ชูวิทย์ โต้ทนายตั้ม รับงานใครมา ยันเงิน 6 ล้านเป็นของสารวัตรซัวจริง ท้าถ้ามีหลักฐานอื่นให้เปิดออกมาเลย
จากกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ออกมาโพสต์ปริศนาถึงคนคนหนึ่ง บอกว่า ไถเงินสีเทามา 50 ล้าน บริจาคเอาหน้า 3 ล้าน สร้างภาพกลับใจ พอรู้ความจริงแล้วหมดรัก ไม่อยากให้มีอาชีพสร้างประเด็นข่าวตี ๆ แล้วไถ ใครยอมจ่ายก็ไม่พูดถึง เราจะยกย่องคนแบบนี้เป็นฮีโร่หรือ
เบื้องต้น ยังไม่ทราบว่าทนายตั้มสื่อถึงใคร กระทั่งออกมาแถลงในช่วงเช้าวันที่ 23 มีนาคม 2566 ว่า ข้อมูลเรื่องไถเงินสีเทา ได้มาจากหลานนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งการรับเงินมีตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อนที่สารวัตรซัวจะตกเป็นข่าว ส่วนการนัดเจรจาเรื่องเงิน มีการนัดเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ คนสนิทของสารวัตรซัว, ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง และตำรวจที่เป็นมือขวานายชูวิทย์ มีการถือเงิน 2 ถุง รวม 10 ล้านบาท และมีการเรียกเงินกลุ่มคนเหล่นี้เป็นทอด ๆ
ส่วนเงิน 50 ล้านบาทที่ตนบอก
เป็นการจ่ายเงินดิจิทัลเข้าบัญชีกล่องดวงใจของนายชูวิทย์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา
พร้อมยันชัด ไม่ได้รับเงินจากเว็บพนันออนไลน์เพื่อมาแฉ
และไม่ใช่เกมการเมือง
อ่านข่าว : ทนายตั้ม เปิดศึก ชูวิทย์ เบื้องหน้าแฉพนันออนไลน์ เบื้องหลังไถเงินเขา รับเละ 50 ล้าน
ล่าสุด สปริงนิวส์ รายงานว่า นายชูวิทย์ แถลงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ทนายตั้มควรมีจุดยืนเรื่องนี้ ทุกสิ่งที่ตนพูดคือเรื่องจริง ตนอยากรู้ว่าเขารับงานใครมา การที่ที่มีคนเอาเงินมาให้ แล้วตนบริจาค จะให้พูดยังไง จะให้ตน 10 ล้าน 20 ล้าน หรือ 50 ล้าน ก็ไม่มีความหมาย เพราะตนมีทรัพย์สินมากกว่านี้เยอะ สังคมต้องตัดสินแล้วว่าตนเป็นคนอย่างไร เป็นคนบาปหรือไม่ ตนไม่เคยบอกว่าเป็นคนดี ฮีโร่ การที่ตนต่อสู้เรื่องทุจริต ถ้าตนทำได้ไม่ดีคงยืนไม่ได้จริง ๆ
ส่วนเรื่องเงิน ตนไม่ได้เรียกรับเงิน มีคนเอามาให้เอง เรื่องของเรื่องคือ พนันออนไลน์ มันมีผลประโยชน์อยู่แล้ว การเอาเงินไปให้ใครถือว่าน้อยมากกับสิ่งที่เขาได้ แต่จะมีใครเหมือนตนที่ออกมายอมรับ ตนบอกว่าไม่เอา แต่เขาก็ทิ้งไว้ให้ ตนจึงเอาไปบริจาค
เรื่องสารวัตรซัวให้คนเอาเงินมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ความจริงเอามาให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ส่วนประเด็นที่ทนายตั้มบอกถึงกล่องดวงใจ คงหมายถึงลูกชายตน ถ้าหากผิดจริงก็ขอให้มาจับกุม ลูกชายตนเล่นบอล แต่ไม่เล่นพนัน
เรื่องรูปถุงเงินที่เอาออกมาแฉ ตนไม่มีรูปนี้ ที่แน่ ๆ ไม่ได้ถ่ายที่นี่แน่นอน ถ้าให้ตน 10 ล้านจริง ทำไมตนต้องเก็บ 4 บริจาค 6 หรือจะไม่บริจาคก็ได้ เพราะไม่มีใครรู้ก็เขาให้ตนแล้ว ถ้ามีหลักฐานอื่นก็เปิดเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก สปริงนิวส์
จากกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ออกมาโพสต์ปริศนาถึงคนคนหนึ่ง บอกว่า ไถเงินสีเทามา 50 ล้าน บริจาคเอาหน้า 3 ล้าน สร้างภาพกลับใจ พอรู้ความจริงแล้วหมดรัก ไม่อยากให้มีอาชีพสร้างประเด็นข่าวตี ๆ แล้วไถ ใครยอมจ่ายก็ไม่พูดถึง เราจะยกย่องคนแบบนี้เป็นฮีโร่หรือ
เบื้องต้น ยังไม่ทราบว่าทนายตั้มสื่อถึงใคร กระทั่งออกมาแถลงในช่วงเช้าวันที่ 23 มีนาคม 2566 ว่า ข้อมูลเรื่องไถเงินสีเทา ได้มาจากหลานนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งการรับเงินมีตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อนที่สารวัตรซัวจะตกเป็นข่าว ส่วนการนัดเจรจาเรื่องเงิน มีการนัดเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ คนสนิทของสารวัตรซัว, ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง และตำรวจที่เป็นมือขวานายชูวิทย์ มีการถือเงิน 2 ถุง รวม 10 ล้านบาท และมีการเรียกเงินกลุ่มคนเหล่นี้เป็นทอด ๆ
อ่านข่าว : ทนายตั้ม เปิดศึก ชูวิทย์ เบื้องหน้าแฉพนันออนไลน์ เบื้องหลังไถเงินเขา รับเละ 50 ล้าน
ชูวิทย์ แถลงกลับ
ล่าสุด สปริงนิวส์ รายงานว่า นายชูวิทย์ แถลงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ทนายตั้มควรมีจุดยืนเรื่องนี้ ทุกสิ่งที่ตนพูดคือเรื่องจริง ตนอยากรู้ว่าเขารับงานใครมา การที่ที่มีคนเอาเงินมาให้ แล้วตนบริจาค จะให้พูดยังไง จะให้ตน 10 ล้าน 20 ล้าน หรือ 50 ล้าน ก็ไม่มีความหมาย เพราะตนมีทรัพย์สินมากกว่านี้เยอะ สังคมต้องตัดสินแล้วว่าตนเป็นคนอย่างไร เป็นคนบาปหรือไม่ ตนไม่เคยบอกว่าเป็นคนดี ฮีโร่ การที่ตนต่อสู้เรื่องทุจริต ถ้าตนทำได้ไม่ดีคงยืนไม่ได้จริง ๆ
ส่วนเรื่องเงิน ตนไม่ได้เรียกรับเงิน มีคนเอามาให้เอง เรื่องของเรื่องคือ พนันออนไลน์ มันมีผลประโยชน์อยู่แล้ว การเอาเงินไปให้ใครถือว่าน้อยมากกับสิ่งที่เขาได้ แต่จะมีใครเหมือนตนที่ออกมายอมรับ ตนบอกว่าไม่เอา แต่เขาก็ทิ้งไว้ให้ ตนจึงเอาไปบริจาค
เรื่องสารวัตรซัวให้คนเอาเงินมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ความจริงเอามาให้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ส่วนประเด็นที่ทนายตั้มบอกถึงกล่องดวงใจ คงหมายถึงลูกชายตน ถ้าหากผิดจริงก็ขอให้มาจับกุม ลูกชายตนเล่นบอล แต่ไม่เล่นพนัน
เรื่องรูปถุงเงินที่เอาออกมาแฉ ตนไม่มีรูปนี้ ที่แน่ ๆ ไม่ได้ถ่ายที่นี่แน่นอน ถ้าให้ตน 10 ล้านจริง ทำไมตนต้องเก็บ 4 บริจาค 6 หรือจะไม่บริจาคก็ได้ เพราะไม่มีใครรู้ก็เขาให้ตนแล้ว ถ้ามีหลักฐานอื่นก็เปิดเลย
