x close

หมอ เล่าเคสคนไข้ป่วยเรื้อรัง รักษาไม่หาย ขอหมอด้วยรอยยิ้มสุดท้าย.. ผมขอตายได้ไหม

 
                  หมอ เล่า เคสคนไข้กับรอยยิ้มสุดท้าย.. หลังป่วยโรคเรื้อรัง รักษาไม่หาย "ผมขอตายได้ไหม" เผยแนวคิด คนไข้เป็นเจ้าของชีวิตของตัวเอง หมอไม่มีสิทธิ์ยื้อชีวิตใคร ถ้าเขาไม่ต้องการ


พยาบาล
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

                 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ผู้ใช้ TikTok @doctorpusaranya ซึ่งเป็นคุณหมอ โพสต์คลิปแชร์ประสบการณ์ "กำลังใจในการเป็นหมอ Ep.3 คนไข้ไม่มีญาติ #ยิ้มสุดท้าย ถ้าโรครักษาไม่หาย และต้องตาย ก็ต้องตายอย่างเป็นสุขด้วยค่ะ"

                 โดยคุณหมอเล่าให้ฟังว่า หมอเคยโดนคนไข้ขอว่า "ผมขอตายได้ไหมครับ" เรื่องนี้เกิดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นหมอทำงานที่โรงพยาบาลชุมชน มีคนไข้คนหนึ่งเป็นผู้ชายวัยกลางคน ป่วยด้วยโรคปอดเรื้อรัง คือเป็นถุงลมโป่งพองระยะสุดท้าย ที่ต้องพึ่งพาออกซิเจนตลอดเวลา ต้องใช้ออกซิเจนที่บ้านด้วย

                 โดยคนไข้รายนี้เข้าโรงพยาบาลบ่อยมาก เดือนละ 1-2 ครั้ง ด้วยปัญหาหอบ ปอดติดเชื้อ วนไปแบบนี้และทุกครั้งก็ต้องมาพ่นยา ต้องให้ยาฆ่าเชื้อ ถ้ายาฆ่าเชื้อไม่ได้ผลก็ต้องส่งไปโรงพยาบาลที่ใหญ่ขึ้น บางครั้งต้องถูกใส่ท่อหลายต่อหลายครั้ง เป็นอย่างนี้ทุกเดือน

พยาบาล
ภาพจาก TikTok @doctorpusaranya

                 หมอเห็นคนไข้รายนี้มาหลายเดือน ไม่เคยเห็นว่าเขามีความสุขเลย เวลาไปราวด์ (ตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในห้องพักผู้ป่วย) คนไข้ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยตอบ แม้บางครั้งไม่ได้มีอาการหอบเหนื่อย แต่คนไข้รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก

                 เรื่องก็เป็นแบบนี้ไปจนครั้งสุดท้ายที่คนไข้รายนี้ถูกส่งไปโรงพยาบาลใหญ่อีกครั้งหนึ่ง แล้วพอให้ยาไปไม่กี่วันก็กลับมา แต่ตอนที่กลับมาที่โรงพยาบาลชุมชนนั้น อาการก็ไม่ดีขึ้น ไข้ยังไม่ลดแล้วก็เริ่มหายใจเร็วขึ้น ซึ่งหมอก็ดูแล้วน่าจะต้องไปโรงพยาบาลใหญ่อีกแล้ว เพราะถ้าอยู่รักษากับหมอต่อมีโอกาสที่จะต้องใส่ท่อช่วยหายใจฉุกเฉิน

                 หมอจึงเข้าไปคุยกับคนไข้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ คนไข้ขอหมอว่า "ผมขอไม่ไปได้ไหม ผมขอตายได้ไหมหมอ" ตอนนั้นมันก็มีอะไรหลายอย่างเข้ามาในความคิดของหมอ แต่อย่างหนึ่งก็คือ..

                 "คนไข้เป็นเจ้าของชีวิตของตัวเอง หมอไม่มีสิทธิ์ยื้อชีวิตใคร ถ้าเขาไม่ต้องการ โดยที่มีเกณฑ์ทางการแพทย์รองรับ ว่า ถ้าเจ็บป่วยด้วยโรครื้อรัง รักษาไม่หาย มีแนวโน้มแย่ลง ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลแบบประคับประคอง และเมื่อถึงเวลาสุดท้ายของชีวิต ไม่ควรได้รับการยื้อชีวิตเพื่อทรมาน โดยที่คนไข้ต้องไม่เป็นโรคซึมเศร้าอยู่ ไม่มีอาการเจ็บป่วยรุนแรงที่ทำให้รู้สึกอยากตายกะทันหัน"

                 หมอบอกคนไข้รายนี้ไปว่า หมอไม่มีสิทธิ์ทำให้ใครตาย ไม่มียาที่ทำให้ใครตาย ไม่มีสิทธิ์ทำการุณยฆาต แต่สิ่งที่หมอทำได้ก็คือ ถ้าเวลานั้นมาถึงหมอจะมียาที่ช่วยทำให้คนไข้หลับสบายนะคะ ซึ่งวินาทีนั้นเป็นครั้งแรกที่หมอเห็นรอยยิ้มของคนไข้ในรอบหลายดือน เป็นรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ใจ และหมอรู้สึกดีใจมาก โดยคนไข้ยกมือขึ้นมาไหว้ขอบคุณและยิ้มให้หมอ ซึ่งเป็นยิ้มสุดท้าย...

                 ทั้งนี้ คุณหมอเล่าอีกว่า ไม่กี่วันหลังจากนั้น เวลาสุดท้ายของชีวิตคนไข้ก็มาถึง ยาที่หมอให้คือ "มอร์ฟีน" ให้ไปเพื่อทำให้หลับสบาย ไม่ให้คนไข้ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการก่อนเสียชีวิต ดังนั้น ไม่ได้ให้เพื่อให้ใครตายไวขึ้น ไม่ได้กดการหายใจใคร แล้วคนไข้รายนี้ก็จากไปอย่างสงบ

                 อย่างไรก็ตาม คุณหมอกล่าวทิ้งทายว่า "หมอให้ความสำคัญกับการเสียชีวิต การตายอย่างเป็นสุข พอ ๆ กับการรักษาโรค เพราะมนุษย์ถ้าเกิดเลือกได้ เราก็คงจะอยากตายอย่างมีความสุขและสงบค่ะ"

                 งานนี้ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมทัศนคติของคุณหมออย่างล้นหลาม พร้อมขอบคุณคุณหมอ สำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ที่มีประโยชน์และดีมาก คุณหมอได้ทำหน้าที่ทูตสวรรค์แล้ว พาจิตคนไข้ไปสู่สุคติภูมิด้วยจิตที่สงบและเป็นสุข เป็นบุญกุศลใหญ่หลวง


พยาบาล

พยาบาล

พยาบาล

พยาบาล

พยาบาล

พยาบาล

พยาบาล

พยาบาล

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หมอ เล่าเคสคนไข้ป่วยเรื้อรัง รักษาไม่หาย ขอหมอด้วยรอยยิ้มสุดท้าย.. ผมขอตายได้ไหม อัปเดตล่าสุด 24 มีนาคม 2566 เวลา 18:20:58 21,688 อ่าน
TOP