อ.ริน รินลดา ชัยหมื่น หมอดูดัง ตัวกลางที่พา บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ เจอเจ้าของร้านเพชร ออกโรงแถลงปมโพสต์ถูกรางวัลที่ 1 แถมแฉของไม่ตรงปก ผู้เสียหายเพียบ !

ภาพจาก Instagram bigm_krittarit
จุดเริ่มต้นรู้จักเจ้าของร้านเพชร ก่อนคุยเรื่องหวย
- อ.ริน เล่าว่า เป็นลูกค้าร้านเพชรดัง เคยซื้อขายนาฬิกาหรูกันครั้งแรก และมีการสั่งทำเครื่องประดับ
- เมื่อปี 2564 ทราบว่าเจ้าของร้านเพชรถูกรางวัลที่ 1 และมีการพูดคุยกันเรื่องตัวเลข เนื่องจากตนเองก็ชอบเล่นหวยเหมือนกัน
- เจ้าของร้านเพชรได้นำหวยมาโชว์ และชวนให้เล่นหวย และยังนำสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 มาให้ถ่ายรูปและโพสต์ลงเพจเพื่อเรียกยอดไลก์ ซึ่งมีคนติดตามกว่าแสนคน
- ผลที่ได้คือเจ้าของร้านเพชรมียอดผู้ติดตามเพิ่ม แต่ตนเองถูกสมาชิกตั้งคำถามว่าถูกหวยจริงหรือไม่ จึงชี้แจงไปว่าไม่ได้ถูก แต่เป็นเจ้าของร้านเพชรที่ถูก เหมือนใช้ตนเป็นสะพาน ทำให้มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้น
ภาพจาก โหนกระแส
กรณี บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ กับเรื่องถูกรางวัลที่ 1 ทิพย์
- เริ่มจากบิ๊กเอ็มกับสามีตนทำธุรกิจสบู่ด้วยกัน ทางเจ้าของร้านเพชรติดต่อมาขอซื้อสบู่ พอถึงวันรับของ เจ้าของร้านเพชรให้พาบิ๊กเอ็มไปด้วย และมีการสอนทำธุรกิจ โปรโมชั่น การตลาดต่าง ๆ
- มีการตกลงเรื่องค่าตัวบิ๊กเอ็ม จำนวน 5 แสนบาท แบ่งให้ตน 1.5 แสน สามี 2 แสน บิ๊กเอ็ม 1.5 แสน ซึ่งไม่ใช่ค่าตัวแต่เป็นค่าทำกิจกรรมร่วมกับร้านเพชร ซึ่งเป็นสัญญาปากเปล่าว่าจะให้
- หลังเกิดเรื่อง จึงตั้งข้อสงสัยว่าสลากดังกล่าวถูกรางวัลที่ 1 จริงหรือไม่ ตนเห็นสลาก 4 ใบ แต่ไม่แน่ใจว่าสลากจริงไหม
- เรื่องคุยกับเจ้าของร้านเพชรว่าจะมีการนำเงินมาให้ 12 ล้านบาท และแบ่งให้บิ๊กเอ็ม 6 ล้านบาทนั้นไม่ขอพูด เพราะเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย แต่ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
เรื่องกิจกรรมของร้านเพชร ให้ลูกค้าเล่นเกม
- เรื่องนี้ไม่ขอยืนยันว่ามีสลากจริงหรือไม่ เพราะภาพที่ส่งมาให้เป็นสลากออนไลน์ทั้งหมด จึงอยากให้ร้านเพชรออกมาชี้แจง
- นาฬิกาที่สามีตนไปซื้อ นำไปตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเอกสารไม่ตรงกับห้องแลป จึงไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นนาฬิกาแท้หรือไม่
โฟนอินถึงอดีตพนักงาน แฉของที่ขาย ทุนเม็ดละ 3 บาท
- ระหว่างแถลง มีการโฟนอินถึงอดีตพนักงาน เผยว่า เพชร พลอย ส่วนใหญ่ที่นำมาขาย ไปซื้อที่วัดเกาะ วัดแขก และตลาดออนไลน์ เม็ดละ 3 บาท นำไปปลุกเสกเพียงครั้งเดียวที่ จ.นครปฐม แต่ปัจจุบันขายหมดแล้ว และไม่เคยปลุกเสกอีกเลย
- อดีตพนักงานบอกว่า ครั้งนี้ไม่อยากทนหลอกลวงประชาชนจึงได้ออกมาเปิดเผย ทุกครั้งที่ลูกค้าถามถึงน้ำหนักทอง เจ้าของร้านจะให้พนักงานไม่ต้องตอบลูกค้า และไม่ต้องขายให้ หากทำผิดพลาดก็จะถูกต่อว่า
- เรื่องเครื่องรางของขลังภายในตำหนัก มีองค์จริงหรือไม่ อดีตพนักงานตอบว่า ตนเป็นผู้จ่ายเงินซื้อองค์เทพมาจากและตลาดออนไลน์ทั้งหมด
- ตนเป็นพนักงานตั้งแต่ปี 2563-2565 เปิดร้านมาประมาณ 1 ปี ทางร้านเริ่มค่อย ๆ ลดสเปกสินค้าลง แหวนที่นำมาขายส่วนมากไม่ตรงมาตรฐาน ส่วนมากทางร้านใช้ทองเพียง 9K เท่านั้น ไม่ใช่ 18K หรือ 21K ตามที่โฆษณา
- ที่ผ่านมาขายเฉพาะแหวนนพเก้าไปทั้งหมดประมาณ 500 วง ราคาตั้งแต่
9,000-60,000 บาท มีผู้ร่วมรู้เห็น 4 คน และช่างทำแหวน 6 คน
ยืนยันว่าไม่ได้รับส่วนแบ่งจากการขายใด ๆ ทำงานตามหน้าที่
และเคยมีการท้วงติงแล้ว แต่ก็ยังทำเหมือนเดิม
br />
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส







