สาวซวยสองเด้ง เจอหนุ่มวิ่งลงถนนให้รถชนเจ็บหนัก ซ้ำยังถูกญาติเรียกค่าเสียหาย 1 แสน ล่าสุดออกมาชี้แจงแล้ว ไม่มีการเรียกเงิน 1 แสน พร้อมแจงที่มาทำไมข่าวมั่ว
วันที่ 23 มีนาคม 2566 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นางสาวขนิษฐา ทองใบ ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า ถูกชายวิ่งตัดหน้ารถอย่างกระชั้นชิด ขณะที่ขับรถบนถนนสายชัยภูมิ-ชุมแพ บ.แก้งอรุน ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ส่งผลให้เบรกรถไม่ทันจนพุ่งชนอีกฝ่ายอาการสาหัส กระดูกสะโพกหัก 2 ข้าง กระเพาะปัสสาวะฉีกขาด ในช่วงคืนวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา
เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหาว่า ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนญาติคนเจ็บเรียกค่าทำขวัญ 1 แสนบาท ซึ่งนางสาวขนิษฐาไม่มีเงินมากขนาดนั้น นอกจากนี้ ยังมีการให้ข้อมูลว่า ชายคนดังกล่าวพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง เช่น นอนกลางถนนให้รถสิบล้อและรถที่ผ่านไป-มาชน แต่ไม่สำเร็จ พยายามผูกคอตายก็มีคนมาช่วยทัน
นางสาวขนิษฐา กล่าวว่า ตนอยากร้องขอความเป็นธรรม เพราะรู้สึกผิดและโกรธที่รู้ว่า เขาพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งด้วยการให้ถูกรถชน แล้วตนก็โชคร้าย เสียเงิน เสียเวลา เสียสุขภาพจิต
ด้านนายทุ้งรวงทอง วิญญาณเย็น วัย 41 ปี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายทวีศักดิ์ ผู้บาดเจ็บ นั่งดื่มเหล้าหน้าอู่ซ่อมรถบ้านตน ก่อนจะวิ่งไปให้รถชน ซึ่งตนก็ทราบว่าเขามีความเครียด พยายามห้ามแล้วแต่ไม่ทัน ก่อนหน้านี้ก็เคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง เช่น นอนให้รถสิบล้อเหยียบ แต่อีกฝ่ายเบรกทัน
คนชนแจงชัด ไม่มีเรื่องค่าเสียหาย 1 แสน โอดสื่อตีข่าวผิดทำเดือดร้อนหมด
ต่อมา เฟซบุ๊ก ขนิษฐา ทองใบ ซึ่งเป็นของผู้ขับรถชน ออกมาโพสต์ชี้แจงว่า เรื่องการถูกญาติคู่กรณีเรียกเงิน 1 แสน ไม่เป็นเรื่องจริง ตอนนี้ยังไม่มีการคุยเรื่องเงิน เรื่องค่าทำขวัญ เรื่องคดีต้องรอผู้บาดเจ็บออกจากโรงพยาบาลก่อน
ส่วนสาเหตุที่สื่อไปตีข่าวเรื่องเงิน 1 แสน อาจจะเป็นเพราะเธอไปโพสต์ปรึกษาในกลุ่มทนายความว่า ถ้าหากญาติเรียกค่าทำขวัญเป็นแสน จะทำยังไง ซึ่งในข้อความนี้คือ ถ้าหากถูกเรียกเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงถูกเรียกไปแล้ว
นอกจากนี้ ข่าวที่ออกมาทำให้ลูกสาวของผู้บาดเจ็บไม่สบายใจ พยายามไปคอมเมนต์แก้ข่าวตามเพจต่าง ๆ ว่า ยังไม่ได้เรียกเงิน ซึ่งตนที่ต้องออกมาชี้แจง เพราะเห็นใจลูกสาวเขา เรื่องค่าทำขวัญ 1 แสน มันไม่ใช่เรื่องจริง
![สาวซวย เจอหนุ่มวิ่งลงถนนให้รถชน อ้างญาติเรียก 1 แสนแต่ไม่มีจ่าย สุดท้ายโอละพ่อ]( "สาวซวย เจอหนุ่มวิ่งลงถนนให้รถชน อ้างญาติเรียก 1 แสนแต่ไม่มีจ่าย สุดท้ายโอละพ่อ")
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์
วันที่ 23 มีนาคม 2566 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นางสาวขนิษฐา ทองใบ ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า ถูกชายวิ่งตัดหน้ารถอย่างกระชั้นชิด ขณะที่ขับรถบนถนนสายชัยภูมิ-ชุมแพ บ.แก้งอรุน ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ส่งผลให้เบรกรถไม่ทันจนพุ่งชนอีกฝ่ายอาการสาหัส กระดูกสะโพกหัก 2 ข้าง กระเพาะปัสสาวะฉีกขาด ในช่วงคืนวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา
เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหาว่า ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนญาติคนเจ็บเรียกค่าทำขวัญ 1 แสนบาท ซึ่งนางสาวขนิษฐาไม่มีเงินมากขนาดนั้น นอกจากนี้ ยังมีการให้ข้อมูลว่า ชายคนดังกล่าวพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง เช่น นอนกลางถนนให้รถสิบล้อและรถที่ผ่านไป-มาชน แต่ไม่สำเร็จ พยายามผูกคอตายก็มีคนมาช่วยทัน
นางสาวขนิษฐา กล่าวว่า ตนอยากร้องขอความเป็นธรรม เพราะรู้สึกผิดและโกรธที่รู้ว่า เขาพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งด้วยการให้ถูกรถชน แล้วตนก็โชคร้าย เสียเงิน เสียเวลา เสียสุขภาพจิต
ด้านนายทุ้งรวงทอง วิญญาณเย็น วัย 41 ปี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายทวีศักดิ์ ผู้บาดเจ็บ นั่งดื่มเหล้าหน้าอู่ซ่อมรถบ้านตน ก่อนจะวิ่งไปให้รถชน ซึ่งตนก็ทราบว่าเขามีความเครียด พยายามห้ามแล้วแต่ไม่ทัน ก่อนหน้านี้ก็เคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง เช่น นอนให้รถสิบล้อเหยียบ แต่อีกฝ่ายเบรกทัน
คนชนแจงชัด ไม่มีเรื่องค่าเสียหาย 1 แสน โอดสื่อตีข่าวผิดทำเดือดร้อนหมด
ต่อมา เฟซบุ๊ก ขนิษฐา ทองใบ ซึ่งเป็นของผู้ขับรถชน ออกมาโพสต์ชี้แจงว่า เรื่องการถูกญาติคู่กรณีเรียกเงิน 1 แสน ไม่เป็นเรื่องจริง ตอนนี้ยังไม่มีการคุยเรื่องเงิน เรื่องค่าทำขวัญ เรื่องคดีต้องรอผู้บาดเจ็บออกจากโรงพยาบาลก่อน
ส่วนสาเหตุที่สื่อไปตีข่าวเรื่องเงิน 1 แสน อาจจะเป็นเพราะเธอไปโพสต์ปรึกษาในกลุ่มทนายความว่า ถ้าหากญาติเรียกค่าทำขวัญเป็นแสน จะทำยังไง ซึ่งในข้อความนี้คือ ถ้าหากถูกเรียกเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงถูกเรียกไปแล้ว
นอกจากนี้ ข่าวที่ออกมาทำให้ลูกสาวของผู้บาดเจ็บไม่สบายใจ พยายามไปคอมเมนต์แก้ข่าวตามเพจต่าง ๆ ว่า ยังไม่ได้เรียกเงิน ซึ่งตนที่ต้องออกมาชี้แจง เพราะเห็นใจลูกสาวเขา เรื่องค่าทำขวัญ 1 แสน มันไม่ใช่เรื่องจริง
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์
