x close

น้องมะลิ เผยสาเหตุหน้าบวม กับอุทาหรณ์เตือนสายฉีด... หวิดดับ-เกือบตาบอด !

 
          น้องมะลิ พริตตี้สาวคนดัง เผยสาเหตุทำให้หน้าบวม มีหนอง อักเสบหนัก หลังฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า เตือนเป็นอุทาหรณ์สายฉีด ครั้งนี้เกือบตาย หวิดตาบอด

น้องมะลิ

          ทำเอาหลายคนตกอกตกใจ ทั้งสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น และอดเป็นห่วงไม่ได้ เมื่อเห็นภาพของ น้องมะลิ พริตตี้สาวคนดัง ที่มีอาการหน้าบวมแดง เหมือนแพ้อะไรสักอย่าง ดูอักเสบ เป็นขุย ซึ่งก็มีคนสงสัยว่าเป็นเพราะการฉีดสารเข้าที่ใบหน้าแล้วมีอาการแพ้ หรือเป็นความผิดพลาดจากการฉีดหน้าหรือเปล่า

          อ่านข่าว : น้องมะลิ พริตตี้คนดัง ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อักเสบทั้งหน้าจนเนื้อตาย หมอรุมแนะทางออก

น้องมะลิ

          ล่าสุด (6 เมษายน 2566) น้องมะลิ ก็ได้ออกมาอัปเดตถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไล่เรียงไทม์ไลน์ เล่าสาเหตุที่ใบหน้าของเธอกลายเป็นแบบนี้ ให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจสายฉีด เมื่อพลาดขึ้นมาที หวิดดับ เกือบตาบอดเลยทีเดียว สาเหตุเพราะฉีดกับ "หมอกระเป๋า" โดยเรื่องราวทั้งหมดมีดังนี้

          "อุทาหรณ์เตือนใจสายฉีด !! #หวิดดับ #หวิดตาบอด #หมอกระเป๋า

          เมื่อคืนวันที่ 17 มี.ค. มะลิได้ฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มทั้งสองข้าง หลังฉีดเสร็จไม่ถึงชั่วโมง เริ่มมีรอยช้ำขึ้นที่หน้าแก้มฝั่งขวา และแสบโพรงจมูกขวามาก ๆ น้ำมูกไหลไม่หยุด

          เช้าวันที่ 18 มี.ค. มะลิบินไปโปรโมตภาพยนตร์ บังเอิญรัก ข่อยฮักเจ้า ที่จ.อุดรธานี ซึ่งมะลิไม่สามารถเข้าร่วมงานวันนั้นได้ เพราะต้องรีบไปโรงพยาบาลให้คุณหมอดูอาการ เนื่องจากระดับความแสบโพรงจมูกมากขึ้น น้ำมูก-น้ำตาด้านขวาไหลไม่หยุด

          คุณหมอเจาะเลือดให้ยาฆ่าเชื้อ-ยาแก้แพ้ และให้ยามาทานตามอาการ แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุได้

น้องมะลิ

          เช้าวันที่ 19 มี.ค. มะลิข้ามมาโปรโมตหนังที่ฝั่งลาว วันนี้อาการแย่ลงกว่าเดิม หน้าเริ่มบวมขึ้น ปากบวม มีแผลในปากหลายจุด และเหมือนมีสิวขึ้นเล็กน้อย

          เช้าวันที่ 20 มี.ค. ตื่นเช้ามาด้วยความรู้สึกทั้งเสียใจ ทั้งกลัว และสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เพราะอาการทั้งหมดของเมื่อวานมันคูณสิบในวันนี้ เพียงแค่ข้ามคืนตุ่มที่เหมือนสิวขึ้นเยอะกว่าเดิมมาก

          มะลิรีบบินกลับกรุงเทพฯ พอลงเครื่องก็รีบไปหาคุณหมอเฉพาะทางด้านผิวหนังที่รู้จักทันทีชื่อ พี่หมอลิ้ง (ไม่ใช่คนที่ฉีดให้นะคะ และไม่ใช่คลินิกที่ไปฉีด) ที่ ATier Wellness & Surgery พี่หมอเห็นปุ๊บบอกเลยว่าอาการนี้คือ "ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด" ซึ่งอันตรายมาก ๆ เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่ Flow เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงในจุดต่าง ๆ ได้ เสี่ยงมากที่ฟิลเลอร์จะไหลเข้าตา เนื้อเยื่อตายบริเวณที่เลือดไม่ไปเลี้ยง

          ส่วนตุ่มที่มะลิคิดว่าเป็นสิว ความจริงแล้วมันคือหนอง จากการอักเสบรุนแรง !! ต้องรีบฉีดสลายด่วน พี่หมอลิงค์จึงให้คำปรึกษาอย่างละเอียดและให้การรักษาเบื้องต้น ทั้งฉีดสลายฟิลเลอร์ ฉายแสงลดการอักเสบและสมานแผลบนผิว ให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือด etc. หลังจากนั้นจึงส่งเคสไปให้ทาง รพ.รามาธิบดีต่อ

          การฉีดสลายฟิลเลอร์ ไม่ใช่ฟิลเลอร์ 1cc = ฉีดสลาย 1 ขวด ปัจจุบันมะลิฉีดไป 45 ขวดแล้ว บอกเลยว่าฉีดสลายแม่งเจ็บโคตร ๆๆๆ ยิ่งผิวมะลิอักเสบมากทำให้ยาชาที่ฉีดไปแทบไม่ได้ผล

          สภาพจิตใจช่วงอาทิตย์แรกแย่มาก ๆ ยอมรับเลยว่ามีคิดสั้นบ่อยครั้ง คิดแค่ว่าอยากจบชีวิตตัวเองตอนนี้ เพื่อที่จะไม่ต้องทนเจ็บต่อไปอีกแล้ว อยากวิ่งออกไปให้รถชนให้มันเจ็บครั้งเดียวแล้วจบไปเลยยังดีกว่า

          ส่วนคนที่ฉีดให้มะลิเขาไม่ได้เป็นหมอ เขาเป็นพยาบาล  ถ้ามะลิรักษาตัวเองเรียบร้อยเมื่อไหร่จะรีบดำเนินคดีกับเขาทันที

          มะลิอยากแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง และเตือนเพื่อน ๆ หลายคนไว้ การฉีดฟิลเลอร์ไม่ผิด แต่คนที่ฉีดให้ต้องเป็นหมอจริง ๆ ต้องมี **ประสบการณ์ฉีดมาเยอะ** มีความชำนาญและความรู้ว่าต้องฉีดอย่างไรจริง ๆ เพราะต่อให้เป็นหมอฉีดแล้วพลาดขึ้นมา อย่างน้อยเขาก็ทราบสาเหตุและรักษาแก้ไขได้ถูกวิธี ทันท่วงที

          สายฉีดควรเช็กคลินิก เช็กคุณหมอ เช็กฟิลเลอร์ให้ชัวร์ว่าของแท้หรือเปล่า อย่าเห็นแก่ของถูก และถึงเป็นยาที่ผ่าน อย. ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะปลอดภัย เพราะมีโอกาสเกิดอันตรายจากการฉีดที่ผิดพลาด ผิดตำแหน่ง เพราะไม่ได้เรียนเฉพาะทาง ไม่รู้ว่าบริเวณไหนอันตราย

          ข้อห้ามข้อควรระวังในการฉีด รวมทั้งข้อแนะนำหลังการฉีดที่เหมาะสม อย่าชะล่าใจเด็ดขาด เพราะเวลามันพลาดขึ้นมา มันจะเจ็บหนัก จ่ายหนักกว่าเดิมหลายเท่า หรือบางครั้งมันอาจจะทำให้เราพิการขั้นตาบอด หรือ ไม่สามารถรักษาให้หายกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้อีก !

          มะลิยังถือว่าโชคดีมากที่ยังสามารถรักษาได้ทันและกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ บทเรียนนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิตเลยก็ว่าได้

          มะลิอยากขอบคุณครอบครัว เพื่อน ๆ คนรอบข้างที่คอยซัพพอร์ตและให้กำลังใจตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และ ขอขอบคุณ รพ.รามาธิบดี ที่รับเคสมะลิมาดูแล ซึ่งปกติแล้วทาง รพ. จะไม่รับเคสหมอกระเป๋า แต่ด้วยความเมตตาของท่านอาจารย์หมอทุก ๆ ท่าน ที่มองข้ามกฏเกณฑ์ในส่วนนั้นและช่วยเหลือให้มะลิสามารถกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นอีกครั้ง ขอบพระคุณคุณหมอ คุณพยาบาลทุก ๆ ท่านที่ดูแลจนมะลิหาย ขอบคุณจากใจจริง ๆ ค่ะ

          สุดท้าย... มะลิหวังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับมะลินี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุก ๆ คนที่ผ่านเข้ามาอ่านได้นะคะ เพราะมะลิไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีกเลย"



น้องมะลิ

น้องมะลิ

น้องมะลิ

น้องมะลิ

น้องมะลิ

น้องมะลิ

น้องมะลิ

น้องมะลิ

น้องมะลิ

น้องมะลิ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
น้องมะลิ เผยสาเหตุหน้าบวม กับอุทาหรณ์เตือนสายฉีด... หวิดดับ-เกือบตาบอด ! อัปเดตล่าสุด 7 เมษายน 2566 เวลา 09:47:33 18,857 อ่าน
TOP