พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับที่ 4 ลูกจ้างทำงานที่บ้าน (WFH) มีสิทธิเสมือนทำที่ทำงาน เลิกงานปฏิเสธการติดต่อนายจ้างได้ เว้นมีหนังสือยินยอม เริ่มใช้บังคับ 18 เม.ย. 66
วันที่ 29 มีนาคม 2566 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2566 ใจความเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน เพื่อยกระดับการคุ้มครองลูกจ้างให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มาตรา 23/1 เพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการของนายจ้าง และเป็นการส่งเสริม คุณภาพชีวิตและการทํางานของลูกจ้าง หรือในกรณีมีความจําเป็น นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงให้ลูกจ้าง นํางานในทางการที่จ้างหรือที่ตกลงไว้กับนายจ้างซึ่งมีลักษณะหรือสภาพของงานที่ลูกจ้างสามารถปฏิบัติงานนอกสถานประกอบกิจการ หรือนอกสํานักงานของนายจ้างได้โดยสะดวก ให้ลูกจ้างทํางานดังกล่าวไปทําที่บ้านหรือที่พักอาศัยของลูกจ้าง หรือตกลงให้ลูกจ้างทํางานผ่านการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศในสถานที่ใด ๆ ได้การตกลงตามวรรคหนึ่ง ให้นายจ้างจัดทําเป็นหนังสือหรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึง และนํากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง โดยอาจตกลงให้มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
(1) ช่วงระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการตกลง
(2) วัน เวลาทํางานปกติ เวลาพัก และการทํางานล่วงเวลา
(3) หลักเกณฑ์การทํางานล่วงเวลาและการทํางานในวันหยุด รวมทั้งการลาประเภทต่าง ๆ
(4) ขอบเขตหน้าที่การทํางานของลูกจ้างและการควบคุมหรือกํากับการทํางานของนายจ้าง
(5) ภาระหน้าที่เกี่ยวกับการจัดหาเครื่องมือหรืออุปกรณ์การทํางาน รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จําเป็น อันเนื่องจากการทํางาน
เมื่อสิ้นสุดเวลาทํางานปกติตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันหรือสิ้นสุดการทํางานตามที่ นายจ้างมอบหมาย ลูกจ้างมีสิทธิปฏิเสธในการติดต่อสื่อสารไม่ว่าในทางใด ๆ กับนายจ้าง หัวหน้างาน ผู้ควบคุมงาน หรือผู้ตรวจงาน เว้นแต่ลูกจ้างได้ให้ความยินยอมโดยทําหนังสือไว้ล่วงหน้าก่อน
ลูกจ้างซึ่งทํางานที่บ้าน หรือที่พักอาศัย หรือทํางานผ่านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสถานที่ใด ๆ มีสิทธิเช่นเดียวกับลูกจ้างที่ทํางานในสถานประกอบกิจการหรือสํานักงานของนายจ้าง
ทั้งนี้ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนด 30 วันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ภาพจาก ราชกิจจานุเบกษา
ขอบคุณข้อมูลจาก ราชกิจจานุเบกษา