สองตายาย วัยกว่า 90 ปี บ่นไม่อยากมีชีวิต หวั่นเป็นภาระลูกหลาน ตัดสินใจยิงภรรยาป่วยติดเตียง ก่อนลั่นไกดับตาม
วันที่ 2 มิถุนายน 2566 เดลินิวส์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ตำรวจ สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุสามียิงภรรยาแล้วยิงตัวเองตายตาม รวม 2 ศพ ภายในบ้านหลังหนึ่งในซอยพหลโยธิน 35 แยก 7/1 จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกอยู่ในพื้นที่ประมาณ 70 ตารางวา ภายในห้องนอนชั้นล่างพบศพ จ.ส.อ. สุดใจ อายุ 95 ปี เจ้าของบ้าน ใช้อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด.38 ยิงขมับขวาทะลุขมับซ้าย 1 นัด นั่งหงายหลังทับศพ นางจรีย์ อายุ 94 ปี ภรรยา โดยมีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด เช่นเดียวกัน ส่วนอาวุธปืนของ จ.ส.อ. สุดใจ เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุพักอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย จ.ส.อ. สุดใจ อดีตจ่าทหารบก, นางจรีย์ ภรรยา, ลูกชาย ลูกสะใภ้ หลาน และน้าสาว หลายปีก่อนหน้านี้นางจรีย์ เคยผ่าเข่าทั้ง 2 ข้าง จากนั้นก็นอนป่วยติดเตียงมาตลอด โดยมี จ.ส.อ. สุดใจ ดูแลใกล้ชิดมาหลายปี
ช่วงเช้า จ.ส.อ. สุดใจ บอกกับลูกชายก่อนออกไปทำงานว่า พ่อกับแม่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว มีอายุมากไม่อยากเป็นภาระให้ลูกหลาน แต่ลูกชายไม่ได้เอะใจออกไปตามปกติ ส่วนหลานออกไปทำงานเช่นกัน ขณะเกิดเหตุมีอยู่ในบ้าน 3 คน ผู้ตาย 2 คน และน้าสาวมีอายุมากแล้ว เมื่อลูกชายกลับเข้าบ้านก็พบเหตุสลดใจดังกล่าว
เบื้องต้น คาดเป็นเหตุสามียิงภรรยา แล้วยิงตัวเองตายตาม เนื่องจากเห็นว่าตัวเองมีอายุมากแล้ว ไม่ต้องการให้เป็นภาระลูกหลาน ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไร ปืนเป็นของ จ.ส.อ. สุดใจ ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ลูกชายไม่ติดใจเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามจะได้นำศพส่งชันสูตรโรงพยาบาลตำรวจ ก่อนให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
