พ่อผัวหัวร้อน เจอภาพบาดตา หลังไปเยี่ยมลูกสะใภ้ที่โรงพยาบาล ด่าแรงออกตัวก่อน จนเมื่อความจริงปรากฏ ถึงกับพูดไม่ออก

ภาพจาก Weibo
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 เว็บไซต์ SAOstar เผยว่า มีเรื่องราวข้อพิพาทระหว่างพ่อสามีและลูกสะใภ้ของครอบครัวหนึ่ง กลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์บนสื่อออนไลน์ของจีน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลในเมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี เมื่อไม่นานมานี้ หญิงสาวชื่อสกุลจาง (นามสมมุติ) เกิดเจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล นายเฉิน พ่อสามีของเธอทราบข่าวจึงรีบตามมาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วงลูกสะใภ้
แต่ปรากฏว่าเมื่อนายเฉินเข้าไปในห้องผู้ป่วย เขาก็ต้องตะลึงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่มแปลกหน้ารายหนึ่ง กำลังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ข้างกายลูกสะใภ้ เมื่อได้เห็นภาพเห็นลูกสะใภ้ตัวเองสนิทสนมแนบชิดกับชายอื่นที่ไม่ใช่ลูกชายตัวเอง นายเฉินจึงโกรธมาก ระเบิดอารมณ์ตะโกนต่อว่าลูกสะใภ้เสียงดังโวยวาย
![พ่อผัวรู้ข่าวลูกสะใภ้เข้า รพ. รีบไปเยี่ยม พ่อผัวรู้ข่าวลูกสะใภ้เข้า รพ. รีบไปเยี่ยม]()
ภาพจาก Weibo
ด้านจางและชายรายนั้น รวมทั้งญาติของเธอก็ไม่ยอม ทำให้ทั้งสองฝ่ายเถียงกันสนั่นไม่รู้จบ สถานการณ์กลายเป็นความวุ่นวาย รบกวนคนไข้รายอื่นที่ต้องการพักผ่อน ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจึงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยจัดการ แต่ในเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่ยอมอยู่ในความสงบกันง่าย ๆ ทางตำรวจจึงต้องเชิญตัวทั้งสองฝ่ายไปเคลียร์กันที่สถานีตำรวจ (ยกเว้นจางที่เป็นผู้ป่วย)
ชายแปลกหน้ารายนั้น บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาเป็นแค่เพื่อนทั่วไปของจาง หลังจากที่รู้ว่าเธอเข้าโรงพยาบาลและ "ไม่มีใคร" มาดูแล เขาจึงอาสามาช่วย ไม่มีเรื่องน่าอายหรืออะไรเกินเลยระหว่างทั้งคู่ วันนั้นตนเหนื่อย จึงขึ้นไปนอนบนเตียงของโรงพยาบาลแค่ชั่วครู่ แต่นายเฉินเข้ามาเห็นพอดีจึงเกิดความเข้าใจผิดไปใหญ่
นอกจากนี้ พี่สาวของจาง ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า น้องสาวได้ดำเนินขั้นตอนการหย่าร้างกับลูกชายนายเฉินเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่รอรับเอกสาร นั่นหมายความว่า อดีตสามีของเธอและครอบครัวของเขา ซึ่งรวมถึงนายเฉิน ผู้เป็นพ่อ ไม่มีสิทธิมายุ่งเกี่ยวใด ๆ กับชีวิตของน้องสาวเธอได้อีก
อย่างไรก็ตาม ทางนายเฉินอ้างว่า ตนไม่ทราบเรื่องราว ไม่รู้ว่าลูกชายหย่าร้างกับลูกสะใภ้เสร็จสิ้นแล้ว ทำให้ยังคิดว่าเธอเป็นภรรยาของลูกชายตัวเองอยู่ เมื่อได้ยินว่าเธอเข้าโรงพยาบาลก็เป็นห่วง แต่พอเห็นเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นก็เข้าใจว่าลูกชายโดนหักหลัง จึงยอมรับไม่ได้จนถึงกับโกรธจนตัวสั่นเช่นนั้น
ท้ายที่สุด ทางตำรวจแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งและตกลงยุติปัญหากันในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก SAOstar

ภาพจาก Weibo
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 เว็บไซต์ SAOstar เผยว่า มีเรื่องราวข้อพิพาทระหว่างพ่อสามีและลูกสะใภ้ของครอบครัวหนึ่ง กลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์บนสื่อออนไลน์ของจีน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลในเมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี เมื่อไม่นานมานี้ หญิงสาวชื่อสกุลจาง (นามสมมุติ) เกิดเจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล นายเฉิน พ่อสามีของเธอทราบข่าวจึงรีบตามมาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วงลูกสะใภ้
แต่ปรากฏว่าเมื่อนายเฉินเข้าไปในห้องผู้ป่วย เขาก็ต้องตะลึงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่มแปลกหน้ารายหนึ่ง กำลังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ข้างกายลูกสะใภ้ เมื่อได้เห็นภาพเห็นลูกสะใภ้ตัวเองสนิทสนมแนบชิดกับชายอื่นที่ไม่ใช่ลูกชายตัวเอง นายเฉินจึงโกรธมาก ระเบิดอารมณ์ตะโกนต่อว่าลูกสะใภ้เสียงดังโวยวาย

ภาพจาก Weibo
ด้านจางและชายรายนั้น รวมทั้งญาติของเธอก็ไม่ยอม ทำให้ทั้งสองฝ่ายเถียงกันสนั่นไม่รู้จบ สถานการณ์กลายเป็นความวุ่นวาย รบกวนคนไข้รายอื่นที่ต้องการพักผ่อน ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจึงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยจัดการ แต่ในเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่ยอมอยู่ในความสงบกันง่าย ๆ ทางตำรวจจึงต้องเชิญตัวทั้งสองฝ่ายไปเคลียร์กันที่สถานีตำรวจ (ยกเว้นจางที่เป็นผู้ป่วย)
ชายแปลกหน้ารายนั้น บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาเป็นแค่เพื่อนทั่วไปของจาง หลังจากที่รู้ว่าเธอเข้าโรงพยาบาลและ "ไม่มีใคร" มาดูแล เขาจึงอาสามาช่วย ไม่มีเรื่องน่าอายหรืออะไรเกินเลยระหว่างทั้งคู่ วันนั้นตนเหนื่อย จึงขึ้นไปนอนบนเตียงของโรงพยาบาลแค่ชั่วครู่ แต่นายเฉินเข้ามาเห็นพอดีจึงเกิดความเข้าใจผิดไปใหญ่
นอกจากนี้ พี่สาวของจาง ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า น้องสาวได้ดำเนินขั้นตอนการหย่าร้างกับลูกชายนายเฉินเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่รอรับเอกสาร นั่นหมายความว่า อดีตสามีของเธอและครอบครัวของเขา ซึ่งรวมถึงนายเฉิน ผู้เป็นพ่อ ไม่มีสิทธิมายุ่งเกี่ยวใด ๆ กับชีวิตของน้องสาวเธอได้อีก
อย่างไรก็ตาม ทางนายเฉินอ้างว่า ตนไม่ทราบเรื่องราว ไม่รู้ว่าลูกชายหย่าร้างกับลูกสะใภ้เสร็จสิ้นแล้ว ทำให้ยังคิดว่าเธอเป็นภรรยาของลูกชายตัวเองอยู่ เมื่อได้ยินว่าเธอเข้าโรงพยาบาลก็เป็นห่วง แต่พอเห็นเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นก็เข้าใจว่าลูกชายโดนหักหลัง จึงยอมรับไม่ได้จนถึงกับโกรธจนตัวสั่นเช่นนั้น
ท้ายที่สุด ทางตำรวจแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งและตกลงยุติปัญหากันในที่สุด
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก SAOstar