พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เตรียมส่งเรื่องถึง ผบ.ตร. เอาผิดตำรวจ ตม. 110 นาย กรณีออกวีซ่าเอื้อทุนจีนสีเทา พบมีระดับรายพล 3 ราย
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงประเด็นการสอบสวนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่ออกวีซ่าให้กับกลุ่มทุนชาวจีนเข้าประเทศ และอยู่ในประเทศที่ผิดกฎหมาย ระบุว่า สัปดาห์นี้จะเสนอเรื่องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการสั่งการ หลังสืบสวนพบตำรวจ ตม. จำนวน 110 นาย ร่วมกระทำการทุจริตในลักษณะขบวนการ หรือรูปแบบบริษัทย่อย ๆ ในการออกวีซ่าให้กับกลุ่มชาวต่างชาติ รวมถึงกลุ่มชาวจีนสีเทาที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย
พฤติการณ์ตำรวจกลุ่มนี้ มีการปลอมลายเซ็นของรองผู้ว่าราชการจังหวัด โดยฉกฉวยโอกาสช่วงสถานการณ์โควิด 19 อำนวยความสะดวกการต่อวีซ่า ด้วยการใช้ภาพถ่ายของชาวต่างด้าวแทนการแสดงตัวตนจริงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง จึงถือเป็นการกระทำผิดในข่ายมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ และความผิดมาตรา 149 ฐานเรียกรับผลประโยชน์
![บิ๊กโจ๊ก เสนอเอาผิด 110 ตำรวจ ตม. เอี่ยวทุจริต]( "บิ๊กโจ๊ก เสนอเอาผิด 110 ตำรวจ ตม. เอี่ยวทุจริต")
สำหรับพื้นที่ซึ่งพบเจ้าหน้าที่กระทำความผิด ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเริ่มกระทำผิดตั้งแต่ช่วงปี 2563 ต่อเนื่องถึงปี 2565 มีการใช้เอกสารรับรองจากมูลนิธิว่าเป็นอาสาสมัคร หรือจากสถานศึกษารับรองว่าเป็นนักศึกษาในการขอต่อวีซ่า ทั้งที่ความจริงมีการทุจริตตั้งแต่ขั้นตอนการเข้าไปเป็นอาสาสมัคร และนักเรียนแล้ว
จากการสอบสวนยังไม่พบหลักฐาน รวมทั้งเส้นทางการเงินที่โยงใยไปยังผู้บัญชาการ สตม. คนปัจจุบัน แต่จะตรวจสอบย้อนหลังไปยังผู้บัญชาการที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าด้วย พร้อมกับย้ำว่าตำรวจ ตม. ทั่วประเทศ มีกว่า 20,000 นาย พบกระทำผิดเพียง 100 นาย ถือว่าเป็นจำนวนไม่มาก
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่าตำรวจ 110 นาย ที่ร่วมกระทำความผิด มีทั้งยศนายพลตำรวจ 3 นาย ที่เหลือลดหลั่นกันไปทั้งผู้กำกับ, สารวัตร และชั้นประทวน ซึ่งการเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติครั้งนี้เพื่อสั่งการให้ออกหมายเรียกมาสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาและยื่นศาลอาญาคดีทุจริต และยื่นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับตามลำดับ
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงประเด็นการสอบสวนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่ออกวีซ่าให้กับกลุ่มทุนชาวจีนเข้าประเทศ และอยู่ในประเทศที่ผิดกฎหมาย ระบุว่า สัปดาห์นี้จะเสนอเรื่องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการสั่งการ หลังสืบสวนพบตำรวจ ตม. จำนวน 110 นาย ร่วมกระทำการทุจริตในลักษณะขบวนการ หรือรูปแบบบริษัทย่อย ๆ ในการออกวีซ่าให้กับกลุ่มชาวต่างชาติ รวมถึงกลุ่มชาวจีนสีเทาที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย
พฤติการณ์ตำรวจกลุ่มนี้ มีการปลอมลายเซ็นของรองผู้ว่าราชการจังหวัด โดยฉกฉวยโอกาสช่วงสถานการณ์โควิด 19 อำนวยความสะดวกการต่อวีซ่า ด้วยการใช้ภาพถ่ายของชาวต่างด้าวแทนการแสดงตัวตนจริงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง จึงถือเป็นการกระทำผิดในข่ายมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ และความผิดมาตรา 149 ฐานเรียกรับผลประโยชน์
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
สำหรับพื้นที่ซึ่งพบเจ้าหน้าที่กระทำความผิด ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเริ่มกระทำผิดตั้งแต่ช่วงปี 2563 ต่อเนื่องถึงปี 2565 มีการใช้เอกสารรับรองจากมูลนิธิว่าเป็นอาสาสมัคร หรือจากสถานศึกษารับรองว่าเป็นนักศึกษาในการขอต่อวีซ่า ทั้งที่ความจริงมีการทุจริตตั้งแต่ขั้นตอนการเข้าไปเป็นอาสาสมัคร และนักเรียนแล้ว
จากการสอบสวนยังไม่พบหลักฐาน รวมทั้งเส้นทางการเงินที่โยงใยไปยังผู้บัญชาการ สตม. คนปัจจุบัน แต่จะตรวจสอบย้อนหลังไปยังผู้บัญชาการที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าด้วย พร้อมกับย้ำว่าตำรวจ ตม. ทั่วประเทศ มีกว่า 20,000 นาย พบกระทำผิดเพียง 100 นาย ถือว่าเป็นจำนวนไม่มาก
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่าตำรวจ 110 นาย ที่ร่วมกระทำความผิด มีทั้งยศนายพลตำรวจ 3 นาย ที่เหลือลดหลั่นกันไปทั้งผู้กำกับ, สารวัตร และชั้นประทวน ซึ่งการเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติครั้งนี้เพื่อสั่งการให้ออกหมายเรียกมาสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาและยื่นศาลอาญาคดีทุจริต และยื่นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับตามลำดับ
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
