x close

จากปากคนสนิท เคยได้ชิมน้ำสมุนไพรจาก แอม ไซยาไนด์ พออาการไม่ดี มีส่งน้ำให้ !

          คนสนิท แอม ไซยาไนด์ ที่แอมขอให้เป็นพยาน เปิดใจใน โหนกระแส เล่าเหตุเคยได้ชิมน้ำสมุนไพรจากแอมแล้วมีอาการผิดปกติ อีกฝ่ายดูเป็นห่วง ยื่นน้ำให้ แต่ไม่กล้ารับ


          ยังคงติดตามข่าวเกี่ยวกับคดี แอม ไซยาไนด์ อย่างต่อเนื่อง สำหรับรายการ โหนกระแส ที่ล่าสุด (5 พฤษภาคม 2566) นอกจากจะสัมภาษณ์นางเอกสาว ไอซ์ ปรีชญา ที่สั่งซื้อไซยาไนด์จากแหล่งเดียวกับแอมแล้ว ยังมีอีกประเด็นใหม่น่าสนใจ หลังจากทาง "บิ๊กโจ๊ก" บอกว่าทางแอมต้องการเจอกับคนสนิทคนหนึ่งเพื่อให้มาเป็นพยาน แล้วเขาจะพูดทุกสิ่งกับตำรวจฟังว่ามันคืออะไรบ้าง

          โดยทางรายการได้สัมภาษณ์บุคคลดังกล่าว นามสมมุติว่า ก. เขาบอกว่าเขาคือคนที่แอมต้องการพบ เป็นคนสนิทที่แอมต้องการให้ไปเป็นพยาน มีการพูดคุยกับทาง คุณ ก. (นามสมมุติ), อ้อ ชลิดา พะละมาตย์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิวินวิน และ ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกลรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่ข้อมูลสภาทนายความ


- ไปรู้จัก แอม ได้ยังไง?


          ก. (นามสมมุติ) : รู้จักแอมจากการที่เราไปสถานที่แห่งนึงที่เราไปใช้บริการ ระหว่างรอคิวทำธุระก็ได้นั่งเก้าอี้ติดกัน เลยคุยกัน ทักทายกันตั้งแต่ช่วงปี 63 จากนั้นก็สนิทสนมกันในฐานะคนรู้จัก คุยกันถูกคอ แล้วบ้านอยู่จังหวัดใกล้กัน เล่นแชร์ด้วยกัน

- ในวงแชร์ของคุณมีคนเสียชีวิต ?

          ก. (นามสมมุติ) : มีค่ะ เป็นครูอ๊อด แต่คนละเรื่องกับที่แอมเขาเป็นท้าวนะคะ

- สนิทสนมถึงขึ้นไปไหนมาไหนกับแอมตลอดเวลา ?

          ก. (นามสมมุติ) : "ไม่ตลอดเวลา ไปเป็นบางครั้ง เวลาเขามาหา เขาก็จะพาไปเราก็ไปกับเขา แอมไม่ได้เป็นหนี้ดิฉัน ดิฉันเป็นมือแชร์วงที่ 3 ราคา 20,000 บาท มีสมาชิก 6 คน เสียชีวิตไป 1 คน แอมไม่ใช้ท้าวแต่เป็นน้องนัท แอมเป็นสมาชิกที่ไปเล่นที่อื่น คือไม่ทราบและไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาเป็นท้าวแชร์


- เห็นว่าเคยไปกับแอมแล้วได้ดื่มอะไรบ้างอย่างด้วยแล้วมีอาการแปลก ๆ ?

          ก. (นามสมมุติ) : จริงค่ะ ก็คือไปทานข้าวกับแอม เขาก็จะชอบเล่าประสบการณ์การขายของใน tiktok เขาทำแล้วคนเข้าแถวซื้อกันเลย หนูอยากให้พี่ช่วยชิมหน่อย ตอนนั้นยังไม่ได้เล่นแชร์กัน แต่ก็มีหนี้สินกันอยู่นะ คือดิฉันลงทุนกับเขา เขาบอกจะเอาเงินไปปล่อย ดิฉันก็ให้เขาไป 200,000 บาท

          หลังจากนั้นเราก็คุยกันผ่านทางไลน์ตลอด น้องเขาบอกเดี๋ยวจะไปจังหวัดที่พี่อยู่ ไปกินข้าวกันหน่อยนะแล้วเขาก็เล่าเรื่องน้ำสมุนไพรให้ฟัง หลังจากทานอะไรกันเสร็จแล้วกำลังจะขึ้นรถ น้องเขาบอกว่าน้ำสมุนไพรมันอยู่ในรถหนู เขาก็เปิดลังโฟมออก ตรงนี้เรารู้สึกว่าเขาใส่ใจเรานะ ด้วยลังโฟมลังใหญ่แต่มีน้ำแช่อยู่ขวดเดียว เรามองว่าเขาใส่ใจและตั้งใจเอามาให้เรา เรามองไปแบบนั้น เขาก็เปิดน้ำส่งมาให้เรากิน

          ก่อนชิมเราเห็นว่ามีตรายี่ห้ออยู่แต่ไม่ได้บอกส่วนผสม เรามองแล้วก็บอกเขาไปว่าพี่ว่าสีมันไม่ผ่านนะ มันดำเหมือนยาแก้ไอน้ำดำ อยู่ในขวดคล้าย ๆ กับที่เขาใส่ขายน้ำเก๊กฮวย เขาก็เปิดฝาให้เรา เราก็กินไปประมาณ 1 ส่วน 4 ของขวด มันรสชาติขมอย่างเดียวเลย จืด ไม่มีรสหวานอะไรเลย ก็เลยส่งคืน ก็บอกเขาว่าพี่ไม่กินแล้ว ถึงแม้มันจะมีประโยชน์แต่สีไม่ผ่าน รสชาติมันแปลก ๆ คือมันขมนำอย่างเดียวเลยดียังไงพี่ก็ไม่กิน เขาก็บอกมาว่าพี่แล้วจะแกะออกไหมว่ามีอะไรบ้าง เลยบอกว่าน่าจะเป็นกระบองเพชรนะแล้วเราก็ไม่กินเลย คืนให้เขาไปทันที

- หลังจากนั้นคุณมีอาการยังไงบ้าง ?

          ก. (นามสมมุติ) : กินไปประมาณ 3 นาที พอเราขึ้นรถได้ เรารู้สึกเหมือนมันมีตัวอะไรวิ่งอยู่ในตัวเรา วี๊ดขึ้นมา รู้สึกเวียนหัว หน้ามืด ตาลายทันที หายใจไม่ออก มือไม่มีแรง ตัวเองก็พิงพนักพิง แล้วมีความรู้สึกว่ามันเหมือนอาการแบตเตอรี่จะหมด มันค่อย ๆ ผ่อนลง ตัวเรารู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เลยหยิบโทรศัพท์โทรหาเขา บอกเขาว่ากลับมานี้เอาอะไรให้พี่กิน เขาก็มานะ มาด้วยอาการตกใจ ถามว่าพี่เป็นอะไรบ้าง แล้วก็ส่งน้ำให้กิน บอกกินน้ำก่อนไหม เราบอกไปว่าไม่กิน

          บังเอิญว่าสามัญสำนึกตอนนั้นรู้ได้อย่างเดียวว่า สิ่งที่เรากินไปมันเป็นสารผิดปกติ แล้วมันเข้าไปในร่างกายเรา เราจะทำยังไงต่อ เขาก็ถามว่าไปโรงพยาบาลไหมพี่ เขาจะเรียก 1669 ให้ เรารู้สึกว่าระยะทางจากตรงนั้นถึงโรงพยาบาลประมาณ 20 นาที เราคิดแล้วว่าไปโรงพยาบาลเราคงไม่รอด เราพยายามหายใจแต่มันเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว เลยหันไปเห็นน้ำ 1.5 ลิตร ถ้าไปโรงพยาบาลหมอก็คงใช้วิธีการล้างท้อง


- ตอนนั้นคิดว่าเราจะตายไหม ?


          ก. (นามสมมุติ) : "ก้ำกึ่งนะคะ คิดว่าเราเป็นอะไรไม่รู้ จะว่าเหมือนอาการเมาก็ไม่เชิง แต่มันไม่ใช่การเมาตอนนั้นเราก็คิดขึ้นมาได้ว่าหลักการล้างท้องของหมอคือใส่เข้าทางจมูก แล้วลงกระเพาะ ใจนึกเอาน้ำ 1.5 ลิตรนี่แหละ กินเข้าไปทั้งหมดให้มันแน่น แล้วล้วงคอให้อ้วกออกมา จากนั้นรู้สึกเหมือนดีขึ้น เลยหยิบอีกขวดนึงมาทำแบบเดิม ก็เริ่มหายใจได้ อาการชาปลายมือปลายเท้ามันเบาลง แต่อาการเวียนหัวยังมีอยู่

- ขณะนั้นแอมก็ยืนอยู่ข้าง ๆ ?


          ก. (นามสมมุติ) : แอมก็ยืนอยู่ข้าง ๆ อาการเขาเหมือนตกใจ บอกว่าพอไหมพี่เอาน้ำที่หนูไหม แต่เราเห็นน้ำในมือเขามีรอยเปิดเลยไม่เอา

- ตอนนั้นคิดว่าเขาวางยาเรา ?


          ก. (นามสมมุติ) : โทร. ไปถามเขาเลยว่าเอาอะไรให้พี่กิน เขามาที่รถเราเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้เอาอะไรให้เรากินนะ เป็นน้ำสมุนไพรจริง ๆ ตอนนั้นก็สงสัยนะ แต่พฤติกรรมที่เขาไม่ได้ทิ้งเราไปไหน เขายืนตัวแข็งทื่อเขาถามว่าเขาช่วยอะไรได้บ้าง เราก็บอกว่าไม่ต้อง เดี๋ยวเราจัดการตัวเอง เขาก็ถามว่าพี่ขับรถไหวไหมหลังจากที่ดีขึ้นเราก็บอกต่างคนต่างกลับไป แล้วเราก็กลับไป ไปในสภาพที่เหยียบรถแค่ 20 ไปเรื่อย ๆ ถึงบ้านก็ให้ลูกสาวซื้อน้ำมะพร้าวมา 3 ถุง เคยจำจากที่พ่อสอนไว้ว่าน้ำมะพร้าวล้างพิษได้ ก็กินเข้าไป 3 ถุง อาการก็ค่อย ๆ ดีขึ้น

          ประมาณ 4 ทุ่ม น้องเขาก็ทักมาว่าพี่เป็นยังไงบ้าง ก็ได้เล่าให้ฟัง เขายังถามเรา เป็นห่วงเป็นใยเรา เขาไม่เคยลบแชต ไม่มีพฤติกรรมปิดบังอะไร เขาจะถามเหมือนคนทั่วไป เป็นยังไงบ้าง ไปหาหมอรึเปล่า พี่เป็นอะไร พี่สันนิษฐานว่าพี่เป็นอะไร ก็เลยบอกเขาว่าไปถามสิว่าน้ำสมุนไพรเขาใช้อะไรสกัด เขาก็บอกว่าเป็นหัวบีทรูทอะไรซักอย่าง ตอนเช้าเราก็เลยไปตลาดให้แม่ค้าคั้นน้ำบีทรูทให้ดู ตัวนี้มันจะออกเป็นสีชมพูม่วง ๆ ก็เอามากิน 2 ขวด ดูว่าเรามีอาการแบบนั้นไหม ก็ไม่กิน เราไม่กลัว เราอยากทดลอง


- มั่นใจว่าน้ำสมุนไพรขวดนั้นไม่ใช้บีทรูทแล้ว ?

          ก. (นามสมมุติ) : ค่ะ ก็บอกเขาไปว่าไม่ใช่บีทรูทแล้ว มันต้องเป็นอย่างอื่น ก็ปรึกษาเพื่อนที่เป็นหมอ ว่าถ้าเกิดการที่เรากินอะไรเข้าไปจากหัว ตามหลักการและทฤษฎี หัวก็คือราก มันจะดูดซึมสารพวกนี้ได้ แม้ว่าเรากินเข้าไปแล้วมันจะทำให้เราเป็นอย่างนี้ เพื่อนหมอบอกว่าพี่ถ้ากินอย่างนั้นคนก็ตายกันทั่วประเทศแล้ว เพื่อนให้ข้อคิดมาว่าเขาเจตนาใส่ให้พี่รึเปล่า อยู่ให้ห่าง นี่คือคำเตือนของเพื่อน หลังจากนั้นเราก็ยังพูดคุยทางไลน์ตามปกติ

จากแชตคุณยืนยันกับทางแอมเลยว่าต้องมีสารเคมีอยู่ในนัำสมุนไพร ?

          ก. (นามสมมุติ) : ใช่ค่ะ คือเขาก็บอกว่าน้ำสมุนไพรตัวนี้เขาซื้อกินประจำอยู่ เรื่องนี้เกิดขึ้นในวันที่ 25 พ.ย. ปี 63 เราจำได้จากหลักฐานในแชต เรื่องเกิดประมาณบ่ายโมง

- ในเมื่อคุณโดนมาขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณถึงจะกระโดดลงจากรถหนี ?

          ก. (นามสมมุติ) : คือไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

- บอกว่ามีบุคคลคนนึง โทร. หาว่า คุณต้องไปเป็นพยานให้แอม และแอมอยากเจอคุณในทัณฑสถาน และคุณมีชื่ออยู่ในนั้นด้วยจริงไหม ?


          ก. (นามสมมุติ) : จริงค่ะ เราพูดกันในเชิงความคิดส่วนตัวนะคะ นี่คือความคิดแบบพี่ เขาช้ำอยู่แล้วเราก็ไม่อยากจะไปซ้ำ พี่เคยเป็นลูก พี่เคยมีแม่  พี่เคยมีลูก ผู้หญิงสิ่งที่ห่วงที่สุดคือแม่กับลูก เมื่อเขาอยู่ในนั้นแม่เขาก็เป็นทุกข์ ลูกเขาจะเป็นยังไง แอมเขาก็เป็นทุกข์ว่าแม่กับลูกเขาจะอยู่ยังไง คุณแม่ของแอมก็ฝากพี่ให้เอาเงินให้ไปน้องหน่อย แม่ไปไม่ได้ ตรงนี้คิดว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ช่วยได้ก็ช่วยไป

- วันนี้เขายืนยันขอให้คุณเป็นพยาน ในมุมไหน ?

          ก. (นามสมมุติ) : อันนี้ไม่ทราบว่าในมุมไหน แต่รายชื่อเขาเยี่ยมและฝากของเป็นชื่อพี่ค่ะ ก็ไม่รู้ว่านอกจากเราแล้วจะมีใครอีกรึเปล่า


- ในส่วนของผู้เสียชีวิตรายอื่น ๆ คุณรู้จักไหม ?

          ก. (นามสมมุติ) : รู้จักน้องอ๊อด น้องน้อย น้องก้อย

- วันที่ 25 พ.ย ปี 63 เป็นวันเสียชีวิตของหนิม  เป็นเหยื่อที่อยู่มุกดาหาร เขาได้รับยาจากแอม ส่งไปให้ตอนเช้า แล้วหนิมก็ทานยาในวันนั้น แล้วเสียชีวิต วันเดียวกัน 25 พ.ย. ปี 63 ที่ จังหวัดเพชรบุรี ทางฝั่งของคุณยืนยันว่าได้กินน้ำบางอย่างและอยู่กับแอมในเวลานั้นในช่วงบ่าย คุณยืนยันนะ ?

          ก. (นามสมมุติ) : ยืนยันค่ะ

- คิดว่าคดีนี้แอมมีส่วนเกี่ยวข้อง ?

          ก. (นามสมมุติ) : ไม่สามารถตอบได้ แฟนก็ถามว่าใช่ไหม เราก็บอกแฟนว่าเรากินจริง แต่เราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าที่เรากินมันใช่ตัวนั้นที่เขาใส่ลงไปไหม เหตุการณ์มันผ่านไปจนเราไม่ได้สงสัยเขาไง เราเพิ่งมาสะกิดใจตอนที่ข่าวออก เรามีความรู้สึกว่าเราก็กินนะ แต่เราไม่ตาย หรือเราจะแพ้หัวอันนั้นจริง ๆ มันเป็นเรื่องที่ตอบไม่ได้ เรากินนะแต่เรารอดมาได้

- คุณอ้อไปเจอ เคส คุณ ก. (นามสมมุติ) มาได้ยังไง ?

          อ้อ : จากหวยทิพย์ที่เราตามหากาเหว่าก่อน ตัวตนเขาก็คือเป็นเพื่อนกับนิตยา ชื่อคุณฝน จากนั้นแอมก็โยงให้กลุ่มหวยทิพย์มาหาคุณ ก. คือเจ้ามือหวยรายใหม่ แล้วก็นัดกลุ่มหวยทิพย์มาเจอกับคุณ ก. เพื่อจะได้ลงทุนเริ่มต้นเล่นหวยกันใหม่ แต่คนกลุ่มนั้นไม่เชื่อใจ อ้อเลยขอข้อมูลคุณ ก. ก็สอบถามเขา ลงพื้นที่เลยทราบข้อเท็จจริง ตอนแรกเราตามหาแค่เรื่องหวย แต่พอคุยไปคุยมา เขาก็เล่าให้ฟัง แต่ในส่วนที่พี่เขาจะเป็นพยานอ้อไม่ทราบเลยจริง ๆ อันนี้ต้องแล้วแต่พี่เขา เขารู้แค่ว่าแอมใส่ชื่อในเคสของก้อย แต่เคสอื่นพี่เขาไม่รับรู้

          ก. (นามสมมุติ) : เขาบอกพี่ ยังไงขึ้นศาลเป็นพยานให้หนูนะ ประมาณนี้ เขาบอกตลอดว่าเขาไม่ได้ทำถามว่าเชื่อไหม โดยพฤติกรรมนิสัยเขานะ อันนี้เป็นความจริงที่เราสัมผัสจากเขา เขาเป็นคนขี้สงสาร เป็นคนชอบไปทำบุญ ชอบซื้อของมาฝากเป็นนิสัยเขาเลย หมาเป็นแผลนิดนึง ถึงเขาจะไม่รู้จัก เขาก็พยายามจะรักษาให้ เวลาไปตลาดด้วยกัน ปลาเป็นหนูไม่กิน ปูเป็นหนูไม่ต้ม เขาจะอยู่ในแนว ๆ นี้

- ในหลักจิตวิทยา หน้านึงเขาอาจจะเป็นคนดี เพื่อบังหน้าอีกหน้านึงเข้าไว้ คุณเคยได้ศึกษาหลักจิตวิทยาเรื่องนี้ ?

          ก. (นามสมมุติ) : ก็เคยนะ ก็คิดเหมือนกันนะคะ แต่การโดนของเราเราไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะหัวตัวนั้น ที่มันอาจจะเจอสารเคมีเยอะ เรายังมองในมุมโลกสวยอยู่ หลังจากนั้นเราก็ยังคบกับเขามาตลอดนะ

- คุณ ก.สามารถปฎิเสธในการเป็นพยานให้แอมได้ไหม ?

          ทนายแก้ว : ก็เป็นสิทธิ์ของคุณ ก. การเป็นพยานมันสิทธิ์โดยเสรีอยู่แล้วแล้วแต่รูปคดีของทนายความตรงนี้ไม่ก้าวล่วง

          ก. (นามสมมุติ) : เดี๋ยวจะกลับไปพิจารณา ถ้าการเป็นพยานแล้วทำให้รู้ว่าเขาผิดหรือไม่ผิด ความจริงกระจ่างก็ยินดีนะคะ แต่ถ้าเป็นในส่วนที่ทำให้เข้าใจผิดไปอีกแบบนึงก็คงจะไม่ค่ะ เพราะเราไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาผิดหรือไม่ผิด

- แล้วเขาให้คุณไปเป็นพยานเรื่องอะไร ?

          ก. (นามสมมุติ) : ตัวเราเองก็ไม่รู้ เขาแค่บอกว่าขึ้นศาลให้พี่เป็นพยานนะ เขาทิ้งท้ายไว้แค่นี้ ตอนนั้นเห็นข่าวก้อย เลยถามเขาไป เขาเลยบอกว่าพี่ต้องเป็นพยานให้หนูนะว่าหนูไม่ได้ทำ เราก็ถามเขานะว่าแล้วพี่จะรู้ได้ยังไงว่าเธอทำหรือไม่ทำ เขาก็บอกว่าเวลาศาลถามพี่ก็ตอบตามข้อเท็จจริงที่พี่รู้ รู้อะไรก็รู้แค่นั้น แต่ถามว่าเขาทำไหมเราไม่รู้ค่ะ


- คุณยังติดใจเรื่องของคุณอยู่ ?

          ก. (นามสมมุติ) : มันผ่านมานานแล้ว ไม่ติดใจอะไรทั้งนั้นเพราะเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาวางยาเรารึเปล่า ณ ตอนนั้น เพียงแต่เป็นข้อสงสัยส่วนตัว  เวลาไปไหนมาไหนเราก็ระวังตัวกับคนคนนี้แค่นั้นเลย ถามว่าเราจะเอาคืน จะแก้แค้นเขาไหม ไม่มีความคิดนี้อยู่ในหัว เพราะเราไม่ได้ตายไง ถ้าเราตายแล้วเขาทำจริงก็เป็นเวรกรรมของเขา

- ถ้า 14 ศพตอนนี้มันเกิดขึ้นจากแอมจริง ๆ คุณคิดว่ายังไง ?

          ก. (นามสมมุติ) : ถ้าเขาทำเขาก็ต้องรับโทษไปแค่นั้นเลยค่ะ ถ้าได้ขึ้นไปในชั้นศาลดิฉันก็จะพูดแบบนี้ค่ะข้อเท็จจริงมันเป็นแบบนี้ เล่ากี่รอบก็เป็นแบบนี้ แต่ถามว่าติดใจเขาไหม ปกติเราไม่ผูกพยาบาทกับใครอยู่แล้ว เราไม่ตายก็คือจบ

- เรื่องราวของหนิม ที่สามีเขาออกมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ทำคนทั้งประเทศสะเทือนใจ เรารู้สึกยังไงบ้าง ?

          ก. (นามสมมุติ) : ก็รู้สึกไม่ต่างกัน เพราะวันที่เกิดเหตุการณ์ก็มีลูกชาย 10 ขวบ กับลูกสาว 1 ขวบ นั่งอยู่บนรถด้วย ลูกเห็นอาการแม่ตลอด ลูกเป็นคนส่งน้ำมาช่วยแม่จากด้านหลัง นั่นคือสิ่งหนึ่งที่เราไม่ให้แอมเรียกรถ 1669 เพราะถ้าเรียกมาแล้วลูกเราสองคนจะอยู่ยังไง ลูกก็อยู่ในรถกับเรา เราก็พยายามประคองรถกลับให้ถึงบ้านให้ได้

- หลังจากนี้จะคุยกับแอมต่อ ?

          ก. (นามสมมุติ) : คิดว่าคุยได้นะ แต่จะเป็นพยานไหมต้องปรึกษาสามีก่อน

- เรื่องนี้จะยังไงต่อไป ?

          อ้อ : พูดไม่ออกเหมือนกัน เราก็ต้องหาจิ๊กซอว์ตัวอื่น กำลังดูเรื่องรถของครูอ๊อด ที่มีการแจ้งมาว่าออกรถป้ายแดง แล้วแอมพาเอารถคันนี้ไปขาย ตอนนี้มีใบแจ้งหนี้มาที่บ้าน เรากำลังตรวจสอบอยู่ กำลังตามหาศูนย์นั้นที่แอมพาครูอ๊อดไปออก แปลว่าเขาต้องมีนายทุนมาซื้อรถคันนี้

          ก. (นามสมมุติ) : เรื่องนี้พี่รู้ค่ะ รู้จากน้องอ๊อดมาเล่าให้ฟังว่าเขามีความเครียดเรื่องนี้ เพราะเขาไม่สามารถเอาเงินไปจ่ายค่างวดรถได้ ก็มีหมายมาเรียกไป เขาก็มาถามเราว่าแกจะทำยังไง เขาก็เลยเล่ารายละเอียดให้ฟัง แล้วเขาก็บอกว่าหนูมีอะไรจะสารภาพกับพี่ ในช่วงเย็นและเป็นประโยคสุดท้ายที่ได้คุยกันดูข่าวอยู่ ถามว่าตกใจไหม มันมีนิดนึงตอนที่เขาหายไปเขาบอกไปเสียที่โรงพยาบาล แต่ข้อมูลที่ข่าวออกมันไม่ใช่ เขาบอกว่าเขามีโรคประจำตัว ต้องอัดคีโม เราก็หวังว่าเขาจะรอดกลับมา เราก็บอกว่าจะไปเยี่ยมน้องที่โรงพยาบาล ทางแอมบอกว่าไม่สามารถไปเยี่ยมได้ เพราะเขาไม่ให้เข้า แต่เพิ่งมารู้ว่าจริง ๆ แล้วครูอ๊อดไม่ได้ไปโรงพยาบาล แกเสียที่บ้าน ข้อมูลไม่ตรงกัน

- แล้วคุณรู้ไหมว่า ทางแอมกับสามีไปทวงเงินครูอ๊อดว่าไปติดหนี้เขา ?

          ก. (นามสมมุติ) : อันนี้ไม่ทราบค่ะ เพราะไม่รู้รายละเอียดอะไรบ้าง

- สุดท้ายแล้วอยากจะฝากอะไรบ้าง ?


          อ้อ : อยากจะฝากถึงทนายความ ขอเป็นตัวแทนของผู้เสียชีวิตทั้งหมดว่าทุกสิ่งทุกอย่างตอนนี้มันกระจ่างแล้ว  แม้แต่เด็ก 10 ขวบ ดูข่าวก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งที่ทนายความมั่นใจว่าจะต่อสู้เพื่อคุณแอมในทุกคดีอย่างที่ทนายแก้วพูดว่าถ้าใครที่เป็นทนายความในคดีนี้แล้วเห็นสิ่งผิดปกติหลายอย่าง ก็จะคุยกับลูกความว่าให้หมอบ แต่ในส่วนของอ้ออยากให้ทนายขุดหลุมแล้วก็อยู่ในหลุมไปเลยดีกว่าในคดีนี้ ปัญหาตรงที่ว่าขุดยังไงเจอ นี่พูดในมุมมองของญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งอ้อทำเคสมาทุกวัน จนอ้อเองก็เครียดต้องเข้าโรงพยาบาลเลยเข้าใจหัวอกคนที่สูญเสียทุกคน เอาอะไรมาหลุดก่อน

          ทนายแก้ว : ทนายแต่ละคนมีของเราไม่ว่ากัน แต่ผมอยากจะพูดในหลักกฎหมาย หลักของความเชื่อมโยงของพยาน มันมีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกัน ทั้งหมดทำงานร่วมกัน ดังนั้นที่ทนายบอกมีช่องโน่นช่องนี่ก็เรื่องของเขา แต่ความเห็นของผมศาลท่านพิจารณาคดีแบบนี้ ไม่น่ายากเลย เพราะมันเป็นเรื่องของพยานแวดล้อมที่มันมีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกัน มันไม่มีอะไรมองไม่ได้เลยแม้ว่าศพจะถูกเผาไปแล้วแต่ก็ตาม แต่ร่องรอย บาดแผลมันมีที่มาที่ไปอยู่แล้วครับ

- ถ้าแอมได้ออกมาจากเรือนจำ เขายื่นน้ำให้เราดื่มจะดื่ม ?

          ก. (นามสมมุติ) : ไม่ดื่มค่ะ ไม่มีอะไรก็ไม่ดื่ม หลังจากเกิดเหตุการณ์แต่ยังไปมาหาสู่กัน พี่ไม่เคยทานอะไรของแอมอีกเลยค่ะ แล้วจะถามเขาเสมอเวลาเขาเอาอะไรมาให้ว่าวันนี้จะใส่ยาอะไรให้พี่กิน ถึงเขาไม่ติดคุกในทุกวันนี้ก็ไม่กินอะไรจากเขาอีกแล้วค่ะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จากปากคนสนิท เคยได้ชิมน้ำสมุนไพรจาก แอม ไซยาไนด์ พออาการไม่ดี มีส่งน้ำให้ ! โพสต์เมื่อ 5 พฤษภาคม 2566 เวลา 21:05:18 11,322 อ่าน
TOP