ศาลสั่งชูวิทย์ ห้ามพูดโยงกัญชากับภูมิใจไทย หลังด่าพรรคบ้ากัญชา เจ้าตัวยันสู้ไม่ถอย

ภูมิใจไทยไม่ยอมแพ้ ยื่นคำร้องอีก

          หลังจากนั้น พรรคภูมิใจไทย จึงยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ขอไต่สวนฉุกเฉินอีก และมีการไต่สวนจนเสร็จสิ้น มีรายละเอียดว่า นายชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ประกาศข้อเท็จจริงต่าง ๆ ตามคำฟ้องในที่สาธารณะ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่า พรรคมีนโยบายที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และสมาชิกของพรรคก็ไม่เหมาะสมที่จะได้รับเลือกเป็น ส.ส.

          ตามข้อเท็จจริง สิ่งที่นายชูวิทย์พูด ยังมิได้พิสูจน์ว่าเป็นความจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ จึงเป็นการกระทำซ้ำและกระทำต่อไป โดยจำเลยมีการกล่าวต่อบุคคลทั่วไป มีข้อความว่า "ไม่เอาภูมิใจไทย ไม่เอาพรรคบ้ากัญชา" รวมถึงมีข้อความอีกว่า "พรรคขายกัญชา เยาวชนติดกัญชาเพราะมึง" ทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้ว่าหมายถึงตัวพรรคภูมิใจไทย

ศาลสั่งห้ามชูวิทย์พูดเรื่องกัญชากับภูมิใจไทย

          ส่วนประเด็นที่ขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว ห้มจำเลยกระทำการรณรงค์ไม่ให้ประชาชนเลือกโจทก์ในการเลือกตั้ง ส.ส. เรื่องนี้มีกฎหมายห้ามไว้โดยเฉพาะไว้แล้ว คือ มาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ศาลไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวอีก

          ด้วยเหตุนี้ ศาลจึงมีคำสั่งห้ามจำเลยกล่าวหรือแสดงการกระทำด้วยวิธีการใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องกัญชาที่เกี่ยวข้องกับโจทก์ ระหว่างการพิจารณาจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ชูวิทย์ ลั่น ไม่มีวันถอย แม้ศาลสั่งห้าม

          หลังจากศาลมีคำพิพากษา นายศุภชัยได้นำหมายศาลไปให้นายชูวิทย์ ส่วนนายชูวิทย์ก็โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ว่า พรรคภูมิใจไทยร้องศาลให้ปิดปากผม ในการต่อต้านกัญชา ขอไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองชั่วคราว
          ผมขอยืนยันว่า เป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนในการต่อต้านกัญชาที่ไร้กฎเกณฑ์ควบคุม การปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เกิดจากพรรคภูมิใจไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

          การต่อต้านจะดำเนินการต่อไป ไม่มีวันถอย แม้จะนำกฎหมายมาปิดปากผม แต่ความจริงคือ ความร้ายแรงมาจากใคร ? พรรคใด ? ประชาชนย่อมรู้อยู่แก่ใจ

          ผมไม่อุทธรณ์ แต่จะเดินหนักขึ้นเพื่อพิสูจน์ผลร้ายของกัญชา ศุกร์นี้ยื่นฟ้องทนายตั้ม เวลา 9 โมงเช้า และ 5 โมงเย็นเดินหน้าต่อต้านกัญชาต่อไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไม่มีคำว่าถอยครับ

ชูวิทย์ เปลี่ยนใจ เตรียมอุทธรณ์

          นายชูวิทย์ กล่าวว่า เมื่อพรรคการเมืองนำนโยบายกัญชาซึ่งเป็นนโยบายสาธารณะมาใช้กับประชาชน ไม่ได้ผ่านกฎหมายลูก ไม่มีการโหวตในรัฐสภา ไม่มีประชาพิจารณ์ มีแต่คำสั่งจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนโยบายนี้มีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่กลับนำเสนอแต่ข้อดี ตนในฐานะประชาชนก็มีสิทธิพูดถึงข้อเสียได้ เพื่อผลประโยชน์ของสังคม ไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสี เพราะตนไม่ใช่ผู้สมัครของพรรคการเมือง

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้