เอ๋ มิรา เปิดใจในโหนกระแส ย้อนเล่าเหตุการณ์ต้นเรื่อง ครูไพบูลย์ เป็นครูฝึกสอน ตนเองอยู่ ม.4 แอบมีสัมพันธ์สวาท ทนายมั่นใจ ครูไพบูลย์ คุกคดีพรากผู้เยาว์แน่ใน 2 ปี
จากกรณี เอ๋ มิรา ชลวิรัลวานิศร์ ฟ้องร้องอดีตสามี ครูไพบูลย์ แสงเดือน ข้อหาพรากผู้เยาว์ ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 8 ปี ไม่รอลงอาญา จ่ายชดเชยค่าเสียหายแม่เอ๋ มิรา 3.5 แสน โดยหลังศาลตัดสิน เอ๋ มิรา ได้โพสต์ขอบคุณฟ้ามีตา คืนความยุติธรรมให้เธอ ด้านครูไพบูลย์ได้โพสต์และไลฟ์บอกให้ทุกฝ่ายใจเย็น ๆ เพราะยังต้องสู้กันต่อในชั้นอุทธรณ์และฎีกา
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 สัมภาษณ์ เอ๋ มิรา มาพร้อม ทนายเก่ง นฤบดินทรา ศรีศิวารา ทนายความที่ดูแลคดีให้ เอ๋ มิรา
เอ๋ เป็นยังไงบ้าง ?
เอ๋ : สบายดีค่ะ
สบายดีทั้งน้ำตาไหม ?
เอ๋ : (นิ่งก่อนหัวเราะ)
อย่าร้อง ๆ ตั้งแต่ออกโหนกระแสไปครั้งนั้นเป็นยังไงบ้าง ?
เอ๋ : ชีวิตดีกว่าแต่ก่อนมากเลยค่ะ พี่ทนายเก่งเข้ามาดูแลด้วย และหนูก็ได้สร้างแบรนด์สินค้าขายของของตัวเองไปด้วย ก็ดำเนินชีวิตมาปกติค่ะ
ประจักษ์ชัยยังดูแลอยู่ไหม ?
เอ๋ : ยังดูแลอยู่ค่ะ อาจารย์น่ารักมากค่ะ
เมื่อวานเป็นเรื่องราวครึกโครม ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีพรากผู้เยาว์ เรื่องมันเกิดจากโหนกระแสไหม ?
เอ๋ : หนูว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวหรอกค่ะ เรื่องที่พรากผู้เยาว์ แม่หนูก็อยากดำเนินการตั้งนานแล้วค่ะ แต่ไม่มีโอกาสเฉย ๆ
ย้อนเล่าเหตุการณ์อีกสักครั้งได้ไหม ในอดีตตัวเราเองอายุไม่ถึง แล้วไปคบหากับครูไพบูลย์ สุดท้ายคุณแม่มารู้ ?
ทนาย : เรื่องราวเกิดขึ้นตอนที่เอ๋เรียนอยู่ ม.4 ขณะนั้นคุณไพบูลย์เป็นอาจารย์ฝึกสอนมาสอนที่โรงเรียนเดียวกันที่เอ๋เรียนหนังสืออยู่ จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่มีลักษณะจีบ รักใคร่ชอบพอกัน และสุดท้ายได้มีการไปมีสัมพันธ์กัน ขณะรักใคร่ชอบพอกัน แม่ของเอ๋ ซึ่งเป็นผู้ปกครอง ไม่ได้ยินยอมด้วย ไม่ได้ยินยอมให้เอ๋คบหากัน และไม่ได้ยินยอมให้ครูไพบูลย์มามีสัมพันธ์กับเอ๋ แล้วเป็นกรณีที่เอ๋อายุยังไม่ถึง 18 ปี ตรงนี้ทำให้เกิดประเด็นที่มีการไปแจ้งความกัน เหตุการณ์แจ้งความก็เกิดขึ้นก่อนที่น้องเอ๋กับผมจะมาออกรายการในรอบที่แล้ว ที่มีบันทึกผู้ใหญ่บ้าน เป็นบันทึกสำคัญ เป็นหลักฐานเด็ด
บันทึกนั้นว่ายังไง ?
ทนาย : บันทึกผู้ใหญ่บ้านฉบับนั้นในข้อเท็จจริงระบุเลยว่าฝ่ายครูไพบูลย์ล่วงละเมิดทางเพศเอ๋ ในขณะที่เอ๋เป็นผู้เยาว์อยู่ และแม่ไม่ยินยอม ตอนหลังมีการตกลงจะนำเงินไปชำระให้ 1 แสน ถ้าผิดนัดต้องจ่าย 2 แสน และยอมให้แม่เอ๋ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่เขาผิดนัดผิดสัญญา ไม่ได้เอาเงินแสนมาจ่าย ไม่ได้สู่ขอ ไม่ได้แต่งงานตามประเพณีอะไร แม่เขาก็ติดใจดำเนินคดีอยู่
แต่ด้วยความพร้อมของคนในหมู่บ้าน ไม่อยากขัดใจลูกสาว ไม่อยากให้ครอบครัวลูกสาวมีปัญหา เลยปล่อยเลยตามเลย แต่ตัวครูไพบูลย์ก็ไม่ได้เข้ามาสู่ขอ หรือเอาเงินมาจ่าย มารับผิดชอบในสิ่งที่ตกลงกัน มันก็เลยเป็นประเด็นที่ทำให้น้องเอ๋มาออกรายการโหนกระแสตรงจุดนั้น ถามว่าแม่ติดใจไหม แม่ก็ยังติดใจดำเนินคดีอยู่ ก่อนวันที่เอ๋มาออกรายการ 3 ปีที่แล้ว ก่อนเขาเลิกรากัน เอ๋ได้ไปพบทนายคนหนึ่ง ทนายให้คำแนะนำว่าฟ้องไม่ได้
เอ๋ : ทนายบอกว่าฟ้องไม่ได้ค่ะ ยังไม่มีหลักฐาน ให้หนูอดทนรอ กลับบ้านไปถ่ายรูปตอนเขากอดกัน หรือไปมีอะไรกัน ที่เป็นหลักฐานเพื่อที่จะฟ้องค่ะ
ทนาย : อันนั้นคือประเด็นเรื่องหย่า และได้พูดคุยเรื่องคดีพรากผู้เยาว์ที่ผิดบันทึกข้อตกลง
ตอนนั้นมี 2 เรื่อง เรื่องพรากผู้เยาว์ที่แม่ไม่ตกลง ครูตกลงว่าจะมอบเงินให้ สอง เขาไปมีคนอื่น เราไปปรึกษาทนายว่าเขาไปมีคนอื่นเราจะหย่า ทนายคนนั้นก็บอกว่าไม่ได้ ต้องเก็บหลักฐานก่อนถึงฟ้องได้ จริง ๆ มันฟ้องชู้ได้ใช่ไหมในตอนนั้น ?
ทนาย : ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าน้องมีพยานหลักฐานแค่ไหน น้องอาจฟ้องชู้ได้ก็ได้ แต่สำคัญคือคดีพรากผู้เยาว์ ทนายให้คำปรึกษาอีกแบบหนึ่ง
ฟ้องกี่คดี ?
ทนาย : ผมฟ้องเรื่องอำนาจปกครองบุตรน้องสายแนน ให้ศาลมีคำพิพากษาให้สายแนนเป็นบุตรโดยชอบของเอ๋ ซึ่งชนะคดีแล้ว เขากำลังอุทธรณ์อยู่
เรื่องฟ้องคดีพรากผู้เยาว์ ชนะศาลชั้นต้น ศาลสั่งลงเลยไหม ?
ทนาย : พิพากษาจำคุก 8 ปี ไม่รอลงอาญาให้ครับ แต่เขาประกันตัวสู้ชั้นอุทธรณ์
ถ้ารอลงอาญาคือทำความผิดอีกไม่ได้ แต่ออกมาใช้ชีวิตทั่วไปได้ เหมือนคาดโทษไว้ ถ้าทำผิดอีกคุกเลย กับอีกอัน ไม่รอลงอาญา คือไม่จำเป็น คุณติดจริงเลย แต่ด้วยสิทธิสามารถประกันตัวออกมาเพื่อทำอุทธรณ์และไปสู้กันในชั้นอุทธรณ์ ไม่ต้องขึ้นศาล แต่ทำหนังสือไปชั้นอุทธรณ์ หลังเกิดเรื่องนี้ครูไพบูลย์ติดต่อมาไหม ?
เอ๋ : ไม่ค่ะ
ตอนศาลพิพากษา เราไปไหม ?
ทนาย : ผมกับน้องเอ๋ไม่ได้ไป มีท่านทนายน้อง น้องสาวผม ไปฟังคำพิพากษาแทน ซึ่งเป็นทนายคดีนี้ด้วย
ครูไพบูลย์ไม่ได้ติดต่อมาเลย ?
เอ๋ : ไม่ค่ะ ตั้งแต่หนูเอาลูกมาอยู่ 2 ปีแล้ว เขาก็ไม่ได้มีการส่งเสียเลี้ยงดู ไม่ได้โทร. มาหาลูกเลยค่ะ
อีกคดีที่ฟ้องคือสิทธิครอบครองลูก ตอนแรกเด็กอยู่กับเขา ?
ทนาย : ตอนแรกที่เอ๋ตัดสินใจหย่า เอ๋ไม่มีทางเลือก อำนาจต่อรองเอ๋ไม่มีเลย เอ๋เลยยอมให้น้องสายแนนอยู่ในอำนาจการปกครองของเขาฝ่ายเดียว ในวันที่ทำบันทึกหย่ากัน หย่ากันที่อำเภอ เลยทำให้อำนาจการปกครองบุตรอยู่ที่เขาฝ่ายเดียวตั้งแต่วันนั้นมา ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้วที่น้องได้หย่า พอมาทำคดีน้อง น้องก็ปรึกษาว่าอยากได้ลูกกลับมา เพราะตอนนี้ทำผลิตภัณฑ์ มีรายได้แล้ว หนูเลี้ยงลูกได้ดีกว่า ผมก็ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว
เขาค้านไหมตอนแรก ?
ทนาย : เขาค้านครับ มีการสู้คดีกันเลย เขาไม่ยอมให้ลูกกลับมา
เอ๋ : เขายอมให้กลับมา แต่ว่าเขาไม่ให้สิทธิ ให้หนูเลี้ยงได้ แต่ไม่ให้สิทธิ
ไม่ให้สิทธิดูแล เราจะไม่มีสิทธิ์ในเด็กคนนี้เลย ?
เอ๋ : ใช่ค่ะ
ทนาย : แต่ในคำคัดค้าน เขาคัดค้านไม่ให้อำนาจปกครองบุตรกลับมาที่เรา ผมร้องให้อำนาจปกครองบุตรอยู่ที่เอ๋ฝ่ายเดียว เขาก็คัดค้านมา ก็สู้กันเต็มรูปแบบเลยครับ แต่น้องสายแนนยืนยันจะอยู่กับแม่ ด้วยคดีนี้เป็นเรื่องความรู้สึก ด้วยเด็กอายุเยอะพอที่จะตัดสินใจเองได้แล้ว ศาลถามเด็กว่าจะอยู่กับเอ๋หรืออยู่กับพ่อ เด็กบอกว่าจะอยู่กับแม่เอ๋ ไม่อยู่กับฝั่งนั้น ศาลก็เลยพิพากษาให้เด็กมาอยู่กับเอ๋ฝ่ายเดียว อำนาจปกครองบุตร ณ ตอนนี้ระหว่างที่อุทธรณ์กันอยู่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้น้องสายแนนอยู่ในอำนาจการปกครองของเอ๋คนเดียว ชนะมาแล้วก่อนคดีนี้ด้วยซ้ำ แต่ไม่เป็นข่าวออกมา
สิทธิในการดูแลเด็กอยู่ที่เอ๋ แล้วครูไพบูลย์เองต้องดูแลรับผิดชอบอะไรไหม ?
ทนาย : คำขอท้ายฟ้องเอ๋บอกว่าไม่เอา คำร้องของเราเอ๋บอกว่าไม่เอา ผมก็ยื่นบอกว่าไม่เอา ยื่นอำนาจปกครองบุตรอย่างเดียว ค่าเลี้ยงดูน้องไม่เอา
ทำไมถึงไม่เอา ทำไมไม่บอกว่าในเมื่อครูมีรายได้ มีบ้านหลังใหญ่ มี BMW ขับ ทำไมเอ๋ถึงคิดว่าไม่เป็นไร ไม่เอาเงินจากเธอ จะดูแลลูกคนเดียว เพราะอะไร ?
เอ๋ : ศาลถามหนูว่าที่หนูอยากได้ลูกไป เพราะอยากได้เงินจากการเลี้ยงดูของลูกหรือเปล่า ครูไพบูลย์เขาพูดกับศาลว่าหนูอยากได้เงินโดยการเอาลูกมาเลี้ยง หนูเลยบอกศาลว่าหนูไม่ขอสิทธิในการเลี้ยงลูกคนเดียวก็ได้ หนูขอครึ่งหนึ่งก็ได้ แต่เขาไม่ยอมค่ะ เขาบอกว่าผมแพ้ไม่ได้ ผมให้ไม่ได้ หนูก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นเงินที่บอกว่าถ้าเอาลูกมาเลี้ยง ขอเอาเดือนละ 2 หมื่น หนูไม่เอาก็ได้ หนูสามารถเลี้ยงลูกหนูได้ หนูบอกศาลแบบนี้ค่ะ
คุณจะบอกว่ามุมครูเองตอนขึ้นศาล เขาบอกว่าเอ๋ต้องการเอาลูกไปอยู่ด้วยเพราะต้องการรายได้จากเขา เหมือนเอาเด็กเป็นตัวประกัน เอ๋รู้สึกว่าเหมือนดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นแม่เกินไป คุณก็เลยบอกว่างั้นเงินไม่ต้องให้ แต่ขอดูแลลูกเอง ?
เอ๋ : ค่ะ
คุณก็เด็ดมากนะ ?
ทนาย : ลูกผู้ชายมากครับ แมนมาก
สรุปวันนี้คุณไม่ต้องการค่าเลี้ยงดูใด ๆ จากเขาเลย ?
เอ๋ : หนูไม่ต้องการค่ะ แต่ถ้าเขาคิดว่าเขาควรให้ลูก
เขารู้สึกถึงความเป็นพ่อ อยากซื้อขนมให้ลูก มาเยี่ยมลูกบ้างก็ทำได้ แล้วแต่เขา เอามาให้ลูก ไม่ต้องให้เราก็ได้ แล้วเขามาไหม ?
เอ๋ : ไม่ค่ะ ไม่เคยมาเลยค่ะ 2 ปีแล้วค่ะ
โทร. คุยกับลูกไหม ?
เอ๋ : ไม่โทร. ค่ะ
ถามลูกไหมว่าพ่อโทร. มาหาไหม ?
เอ๋ : เราถามลูกว่าอยากโทร. หาพ่อไหม อย่างวันพ่อที่ผ่านมา เราก็ถามว่าสายแนนคิดถึงพ่อไหม แม่โทร. หาให้ไหมลูก เขาก็บอกว่าถ้าโทร. ไปแล้วพ่อไม่รับล่ะแม่จะทำยังไง เราก็บอกว่าเขาไม่รับก็ไม่เป็นไรหรอก โทร. ไหม ลูกก็บอกว่าไม่
ลูกอยู่กับคุณเป็นยังไง ?
เอ๋ : มีความสุขดีค่ะ ไปกัน 3 คนกับแฟนใหม่เรา แฟนใหม่เราก็ดูแลลูกดี เพราะหนูบอกตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าไม่ต้องรักลูกหนูก็ได้ ขอแค่อย่าทำร้ายลูกหนูก็พอ หนูรักลูกหนูคนเดียวพอ ใครหน้าไหนก็ทำอะไรลูกหนูไม่ได้ ถ้าหนูรักลูกหนูมากพอ
เรารักลูกมากกว่าผัวใหม่ ง่าย ๆ ?
เอ๋ : อยู่แล้วค่ะ
ล่าสุดเห็นเขาโพสต์ เขาไลฟ์ไหม ?
เอ๋ : เห็นอยู่ค่ะ
เราตามดูตลอดหรือยังไง ?
เอ๋ : ไม่ค่ะ มีเอฟซีส่งมาให้ดู
ตอนครูไพบูลย์มีการไลฟ์ ยังพูดด้วยซ้ำว่าตามศาล มีทั้งหมด 3 ศาล มุมการต่อสู้เป็นสิทธิของคุณไพบูลย์ที่เขาจะสามารถอุทธรณ์ได้ ก็มีการประกันตัวเพื่อต่อสู้ ทนายกังวลใจไหม ?
ทนาย : ไม่กังวลครับ ด้วยการอุทธรณ์คือการเอาพยานหลักฐานที่ว่ากันโดยชอบมาแล้วในศาลชั้นต้นมาว่ากันในศาลอุทธรณ์ เขาก็ต้องโต้แย้งว่าที่ศาลตัดสินลงโทษจำคุกเขานั้นไม่ชอบยังไง
ต้องไปหาพยานหลักฐานเพิ่มว่าเขาไม่ได้กระทำแบบนั้นจริง ?
ทนาย : ไม่มีการหาหลักฐานเพิ่มเติมครับ ใช้ได้แค่พยานหลักฐานที่สืบพยานกันมาแล้วในศาลชั้นต้นเท่านั้น ซึ่งคดีนี้มีพยานบุคคล 4 ปาก ฝั่งโจทก์ และเขา 1 ปาก ก็คือตัวเอ๋ แม่เอ๋ ยายเอ๋ ผู้ใหญ่บ้านที่ทำบันทึก ส่วนฝั่งเขามีเขาแค่ปากเดียว ประจักษ์พยาน พยานบุคคล พยานแวดล้อม พยานเอกสาร มันว่ากันมาโดยชอบในศาลชั้นต้นแล้วครับ ในชั้นอุทธรณ์เขาไม่มีสิทธิ์นำพยานหลักฐานอื่นเข้ามาเลย ฉะนั้นแล้วด้วยคำพิพากษาของศาลเมื่อวานที่ท่านตัดสิน ที่ทนายน้องแจ้งมา ท่านก็ค่อนข้างปิดทุกประเด็นในประเด็นโต้แย้งกัน ฉะนั้นผมไม่รู้สึกกังวลเลย คดีนี้อุทธรณ์มาผมก็แก้อุทธรณ์ ผมสู้มาตั้งแต่แรก ผมมั่นใจมาก ๆ คดีนี้
มั่นใจว่าติดแน่ ?
ทนาย : มั่นใจมาก ๆ ว่าติดครับ ขอให้สู้ต่อเถอะครับ ได้ทุกเมื่อ
ถ้าอุทธรณ์ตัดสินยืนตามชั้นต้น ไปฎีกาได้ไหม ?
ทนาย : ไปฎีกาเหนื่อยแน่ครับ เพราะ 2 ศาลตัดสินมาแล้วครับ เหนื่อยแน่ชั้นฎีกา อาจไม่ได้รับไปถึงฎีกา อาจติดแค่ชั้นอุทธรณ์ก็ได้ อาจติดภายใน 2 ปีนี้ก็ได้
ถ้าไม่ต้องฎีกาก็เข้าคุกเลย ?
ทนาย : 8 ปีเต็ม ๆ ครับ
ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ ?
ทนาย : ครับ อาจมีเรื่องลดโทษ ตรงนั้นก็ต่างหากครับ แต่ลงไปเลย 8 ปี ส่วนคุณประพฤติตัวดีไม่ดี ค่อยไปว่ากันตรงนั้น อภัยโทษต่าง ๆ นานา แต่โทษที่ศาลให้คือ 8 ปีครับ
คดีพรากผู้เยาว์ เอาตรง ๆ ศาลเองถ้าพิเคราะห์แล้ว ท่านลงแบบนี้แล้ว แสดงว่าท่านต้องเป๊ะเหมือนกัน ไม่งั้นยกประโยชน์ให้จำเลยอยู่แล้ว ถ้ามีข้ออะไรนิดเดียวก็เป็นประโยชน์ให้จำเลย แต่นี่แสดงว่าท่านเก็บหมด ?
ทนาย : ครับ คดีนี้สิ่งที่ผมมองว่าทุกคนที่ติดตามมาจะได้ คือเกราะกำบัง หรือเกราะแก้วที่คุ้มครองเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี หลังจากคดีนี้ออกไป ทำให้โรงเรียนมัธยมทุกโรงเรียนมีเกราะแก้วกำบังจากกฎหมายเรื่องพรากผู้เยาว์ บิดามารดา พ่อแม่เด็ก ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือครูในโรงเรียน ก็จะรู้สึกอุ่นใจว่าเด็กมีกฎหมายคุ้มครองเขาอยู่ ถึงแม้เขาอายุไม่ถึง 18 ปี คนที่คิดทำชั่ว คิดล่วงละเมิดทางเพศ หรือครูในโรงเรียนคิดทำชั่วกับเด็กไม่เกิน 18 เห็นข่าวนี้ต้องระวังให้ดี อายุความ 15 ปี เด็กจะยินยอมก็ช่าง ถ้าพ่อแม่เขาไม่เอาด้วย ติดคุกครับ
ครูหรือผู้ใหญ่ล่วงละเมิดเด็กไม่เกิน 18 เด็กยอมหรือไม่ยอมไม่ใช่ประเด็น ถ้าพ่อแม่เขาไม่ยอม คุกเลย ?
ทนาย : ครับ นี่คือสิ่งที่สังคมได้จากการติดตามคดีนี้ การไลฟ์ของผมเมื่อวานทุกคนก็เห็นเป็นเสียงเดียวกันว่านี่แหละคือสิ่งที่เราทำร่วมกัน ทำให้สังคมได้รับรู้กฎหมาย 317 หรือ 319 คุ้มครองเด็กจริง ๆ คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างให้คนที่คิดทำชั่ว ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ไม่ปล่อยให้เด็กเติบโตตามกาลเวลาของเขา ก็จะหยุดการกระทำนั้นทันที
ครั้งหนึ่งคุณเอ๋บอกว่ายินดีจะคบกับครูไพบูลย์ ไปคบหากัน มีสัมพันธ์ต่าง ๆ นานา แต่แม่ไม่รู้ แม่มารู้ทีหลัง แล้วคุณไพบูลย์ทำหนังสือฉบับหนึ่งให้เอาไว้ ?
ทนาย : รับผิดการกระทำ และจะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่สุดท้ายก็ไม่จ่าย ตรงนี้ศาลท่านมองว่าการกระทำความผิดเกี่ยวกับพรากผู้เยาว์ไม่ได้ลบล้างด้วยการขอแต่งงาน หรือกรณีคุณตกลงจะจ่ายเงินให้แม่เขา แต่เหตุที่ทุกวันนี้สังคมยังสามารถใช้ประเด็นนี้อยู่ คือด้วยพ่อแม่เด็กกำลังทรัพย์เขาไม่พอที่จะปะทะ สอง เขาไม่รู้ว่ามีกฎหมายข้อนี้คุ้มครองเด็กอยู่ สาม ลูกเขาอยู่กินกันไปจนขาดอายุความ มี 3 ประเด็นนี้ ทำให้คดีลักษณะแบบนี้ไม่เกิดขึ้นในสังคม
แต่วันนี้ทุกคนได้รู้ได้เห็นแล้วว่ากฎหมายเรื่องนี้ค่อนข้างร้ายแรงและคุ้มครองเด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง เชื่อไหมว่าทั้งวันเมื่อวานมีคนอินบ็อกซ์มาหาผม โรงพักหลายโรงพักเริ่มรับคดีแบบนี้แล้ว ไอ้พวกที่ไปกระทำชำเราเด็กแล้วยังไม่ขาดอายุความ ถ้าพ่อแม่ไม่ยินยอมถือว่าผิด อายุไม่เกิน 15 ปี เด็กยินยอมหรือไม่ยินยอม พ่อแม่ยินยอมหรือไม่ยินยอม ก็ผิด จำคุก 3-15 ปี อายุไม่เกิน 18 ปี เด็กยินยอม แต่ถ้าพ่อแม่ไม่ยินยอมก็ผิด จำคุก 1-10 ปี ความต่างคือระวางโทษจำคุก
กรณีนี้เห็นบอกว่าเอ๋มีเรื่องเจ็บช้ำน้ำใจอยู่ เพราะครูไพบูลย์ฟ้องเอ๋เหมือนกัน ?
เอ๋ : ฟ้องเรื่องมาออกรายการโหนกระแสนี่แหละค่ะ เขาบอกว่าภรรยาใหม่ของเขาเสียหาย หนูไปทำให้กิจการเขาปิด ทำให้เขาไม่มีคอนเสิร์ต เงินที่ได้จากยูทูบเดือนละล้านก็ตกลงมาเหลือเดือนละ 4,000 เขาก็บอกว่าเป็นความผิดของหนู หนูก็เลยพูดในศาลว่า ถ้าคุณไม่ท้อง หรือแฟนคุณไม่มีแฟน ความนิยมจะลดลงไหม ทำไมไม่โทษตัวเองบ้าง ทำไมมาโทษแต่หนู
เขาใช้คำพูดคำไหนในการฟ้อง ?
ทนาย : จริง ๆ การร่างบรรยายเรื่องหมิ่นประมาทมันต้องสรุปให้ได้ว่าคำไหนเข้าอย่างไร แต่คำฟ้องของเขา เขาเอาบรรยายคำพูดเอ๋ทุกคำในรายการแล้วเอาไปสรุปรวบยอดว่าหมิ่นประมาทเขา สิ่งที่เราสู้คือเรากำลังจะบอกว่าเราเข้าข้อยกเว้น เราพูดในสิ่งที่มันเกิดขึ้นจริง และเราได้รับผลกระทบนั้นจริง การที่เราออกมาพูดไม่มีเจตนาใส่ความเขา ทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากพิธีกรถาม เราก็สู้ประเด็นเรื่องเจตนา
ทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากพิธีกรถาม ?
เอ๋ : พี่หนุ่มต้องไปเป็นพยานให้หนู (หัวเราะ) ศาลจังหวัดเลยค่ะ
แล้วผมก็ต้องขาดงานอีกแล้ว ต้องไปขึ้นศาล ?
ทนาย : ที่เขาฟ้องน่าจะเป็นวันที่เอ๋มาออกรายการ วันที่ 3 สิงหาคม 2564
เอ๋ไม่สบายใจที่เขาด่าแม่เอ๋เหรอ ?
เอ๋ : ใช่ค่ะ บางคนอาจคิดว่าหนูชนะคดีแล้วรู้สึกดีใจ สะใจ แต่จริง ๆ แล้วมันตีค่าไม่ได้กับความสูญเสียที่หนูเสียไป แล้วกับสิ่งที่แม่หนูโดนเขาย่ำยี โดยบอกว่าแม่หนูเห็นแก่เงิน ด่าใครก็ได้ แต่อย่าด่าแม่หนู ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ด่าแม่หนู แม่หนูจะเป็นอะไร จะทำงานอะไรมา แม่หนูก็เลี้ยงหนูมาอย่างยากลำบาก ทำไมเขามาพูดใส่คำหยาบกับแม่หนูว่าหน้าเงินจังเลย
เขาพูดที่ไหน ?
เอ๋ : เขาพูดทุกครั้งค่ะที่แม่หนูถามว่าทำไมไม่มาสู่ขอ
เห็นบอกบนชั้นศาล เขาบอกคุณ 2 คนไปคบหากันด้วย ?
เอ๋ : ที่เขาลงสตอรี่ไม่ได้เอ่ยชื่อค่ะ เขาลงว่าหนูน่าจะโดนแฟนทนายไล่ออกจากบ้าน บอกว่าหนูกับทนายน่าจะมีซัมติงกัน
ไปกินกัน ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่ ?
เอ๋ : (หัวเราะ) หนูมองว่าทำไมคนเราต่ำแล้วยังต่ำได้อีก นี่พูดลอย ๆ ค่ะ
ยืนยันว่าเรา 2 คนไม่ได้คบหากัน ?
ทนาย : ไม่แน่นอนครับ
เอ๋ : ไม่ค่ะ พี่ทนายเก่งดีกับหนูมาก ๆ ถ้าหนูทำกับพี่เก่งก็เหมือนหนูทำร้ายพี่ปุ๊กกี้ แฟนพี่ทนายเก่ง แกดีกับหนูมาก รักหนูมาก เป็นครอบครัวตัวอย่างที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ
ประเด็นที่ครูไพบูลย์ฟ้อง เอ๋ มิรา ก็สงสัยว่าเป็นเพราะเอ๋ไปฟ้องพรากผู้เยาว์เขาก่อนหรือเปล่า เขาถึงฟ้องหมิ่นประมาทกลับมา แต่จริง ๆ ไม่ใช่ ครูไพบูลย์ไปฟ้องเขาก่อน เขาก็เลยสวนด้วยการพรากผู้เยาว์ ซึ่งตัดสินแล้ว แล้วคดีเขาล่ะ ?
ทนาย : เหลือสืบพยานฝ่ายจำเลย เดือนพฤษภาคม พี่หนุ่ม กรรชัย นี่แหละครับ (หัวเราะ)
เอ๋ : ดูตัวเองในวันนั้นแล้วสะท้อนสังคม ฝากเด็ก ๆ ทุกคนที่มีความรักก่อนวัยอันควร ดูหนูเป็นตัวอย่างก็ได้ ผลกระทบที่ตามมาไม่ได้มีแค่เรา แต่กลับเป็นครอบครัวเราที่ต้องมาเสียใจ เราเจ็บแค่นี้ แต่แม่เราเจ็บมากกว่าเราเป็นร้อยเท่า ไม่เคยบอกแม่เลยว่าหนูทะเลาะกับเขาหรือมีปัญหาอะไร (เสียงสั่นเครือ) จนตอนนี้หนูเป็นแม่คนแล้ว อยากบอกเด็กทุกคน ดูหนูเป็นตัวอย่าง ผลกระทบที่ตามมามันรุนแรงมาก ไม่ได้มีแค่เราค่ะ
ตอนนี้ยังมีแฟนคลับครูเพลงมาต่อว่าคุณไหม ?
เอ๋ : ก็ยังมีค่ะ คนที่ไม่ได้ติดตามเรา แต่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เพราะหนูทำงานกับพี่ทนายเก่ง มีพี่ ๆ เอฟซีหลายคนมาให้กำลังใจ บางทีคนมาให้กำลังใจไม่ได้เป็นเอฟซีเราก็มี ที่เขามองเห็นปัญหาเรา
คนด่ายังมีอยู่ไหม ล่าสุดป้าพลอย ชงเก่ง ด่าว่าคุณบีบน้ำตาสร้างภาพ ?
เอ๋ : คุณลองมาเป็นหนูดูไหมคะ ลองโดนนอกใจดูไหมคะ (ร้องไห้) ลองให้แม่คุณโดนเหยียบย่ำดูไหมคะ
สุดท้ายอยากฝากบอกอะไรถึงครูเพลง ?
เอ๋ : ไม่ได้อยากฝากบอกเขา แต่อยากฝากผู้ใหญ่หลาย ๆ คน คุณครู หรือคนมีวุฒิภาวะ การที่เด็กหรือคนไม่บรรลุนิติภาวะ บางทีเขายังคิดอะไรไม่ได้ ตอนนี้สังคมน่ากลัวมาก ถ้าเราไม่เห็นความสำคัญตรงนี้ หรือมองข้ามว่าเด็กสมยอมนั่นโน่นนี่ ถ้าทุกคนยังคิดแบบนี้ สังคมนี้จะน่ากลัวมาก หนูในฐานะคนเป็นแม่ หนูมารู้สึกและเข้าใจตอนที่หนูโตแล้ว แต่ตอนที่หนูเป็นเด็ก หนูก็ตามเด็กค่ะ ที่คิดว่าอะไรก็ได้ แต่ไม่รู้ผลกระทบคืออะไร อยากฝากบอกแม่หนูมากกว่าค่ะ หนูขอโทษที่ผ่านมา (ร้องไห้) ขอโทษที่ไม่เชื่อฟัง ขอโทษที่ทำร้ายจิตใจแม่ ขอโทษที่คนอื่นต้องมาทำให้แม่เสียใจ ถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้เข้ามาในชีวิตหนู หนูคงไปได้ไกลกว่านี้ ขอบคุณแม่ที่เข้าใจและอดทนรับฟังตลอดมา
รอเขาอุทธรณ์ มั่นใจว่าสู้ได้ ?
ทนาย : มั่นใจครับ
ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33
จากกรณี เอ๋ มิรา ชลวิรัลวานิศร์ ฟ้องร้องอดีตสามี ครูไพบูลย์ แสงเดือน ข้อหาพรากผู้เยาว์ ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 8 ปี ไม่รอลงอาญา จ่ายชดเชยค่าเสียหายแม่เอ๋ มิรา 3.5 แสน โดยหลังศาลตัดสิน เอ๋ มิรา ได้โพสต์ขอบคุณฟ้ามีตา คืนความยุติธรรมให้เธอ ด้านครูไพบูลย์ได้โพสต์และไลฟ์บอกให้ทุกฝ่ายใจเย็น ๆ เพราะยังต้องสู้กันต่อในชั้นอุทธรณ์และฎีกา
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 สัมภาษณ์ เอ๋ มิรา มาพร้อม ทนายเก่ง นฤบดินทรา ศรีศิวารา ทนายความที่ดูแลคดีให้ เอ๋ มิรา
เอ๋ เป็นยังไงบ้าง ?
เอ๋ : สบายดีค่ะ
สบายดีทั้งน้ำตาไหม ?
เอ๋ : (นิ่งก่อนหัวเราะ)
อย่าร้อง ๆ ตั้งแต่ออกโหนกระแสไปครั้งนั้นเป็นยังไงบ้าง ?
เอ๋ : ชีวิตดีกว่าแต่ก่อนมากเลยค่ะ พี่ทนายเก่งเข้ามาดูแลด้วย และหนูก็ได้สร้างแบรนด์สินค้าขายของของตัวเองไปด้วย ก็ดำเนินชีวิตมาปกติค่ะ
ประจักษ์ชัยยังดูแลอยู่ไหม ?
เอ๋ : ยังดูแลอยู่ค่ะ อาจารย์น่ารักมากค่ะ
เมื่อวานเป็นเรื่องราวครึกโครม ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีพรากผู้เยาว์ เรื่องมันเกิดจากโหนกระแสไหม ?
เอ๋ : หนูว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวหรอกค่ะ เรื่องที่พรากผู้เยาว์ แม่หนูก็อยากดำเนินการตั้งนานแล้วค่ะ แต่ไม่มีโอกาสเฉย ๆ
ย้อนเล่าเหตุการณ์อีกสักครั้งได้ไหม ในอดีตตัวเราเองอายุไม่ถึง แล้วไปคบหากับครูไพบูลย์ สุดท้ายคุณแม่มารู้ ?
ทนาย : เรื่องราวเกิดขึ้นตอนที่เอ๋เรียนอยู่ ม.4 ขณะนั้นคุณไพบูลย์เป็นอาจารย์ฝึกสอนมาสอนที่โรงเรียนเดียวกันที่เอ๋เรียนหนังสืออยู่ จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่มีลักษณะจีบ รักใคร่ชอบพอกัน และสุดท้ายได้มีการไปมีสัมพันธ์กัน ขณะรักใคร่ชอบพอกัน แม่ของเอ๋ ซึ่งเป็นผู้ปกครอง ไม่ได้ยินยอมด้วย ไม่ได้ยินยอมให้เอ๋คบหากัน และไม่ได้ยินยอมให้ครูไพบูลย์มามีสัมพันธ์กับเอ๋ แล้วเป็นกรณีที่เอ๋อายุยังไม่ถึง 18 ปี ตรงนี้ทำให้เกิดประเด็นที่มีการไปแจ้งความกัน เหตุการณ์แจ้งความก็เกิดขึ้นก่อนที่น้องเอ๋กับผมจะมาออกรายการในรอบที่แล้ว ที่มีบันทึกผู้ใหญ่บ้าน เป็นบันทึกสำคัญ เป็นหลักฐานเด็ด
บันทึกนั้นว่ายังไง ?
ทนาย : บันทึกผู้ใหญ่บ้านฉบับนั้นในข้อเท็จจริงระบุเลยว่าฝ่ายครูไพบูลย์ล่วงละเมิดทางเพศเอ๋ ในขณะที่เอ๋เป็นผู้เยาว์อยู่ และแม่ไม่ยินยอม ตอนหลังมีการตกลงจะนำเงินไปชำระให้ 1 แสน ถ้าผิดนัดต้องจ่าย 2 แสน และยอมให้แม่เอ๋ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่เขาผิดนัดผิดสัญญา ไม่ได้เอาเงินแสนมาจ่าย ไม่ได้สู่ขอ ไม่ได้แต่งงานตามประเพณีอะไร แม่เขาก็ติดใจดำเนินคดีอยู่
แต่ด้วยความพร้อมของคนในหมู่บ้าน ไม่อยากขัดใจลูกสาว ไม่อยากให้ครอบครัวลูกสาวมีปัญหา เลยปล่อยเลยตามเลย แต่ตัวครูไพบูลย์ก็ไม่ได้เข้ามาสู่ขอ หรือเอาเงินมาจ่าย มารับผิดชอบในสิ่งที่ตกลงกัน มันก็เลยเป็นประเด็นที่ทำให้น้องเอ๋มาออกรายการโหนกระแสตรงจุดนั้น ถามว่าแม่ติดใจไหม แม่ก็ยังติดใจดำเนินคดีอยู่ ก่อนวันที่เอ๋มาออกรายการ 3 ปีที่แล้ว ก่อนเขาเลิกรากัน เอ๋ได้ไปพบทนายคนหนึ่ง ทนายให้คำแนะนำว่าฟ้องไม่ได้
เอ๋ : ทนายบอกว่าฟ้องไม่ได้ค่ะ ยังไม่มีหลักฐาน ให้หนูอดทนรอ กลับบ้านไปถ่ายรูปตอนเขากอดกัน หรือไปมีอะไรกัน ที่เป็นหลักฐานเพื่อที่จะฟ้องค่ะ
ทนาย : อันนั้นคือประเด็นเรื่องหย่า และได้พูดคุยเรื่องคดีพรากผู้เยาว์ที่ผิดบันทึกข้อตกลง
ตอนนั้นมี 2 เรื่อง เรื่องพรากผู้เยาว์ที่แม่ไม่ตกลง ครูตกลงว่าจะมอบเงินให้ สอง เขาไปมีคนอื่น เราไปปรึกษาทนายว่าเขาไปมีคนอื่นเราจะหย่า ทนายคนนั้นก็บอกว่าไม่ได้ ต้องเก็บหลักฐานก่อนถึงฟ้องได้ จริง ๆ มันฟ้องชู้ได้ใช่ไหมในตอนนั้น ?
ทนาย : ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าน้องมีพยานหลักฐานแค่ไหน น้องอาจฟ้องชู้ได้ก็ได้ แต่สำคัญคือคดีพรากผู้เยาว์ ทนายให้คำปรึกษาอีกแบบหนึ่ง
ฟ้องกี่คดี ?
ทนาย : ผมฟ้องเรื่องอำนาจปกครองบุตรน้องสายแนน ให้ศาลมีคำพิพากษาให้สายแนนเป็นบุตรโดยชอบของเอ๋ ซึ่งชนะคดีแล้ว เขากำลังอุทธรณ์อยู่
เรื่องฟ้องคดีพรากผู้เยาว์ ชนะศาลชั้นต้น ศาลสั่งลงเลยไหม ?
ทนาย : พิพากษาจำคุก 8 ปี ไม่รอลงอาญาให้ครับ แต่เขาประกันตัวสู้ชั้นอุทธรณ์
ถ้ารอลงอาญาคือทำความผิดอีกไม่ได้ แต่ออกมาใช้ชีวิตทั่วไปได้ เหมือนคาดโทษไว้ ถ้าทำผิดอีกคุกเลย กับอีกอัน ไม่รอลงอาญา คือไม่จำเป็น คุณติดจริงเลย แต่ด้วยสิทธิสามารถประกันตัวออกมาเพื่อทำอุทธรณ์และไปสู้กันในชั้นอุทธรณ์ ไม่ต้องขึ้นศาล แต่ทำหนังสือไปชั้นอุทธรณ์ หลังเกิดเรื่องนี้ครูไพบูลย์ติดต่อมาไหม ?
เอ๋ : ไม่ค่ะ
ตอนศาลพิพากษา เราไปไหม ?
ทนาย : ผมกับน้องเอ๋ไม่ได้ไป มีท่านทนายน้อง น้องสาวผม ไปฟังคำพิพากษาแทน ซึ่งเป็นทนายคดีนี้ด้วย
ครูไพบูลย์ไม่ได้ติดต่อมาเลย ?
เอ๋ : ไม่ค่ะ ตั้งแต่หนูเอาลูกมาอยู่ 2 ปีแล้ว เขาก็ไม่ได้มีการส่งเสียเลี้ยงดู ไม่ได้โทร. มาหาลูกเลยค่ะ
อีกคดีที่ฟ้องคือสิทธิครอบครองลูก ตอนแรกเด็กอยู่กับเขา ?
ทนาย : ตอนแรกที่เอ๋ตัดสินใจหย่า เอ๋ไม่มีทางเลือก อำนาจต่อรองเอ๋ไม่มีเลย เอ๋เลยยอมให้น้องสายแนนอยู่ในอำนาจการปกครองของเขาฝ่ายเดียว ในวันที่ทำบันทึกหย่ากัน หย่ากันที่อำเภอ เลยทำให้อำนาจการปกครองบุตรอยู่ที่เขาฝ่ายเดียวตั้งแต่วันนั้นมา ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้วที่น้องได้หย่า พอมาทำคดีน้อง น้องก็ปรึกษาว่าอยากได้ลูกกลับมา เพราะตอนนี้ทำผลิตภัณฑ์ มีรายได้แล้ว หนูเลี้ยงลูกได้ดีกว่า ผมก็ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว
เขาค้านไหมตอนแรก ?
ทนาย : เขาค้านครับ มีการสู้คดีกันเลย เขาไม่ยอมให้ลูกกลับมา
เอ๋ : เขายอมให้กลับมา แต่ว่าเขาไม่ให้สิทธิ ให้หนูเลี้ยงได้ แต่ไม่ให้สิทธิ
ไม่ให้สิทธิดูแล เราจะไม่มีสิทธิ์ในเด็กคนนี้เลย ?
เอ๋ : ใช่ค่ะ
ทนาย : แต่ในคำคัดค้าน เขาคัดค้านไม่ให้อำนาจปกครองบุตรกลับมาที่เรา ผมร้องให้อำนาจปกครองบุตรอยู่ที่เอ๋ฝ่ายเดียว เขาก็คัดค้านมา ก็สู้กันเต็มรูปแบบเลยครับ แต่น้องสายแนนยืนยันจะอยู่กับแม่ ด้วยคดีนี้เป็นเรื่องความรู้สึก ด้วยเด็กอายุเยอะพอที่จะตัดสินใจเองได้แล้ว ศาลถามเด็กว่าจะอยู่กับเอ๋หรืออยู่กับพ่อ เด็กบอกว่าจะอยู่กับแม่เอ๋ ไม่อยู่กับฝั่งนั้น ศาลก็เลยพิพากษาให้เด็กมาอยู่กับเอ๋ฝ่ายเดียว อำนาจปกครองบุตร ณ ตอนนี้ระหว่างที่อุทธรณ์กันอยู่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้น้องสายแนนอยู่ในอำนาจการปกครองของเอ๋คนเดียว ชนะมาแล้วก่อนคดีนี้ด้วยซ้ำ แต่ไม่เป็นข่าวออกมา
สิทธิในการดูแลเด็กอยู่ที่เอ๋ แล้วครูไพบูลย์เองต้องดูแลรับผิดชอบอะไรไหม ?
ทนาย : คำขอท้ายฟ้องเอ๋บอกว่าไม่เอา คำร้องของเราเอ๋บอกว่าไม่เอา ผมก็ยื่นบอกว่าไม่เอา ยื่นอำนาจปกครองบุตรอย่างเดียว ค่าเลี้ยงดูน้องไม่เอา
ทำไมถึงไม่เอา ทำไมไม่บอกว่าในเมื่อครูมีรายได้ มีบ้านหลังใหญ่ มี BMW ขับ ทำไมเอ๋ถึงคิดว่าไม่เป็นไร ไม่เอาเงินจากเธอ จะดูแลลูกคนเดียว เพราะอะไร ?
เอ๋ : ศาลถามหนูว่าที่หนูอยากได้ลูกไป เพราะอยากได้เงินจากการเลี้ยงดูของลูกหรือเปล่า ครูไพบูลย์เขาพูดกับศาลว่าหนูอยากได้เงินโดยการเอาลูกมาเลี้ยง หนูเลยบอกศาลว่าหนูไม่ขอสิทธิในการเลี้ยงลูกคนเดียวก็ได้ หนูขอครึ่งหนึ่งก็ได้ แต่เขาไม่ยอมค่ะ เขาบอกว่าผมแพ้ไม่ได้ ผมให้ไม่ได้ หนูก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นเงินที่บอกว่าถ้าเอาลูกมาเลี้ยง ขอเอาเดือนละ 2 หมื่น หนูไม่เอาก็ได้ หนูสามารถเลี้ยงลูกหนูได้ หนูบอกศาลแบบนี้ค่ะ
คุณจะบอกว่ามุมครูเองตอนขึ้นศาล เขาบอกว่าเอ๋ต้องการเอาลูกไปอยู่ด้วยเพราะต้องการรายได้จากเขา เหมือนเอาเด็กเป็นตัวประกัน เอ๋รู้สึกว่าเหมือนดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นแม่เกินไป คุณก็เลยบอกว่างั้นเงินไม่ต้องให้ แต่ขอดูแลลูกเอง ?
เอ๋ : ค่ะ
คุณก็เด็ดมากนะ ?
ทนาย : ลูกผู้ชายมากครับ แมนมาก
สรุปวันนี้คุณไม่ต้องการค่าเลี้ยงดูใด ๆ จากเขาเลย ?
เอ๋ : หนูไม่ต้องการค่ะ แต่ถ้าเขาคิดว่าเขาควรให้ลูก
เขารู้สึกถึงความเป็นพ่อ อยากซื้อขนมให้ลูก มาเยี่ยมลูกบ้างก็ทำได้ แล้วแต่เขา เอามาให้ลูก ไม่ต้องให้เราก็ได้ แล้วเขามาไหม ?
เอ๋ : ไม่ค่ะ ไม่เคยมาเลยค่ะ 2 ปีแล้วค่ะ
โทร. คุยกับลูกไหม ?
เอ๋ : ไม่โทร. ค่ะ
ถามลูกไหมว่าพ่อโทร. มาหาไหม ?
เอ๋ : เราถามลูกว่าอยากโทร. หาพ่อไหม อย่างวันพ่อที่ผ่านมา เราก็ถามว่าสายแนนคิดถึงพ่อไหม แม่โทร. หาให้ไหมลูก เขาก็บอกว่าถ้าโทร. ไปแล้วพ่อไม่รับล่ะแม่จะทำยังไง เราก็บอกว่าเขาไม่รับก็ไม่เป็นไรหรอก โทร. ไหม ลูกก็บอกว่าไม่
ลูกอยู่กับคุณเป็นยังไง ?
เอ๋ : มีความสุขดีค่ะ ไปกัน 3 คนกับแฟนใหม่เรา แฟนใหม่เราก็ดูแลลูกดี เพราะหนูบอกตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าไม่ต้องรักลูกหนูก็ได้ ขอแค่อย่าทำร้ายลูกหนูก็พอ หนูรักลูกหนูคนเดียวพอ ใครหน้าไหนก็ทำอะไรลูกหนูไม่ได้ ถ้าหนูรักลูกหนูมากพอ
เรารักลูกมากกว่าผัวใหม่ ง่าย ๆ ?
เอ๋ : อยู่แล้วค่ะ
ล่าสุดเห็นเขาโพสต์ เขาไลฟ์ไหม ?
เอ๋ : เห็นอยู่ค่ะ
เราตามดูตลอดหรือยังไง ?
เอ๋ : ไม่ค่ะ มีเอฟซีส่งมาให้ดู
ตอนครูไพบูลย์มีการไลฟ์ ยังพูดด้วยซ้ำว่าตามศาล มีทั้งหมด 3 ศาล มุมการต่อสู้เป็นสิทธิของคุณไพบูลย์ที่เขาจะสามารถอุทธรณ์ได้ ก็มีการประกันตัวเพื่อต่อสู้ ทนายกังวลใจไหม ?
ทนาย : ไม่กังวลครับ ด้วยการอุทธรณ์คือการเอาพยานหลักฐานที่ว่ากันโดยชอบมาแล้วในศาลชั้นต้นมาว่ากันในศาลอุทธรณ์ เขาก็ต้องโต้แย้งว่าที่ศาลตัดสินลงโทษจำคุกเขานั้นไม่ชอบยังไง
ต้องไปหาพยานหลักฐานเพิ่มว่าเขาไม่ได้กระทำแบบนั้นจริง ?
ทนาย : ไม่มีการหาหลักฐานเพิ่มเติมครับ ใช้ได้แค่พยานหลักฐานที่สืบพยานกันมาแล้วในศาลชั้นต้นเท่านั้น ซึ่งคดีนี้มีพยานบุคคล 4 ปาก ฝั่งโจทก์ และเขา 1 ปาก ก็คือตัวเอ๋ แม่เอ๋ ยายเอ๋ ผู้ใหญ่บ้านที่ทำบันทึก ส่วนฝั่งเขามีเขาแค่ปากเดียว ประจักษ์พยาน พยานบุคคล พยานแวดล้อม พยานเอกสาร มันว่ากันมาโดยชอบในศาลชั้นต้นแล้วครับ ในชั้นอุทธรณ์เขาไม่มีสิทธิ์นำพยานหลักฐานอื่นเข้ามาเลย ฉะนั้นแล้วด้วยคำพิพากษาของศาลเมื่อวานที่ท่านตัดสิน ที่ทนายน้องแจ้งมา ท่านก็ค่อนข้างปิดทุกประเด็นในประเด็นโต้แย้งกัน ฉะนั้นผมไม่รู้สึกกังวลเลย คดีนี้อุทธรณ์มาผมก็แก้อุทธรณ์ ผมสู้มาตั้งแต่แรก ผมมั่นใจมาก ๆ คดีนี้
มั่นใจว่าติดแน่ ?
ทนาย : มั่นใจมาก ๆ ว่าติดครับ ขอให้สู้ต่อเถอะครับ ได้ทุกเมื่อ
ถ้าอุทธรณ์ตัดสินยืนตามชั้นต้น ไปฎีกาได้ไหม ?
ทนาย : ไปฎีกาเหนื่อยแน่ครับ เพราะ 2 ศาลตัดสินมาแล้วครับ เหนื่อยแน่ชั้นฎีกา อาจไม่ได้รับไปถึงฎีกา อาจติดแค่ชั้นอุทธรณ์ก็ได้ อาจติดภายใน 2 ปีนี้ก็ได้
ถ้าไม่ต้องฎีกาก็เข้าคุกเลย ?
ทนาย : 8 ปีเต็ม ๆ ครับ
ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ ?
ทนาย : ครับ อาจมีเรื่องลดโทษ ตรงนั้นก็ต่างหากครับ แต่ลงไปเลย 8 ปี ส่วนคุณประพฤติตัวดีไม่ดี ค่อยไปว่ากันตรงนั้น อภัยโทษต่าง ๆ นานา แต่โทษที่ศาลให้คือ 8 ปีครับ
คดีพรากผู้เยาว์ เอาตรง ๆ ศาลเองถ้าพิเคราะห์แล้ว ท่านลงแบบนี้แล้ว แสดงว่าท่านต้องเป๊ะเหมือนกัน ไม่งั้นยกประโยชน์ให้จำเลยอยู่แล้ว ถ้ามีข้ออะไรนิดเดียวก็เป็นประโยชน์ให้จำเลย แต่นี่แสดงว่าท่านเก็บหมด ?
ทนาย : ครับ คดีนี้สิ่งที่ผมมองว่าทุกคนที่ติดตามมาจะได้ คือเกราะกำบัง หรือเกราะแก้วที่คุ้มครองเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี หลังจากคดีนี้ออกไป ทำให้โรงเรียนมัธยมทุกโรงเรียนมีเกราะแก้วกำบังจากกฎหมายเรื่องพรากผู้เยาว์ บิดามารดา พ่อแม่เด็ก ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือครูในโรงเรียน ก็จะรู้สึกอุ่นใจว่าเด็กมีกฎหมายคุ้มครองเขาอยู่ ถึงแม้เขาอายุไม่ถึง 18 ปี คนที่คิดทำชั่ว คิดล่วงละเมิดทางเพศ หรือครูในโรงเรียนคิดทำชั่วกับเด็กไม่เกิน 18 เห็นข่าวนี้ต้องระวังให้ดี อายุความ 15 ปี เด็กจะยินยอมก็ช่าง ถ้าพ่อแม่เขาไม่เอาด้วย ติดคุกครับ
ครูหรือผู้ใหญ่ล่วงละเมิดเด็กไม่เกิน 18 เด็กยอมหรือไม่ยอมไม่ใช่ประเด็น ถ้าพ่อแม่เขาไม่ยอม คุกเลย ?
ทนาย : ครับ นี่คือสิ่งที่สังคมได้จากการติดตามคดีนี้ การไลฟ์ของผมเมื่อวานทุกคนก็เห็นเป็นเสียงเดียวกันว่านี่แหละคือสิ่งที่เราทำร่วมกัน ทำให้สังคมได้รับรู้กฎหมาย 317 หรือ 319 คุ้มครองเด็กจริง ๆ คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างให้คนที่คิดทำชั่ว ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ไม่ปล่อยให้เด็กเติบโตตามกาลเวลาของเขา ก็จะหยุดการกระทำนั้นทันที
ครั้งหนึ่งคุณเอ๋บอกว่ายินดีจะคบกับครูไพบูลย์ ไปคบหากัน มีสัมพันธ์ต่าง ๆ นานา แต่แม่ไม่รู้ แม่มารู้ทีหลัง แล้วคุณไพบูลย์ทำหนังสือฉบับหนึ่งให้เอาไว้ ?
ทนาย : รับผิดการกระทำ และจะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่สุดท้ายก็ไม่จ่าย ตรงนี้ศาลท่านมองว่าการกระทำความผิดเกี่ยวกับพรากผู้เยาว์ไม่ได้ลบล้างด้วยการขอแต่งงาน หรือกรณีคุณตกลงจะจ่ายเงินให้แม่เขา แต่เหตุที่ทุกวันนี้สังคมยังสามารถใช้ประเด็นนี้อยู่ คือด้วยพ่อแม่เด็กกำลังทรัพย์เขาไม่พอที่จะปะทะ สอง เขาไม่รู้ว่ามีกฎหมายข้อนี้คุ้มครองเด็กอยู่ สาม ลูกเขาอยู่กินกันไปจนขาดอายุความ มี 3 ประเด็นนี้ ทำให้คดีลักษณะแบบนี้ไม่เกิดขึ้นในสังคม
แต่วันนี้ทุกคนได้รู้ได้เห็นแล้วว่ากฎหมายเรื่องนี้ค่อนข้างร้ายแรงและคุ้มครองเด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง เชื่อไหมว่าทั้งวันเมื่อวานมีคนอินบ็อกซ์มาหาผม โรงพักหลายโรงพักเริ่มรับคดีแบบนี้แล้ว ไอ้พวกที่ไปกระทำชำเราเด็กแล้วยังไม่ขาดอายุความ ถ้าพ่อแม่ไม่ยินยอมถือว่าผิด อายุไม่เกิน 15 ปี เด็กยินยอมหรือไม่ยินยอม พ่อแม่ยินยอมหรือไม่ยินยอม ก็ผิด จำคุก 3-15 ปี อายุไม่เกิน 18 ปี เด็กยินยอม แต่ถ้าพ่อแม่ไม่ยินยอมก็ผิด จำคุก 1-10 ปี ความต่างคือระวางโทษจำคุก
กรณีนี้เห็นบอกว่าเอ๋มีเรื่องเจ็บช้ำน้ำใจอยู่ เพราะครูไพบูลย์ฟ้องเอ๋เหมือนกัน ?
เอ๋ : ฟ้องเรื่องมาออกรายการโหนกระแสนี่แหละค่ะ เขาบอกว่าภรรยาใหม่ของเขาเสียหาย หนูไปทำให้กิจการเขาปิด ทำให้เขาไม่มีคอนเสิร์ต เงินที่ได้จากยูทูบเดือนละล้านก็ตกลงมาเหลือเดือนละ 4,000 เขาก็บอกว่าเป็นความผิดของหนู หนูก็เลยพูดในศาลว่า ถ้าคุณไม่ท้อง หรือแฟนคุณไม่มีแฟน ความนิยมจะลดลงไหม ทำไมไม่โทษตัวเองบ้าง ทำไมมาโทษแต่หนู
เขาใช้คำพูดคำไหนในการฟ้อง ?
ทนาย : จริง ๆ การร่างบรรยายเรื่องหมิ่นประมาทมันต้องสรุปให้ได้ว่าคำไหนเข้าอย่างไร แต่คำฟ้องของเขา เขาเอาบรรยายคำพูดเอ๋ทุกคำในรายการแล้วเอาไปสรุปรวบยอดว่าหมิ่นประมาทเขา สิ่งที่เราสู้คือเรากำลังจะบอกว่าเราเข้าข้อยกเว้น เราพูดในสิ่งที่มันเกิดขึ้นจริง และเราได้รับผลกระทบนั้นจริง การที่เราออกมาพูดไม่มีเจตนาใส่ความเขา ทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากพิธีกรถาม เราก็สู้ประเด็นเรื่องเจตนา
ทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากพิธีกรถาม ?
เอ๋ : พี่หนุ่มต้องไปเป็นพยานให้หนู (หัวเราะ) ศาลจังหวัดเลยค่ะ
แล้วผมก็ต้องขาดงานอีกแล้ว ต้องไปขึ้นศาล ?
ทนาย : ที่เขาฟ้องน่าจะเป็นวันที่เอ๋มาออกรายการ วันที่ 3 สิงหาคม 2564
เอ๋ไม่สบายใจที่เขาด่าแม่เอ๋เหรอ ?
เอ๋ : ใช่ค่ะ บางคนอาจคิดว่าหนูชนะคดีแล้วรู้สึกดีใจ สะใจ แต่จริง ๆ แล้วมันตีค่าไม่ได้กับความสูญเสียที่หนูเสียไป แล้วกับสิ่งที่แม่หนูโดนเขาย่ำยี โดยบอกว่าแม่หนูเห็นแก่เงิน ด่าใครก็ได้ แต่อย่าด่าแม่หนู ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ด่าแม่หนู แม่หนูจะเป็นอะไร จะทำงานอะไรมา แม่หนูก็เลี้ยงหนูมาอย่างยากลำบาก ทำไมเขามาพูดใส่คำหยาบกับแม่หนูว่าหน้าเงินจังเลย
เขาพูดที่ไหน ?
เอ๋ : เขาพูดทุกครั้งค่ะที่แม่หนูถามว่าทำไมไม่มาสู่ขอ
เห็นบอกบนชั้นศาล เขาบอกคุณ 2 คนไปคบหากันด้วย ?
เอ๋ : ที่เขาลงสตอรี่ไม่ได้เอ่ยชื่อค่ะ เขาลงว่าหนูน่าจะโดนแฟนทนายไล่ออกจากบ้าน บอกว่าหนูกับทนายน่าจะมีซัมติงกัน
ไปกินกัน ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่ ?
เอ๋ : (หัวเราะ) หนูมองว่าทำไมคนเราต่ำแล้วยังต่ำได้อีก นี่พูดลอย ๆ ค่ะ
ยืนยันว่าเรา 2 คนไม่ได้คบหากัน ?
ทนาย : ไม่แน่นอนครับ
เอ๋ : ไม่ค่ะ พี่ทนายเก่งดีกับหนูมาก ๆ ถ้าหนูทำกับพี่เก่งก็เหมือนหนูทำร้ายพี่ปุ๊กกี้ แฟนพี่ทนายเก่ง แกดีกับหนูมาก รักหนูมาก เป็นครอบครัวตัวอย่างที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ
ประเด็นที่ครูไพบูลย์ฟ้อง เอ๋ มิรา ก็สงสัยว่าเป็นเพราะเอ๋ไปฟ้องพรากผู้เยาว์เขาก่อนหรือเปล่า เขาถึงฟ้องหมิ่นประมาทกลับมา แต่จริง ๆ ไม่ใช่ ครูไพบูลย์ไปฟ้องเขาก่อน เขาก็เลยสวนด้วยการพรากผู้เยาว์ ซึ่งตัดสินแล้ว แล้วคดีเขาล่ะ ?
ทนาย : เหลือสืบพยานฝ่ายจำเลย เดือนพฤษภาคม พี่หนุ่ม กรรชัย นี่แหละครับ (หัวเราะ)
เอ๋ : ดูตัวเองในวันนั้นแล้วสะท้อนสังคม ฝากเด็ก ๆ ทุกคนที่มีความรักก่อนวัยอันควร ดูหนูเป็นตัวอย่างก็ได้ ผลกระทบที่ตามมาไม่ได้มีแค่เรา แต่กลับเป็นครอบครัวเราที่ต้องมาเสียใจ เราเจ็บแค่นี้ แต่แม่เราเจ็บมากกว่าเราเป็นร้อยเท่า ไม่เคยบอกแม่เลยว่าหนูทะเลาะกับเขาหรือมีปัญหาอะไร (เสียงสั่นเครือ) จนตอนนี้หนูเป็นแม่คนแล้ว อยากบอกเด็กทุกคน ดูหนูเป็นตัวอย่าง ผลกระทบที่ตามมามันรุนแรงมาก ไม่ได้มีแค่เราค่ะ
ตอนนี้ยังมีแฟนคลับครูเพลงมาต่อว่าคุณไหม ?
เอ๋ : ก็ยังมีค่ะ คนที่ไม่ได้ติดตามเรา แต่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เพราะหนูทำงานกับพี่ทนายเก่ง มีพี่ ๆ เอฟซีหลายคนมาให้กำลังใจ บางทีคนมาให้กำลังใจไม่ได้เป็นเอฟซีเราก็มี ที่เขามองเห็นปัญหาเรา
คนด่ายังมีอยู่ไหม ล่าสุดป้าพลอย ชงเก่ง ด่าว่าคุณบีบน้ำตาสร้างภาพ ?
เอ๋ : คุณลองมาเป็นหนูดูไหมคะ ลองโดนนอกใจดูไหมคะ (ร้องไห้) ลองให้แม่คุณโดนเหยียบย่ำดูไหมคะ
สุดท้ายอยากฝากบอกอะไรถึงครูเพลง ?
เอ๋ : ไม่ได้อยากฝากบอกเขา แต่อยากฝากผู้ใหญ่หลาย ๆ คน คุณครู หรือคนมีวุฒิภาวะ การที่เด็กหรือคนไม่บรรลุนิติภาวะ บางทีเขายังคิดอะไรไม่ได้ ตอนนี้สังคมน่ากลัวมาก ถ้าเราไม่เห็นความสำคัญตรงนี้ หรือมองข้ามว่าเด็กสมยอมนั่นโน่นนี่ ถ้าทุกคนยังคิดแบบนี้ สังคมนี้จะน่ากลัวมาก หนูในฐานะคนเป็นแม่ หนูมารู้สึกและเข้าใจตอนที่หนูโตแล้ว แต่ตอนที่หนูเป็นเด็ก หนูก็ตามเด็กค่ะ ที่คิดว่าอะไรก็ได้ แต่ไม่รู้ผลกระทบคืออะไร อยากฝากบอกแม่หนูมากกว่าค่ะ หนูขอโทษที่ผ่านมา (ร้องไห้) ขอโทษที่ไม่เชื่อฟัง ขอโทษที่ทำร้ายจิตใจแม่ ขอโทษที่คนอื่นต้องมาทำให้แม่เสียใจ ถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้เข้ามาในชีวิตหนู หนูคงไปได้ไกลกว่านี้ ขอบคุณแม่ที่เข้าใจและอดทนรับฟังตลอดมา
รอเขาอุทธรณ์ มั่นใจว่าสู้ได้ ?
ทนาย : มั่นใจครับ
ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33