาพระโขนง ถ.สรรพาวุธ-บางนา มีการนัดอ่านคำพิพากษาคดียักยอกทรัพย์อาม่าฮวย โดยจำเลยคือ ลูกสาวคนที่ 2 วัย 56 ปี กับเจ้าหน้าที่ธนาคารอีก 4 คน รวมเป็นจำเลย 1-5 ในข้อหาฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่นางฮวยล้มป่วย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ลูกสาวคนที่สองจึงพิมพ์ลายนิ้วมือนางฮวยไปถอนเงินในบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ธนาคารหลายร้อยครั้ง จนเงินหมดบัญชี มีมูลค่าความเสียหาย 257 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ
ขณะที่ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้าง เห็นว่า ลูกสาวคนที่ 2 มีความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม ลักทรัพย์ 2 ข้อหารวม 84 กระทง คงจำคุกรวม 20 ปี และให้ใช้เงินคืนนางฮวย จำนวน 123 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 4 มีความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 2,3 และ 5 ศาลสั่งยกฟ้อง
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่นางฮวยล้มป่วย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ลูกสาวคนที่สองจึงพิมพ์ลายนิ้วมือนางฮวยไปถอนเงินในบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ธนาคารหลายร้อยครั้ง จนเงินหมดบัญชี มีมูลค่าความเสียหาย 257 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ
ขณะที่ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้าง เห็นว่า ลูกสาวคนที่ 2 มีความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม ลักทรัพย์ 2 ข้อหารวม 84 กระทง คงจำคุกรวม 20 ปี และให้ใช้เงินคืนนางฮวย จำนวน 123 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 4 มีความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 2,3 และ 5 ศาลสั่งยกฟ้อง
นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ กล่าวว่า ประเด็นในเรื่องนี้คือ นางฮวยเป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร และนางฮวยยังมีสติสัมปชัญญะดีอยู่ เงื่อนไขการเบิกเงินคือ การลงลายมือชื่อธรรมดา แต่พอนางฮวยเจ็บป่วย ลูกสาวคนที่ 2 กับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ได้ร่วมกับเปลี่ยนเงื่อนไขของการจ่ายเงิน จากเดิมลงลายมือชื่อเป็นพิมพ์ลายนิ้วมือ ทำให้สามารถนำเงินนางฮวยออกจากบัญชีได้ ลักษณะนี้เข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์และร่วมปลอมแปลงเอกสาร
ยังเหลือคดีแพ่ง ฟ้องอีก 200 ล้าน ธนาคารโดนด้วย
นอกจากนี้ ยังมีคดีพ่วงในส่วนคดีแพ่งด้วย คือจำเลยในคดีนี้และธนาคารต้นสังกัดบัญชีที่มีการปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำลักษณะดังกล่าว ซึ่งมันจะเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่า ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดที่รับฝากทรัพย์บุคคลเหล่านั้น ก็ควรมีความระมัดระวังในขณะที่เจ้าของบัญชีอยู่ในอาการไม่พึงประสงค์ ไม่สามารถรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ส่วนค่าเสียหายคดีแพ่งได้เรียกตามคดีอาญาคือ 200 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 12 ปี ลูกสาวซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 โดยไม่รอลงอาญา ฐานลักทรัพย์อาม่าฮวย
อ่านข่าว : จำคุก 12 ปี ลูกสาวอาม่าฮวย เซ่นแอบถอนเงิน 24.7 ล้าน เข้าบัญชีตัวเอง ขณะแม่ป่วยหนัก
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย