ทนายเดชา เผย นารา โร่ปรึกษาทั้งน้ำตา สำนึกผิด ขอหยุดด่าขวางการทำมาหากิน

           นารา เครปกะเทย เครียดหนัก ร่ำไห้ปรึกษา ทนายเดชา เรื่องเจรจาใช้หนี้ผู้เสียหายกล่องสุ่ม - เปิดบิล ยันใช้หนี้คืนทั้งหมด วอนสังคมไม่ควรโจมตีทุกช่องทาง จนถึงขั้นขัดขวางการทำมาหากิน


          วันที่ 16 มีนาคม 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เปิดเผยว่า นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย ได้เข้ามาขอให้ตนรับเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้ ช่วยทำหน้าที่รวบรวมบรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายจากการเปิดกล่องสุ่มและเปิดบิลของนารา เพื่อดำเนินการเจรจาชำระหนี้คืนให้แก่เจ้าหนี้ ซึ่งตนยินดีรับเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้

          โดยเมื่อคืนนี้นาราได้พูดกับตนด้วยความสำนึกผิดทั้งน้ำตา และบอกว่าจะไม่ทำเช่นนี้อีก ตอนนี้กำลังพยายามทำทุกวิถีทางในการหาเงินมาชดใช้ชำระหนี้ทุกบาททุกสตางค์ ตั้งแต่การนำบ้านเข้าธนาคาร ไปจนถึงพยายามไลฟ์ขายของในโซเชียล ตนจึงเห็นว่า นาราสำนึกผิดอย่างแท้จริง และเป็นคนเก่งมีความสามารถด้านการค้า แต่อาจจะหลงผิดไปสีเทาบ้าง จนทำให้เกิดปัญหาเช่นนี้ ตนได้สั่งสอนเตือนสติไปว่าหากทำผิดแล้วสำนึกยอมรับผิดถือว่าดี แต่หลังจากนี้ก็ต้องทำมาหาเงินช่วยเหลือเยียวยาบรรดาเจ้าหนี้ต่อไป นาราไม่ควรเปิดขายกล่องสุ่มหรือเปิดบิลอีก ซึ่งทางนาราเองก็รับปากและจะดำเนินการเพียงแค่ขายของออนไลน์อย่างเดียว


- ทนายเดชา ฝากถึงสังคมออนไลน์

          อย่าเพิ่งไปด่าหรือต่อว่านาราในคอมเมนต์ที่เขาเปิดขายของออนไลน์ เพราะมันจะทำให้เขาขายของไม่ได้ และไม่สามารถที่จะหาเงินมาช่วยชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ได้ เข้าใจหากสังคมจะด่าหรือไม่ให้โอกาสเขา แต่ก็ไม่ควรมาโจมตีทุกช่องทาง จนถึงขั้นขัดขวางการทำมาหากิน เพราะตอนนี้ตัวนาราเองมีเจตนาที่จะพยายามขายของเพื่อนำเงินมาจ่ายเจ้าหนี้ หากเป็นไปได้ก็ควรให้โอกาสกลับตัวกลับใจ ที่ผ่านมานาราอาจจะหลงผิด แต่ ณ วันนี้นาราสำนึกผิดแล้ว โดยยกกรณีของ พิ้งค์กี้ สาวิกา เป็นตัวอย่าง ที่หลังจากได้รับประกันตัวออกจากเรือนจำ ก็ยังได้รับโอกาสในการทำงาน

- การชำระหนี้เยียวยาผู้เสียหาย

          ตอนนี้มีผู้เสียหายติดต่อมาที่ตนแล้ว 78 ราย เพื่อช่วยเป็นตัวกลางในการดำเนินการพูดคุยเจรจากับนารา ซึ่งถ้าหากผู้เสียหายจากเคสนาราคนใดต้องการจะติดต่อให้นาราชดใช้ชำระหนี้ ก็สามารถติดต่อมาได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ หรือจะมาหาตนที่สำนักงานก็ยินดี โดยจนถึงตอนนี้ยังไม่มีผู้เสียหายคนไหนนำคดีฟ้องร้องต่อศาล มีเพียงแค่แจ้งความลงบันทึกประจำวัน


- ทนายเดชา ยืนยันไม่ได้เป็นทนายให้นารา

          การเข้ามาช่วยเหลือครั้งนี้ ตนรับเพียงทำหน้าที่ในการเป็นตัวกลางพูดคุยระหว่างนารากับผู้เสียหายเท่านั้น เชื่อว่าผู้เสียหายส่วนใหญ่ต้องการที่จะได้รับเงินคืนมากกว่า แต่ถ้าผู้เสียหายคนใดจะใช้สิทธิ์ฟ้องร้องทางศาล ก็ไม่ขัดข้อง ตนไม่มีนโยบายในการต่อสู้คดีกับผู้เสียหายแต่อย่างใด ฉะนั้น หากมีผู้ฟ้องร้องคดีต่อศาลกับนาราจริง ตนก็ไม่ได้มีหน้าที่ในการช่วยแก้ต่างคดีให้

- เงินที่ได้จากการขายกล่องสุ่มหรือเปิดบิลหายไปไหน จนทำให้เกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง

          เรื่องนี้ให้ตัวนาราเป็นผู้ชี้แจงแล้วตอบคำถามนี้เอง เพราะเป็นความลับของลูกความ ตนไม่สามารถเปิดเผยได้


- การขายกล่องสุ่มและเปิดบิลของนาราจะถือว่าเป็นการระดมทุนอันเข้าข่ายหลอกลวงหรือฉ้อโกงประชาชนหรือไม่

          ตามกฎหมายแล้ว การเปิดระดมทุนอันมีลักษณะเป็นการหลอกลวงฉ้อโกงนั้น จะต้องมีเจตนาที่จะพูดชักชวนให้ประชาชนเข้ามาลงทุนในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และก่อให้เกิดความเสียหาย ตนเข้าใจว่าการกระทำของนารานั้น เป็นเพียงการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่จะมีเจตนาตั้งแต่ต้นในการที่จะหลอกลวงฉ้อโกงหรือไม่ เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการตอบคำถามนี้จะดีกว่า

- การขายกล่องสุ่มจะเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.การพนัน หรือไม่

          จริงอยู่ที่ตามกฎหมาย การขายกล่องสุ่มมีลักษณะเข้าข่ายเป็นการเสี่ยงโชคตามมาตรา 8 จะต้องขออนุญาตจากกรมการปกครอง แต่อย่างที่กล่าวไปว่า เจตนาการขายกล่องสุ่มของนาราเป็นเพียงการตลาด มิใช่เป็นการสุ่มชิงโชค โดยยกเทียบเคียงอย่างกรณีของพิมรี่พายว่าเคยถูกดำเนินคดีหรือไม่ แต่ถ้าหากถูกดำเนินคดีจริง ตามกฎหมายโทษก็ไม่หนักมาก แต่จะต่อสู้อย่างไร ตนก็ไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้มีหน้าที่สู้คดีหากจะมีการฟ้องร้อง

- เตรียมเดินทางไปกระทรวงยุติธรรม

          ทนายเดชา ระบุว่า วันที่ 17 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. ตนและนาราจะเดินทางเข้าพบ ว่าที่ ร.ต. ธนกฤต จิตอารีรัตน์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อแถลงข่าวแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ พร้อมให้ผู้เสียหายเดินทางมาพูดคุยความเสียหายกับนารา ได้ที่กระทรวงยุติธรรม


ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3