ลูกค้าสุดทน แวะร้านชาบูเปิดสาขาใหม่ สั่งไปออร์เดอร์ไม่ออก แถมซูชิเบิร์นมีกลิ่นไหม้ เจ้าของร้านโบ้ยผิดเองที่วอล์กอิน อึ้งซ้ำทักขอโทษแต่บล็อกใส่ เจออีกรายแฉเพิ่มจองไปก็เฟลแรง
วันที่ 5 มิถุนายน 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ลงกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค เล่าประสบการณ์ชวนผิดหวังหลังไปกินอาหารที่ร้านซูชิแห่งหนึ่ง ซึ่งเพิ่งเปิดร้านเป็นวันแรกไม่กี่วันก่อน เริ่มแรกก็เอะใจเพราะเห็นการตกแต่งร้านที่ดูยังไม่เสร็จเรียบร้อย ประตูร้านยังไม่มี ก่อนจะถามผู้จัดการร้านว่าพร้อมให้บริการแน่ใช่ไหม ก็ได้รับการยืนยันว่าพร้อม และสอบถามว่ากลุ่มตนได้จองไว้หรือไม่ จึงแจ้งว่าเป็นการวอล์กอินแบบไม่ได้จอง
จากนั้นผู้จัดการก็หาโต๊ะให้นั่งในร้านตามปกติ ซึ่งกลุ่มตนเองจ่ายราคาเต็มคนละ 523.25 บาท ไม่ได้ใช้โปร มา 4 จ่าย 2 เนื่องจากซื้อคูปองไม่ทัน
นอกจากนี้ เมนูที่พบปัญหาคือ ซูชิ (เบิร์น) ทุกชนิด มีรสชาติขมเหมือนไหม้ แต่ดูจากภายนอกไม่ไหม้ จึงไปแจ้งให้ร้านตรวจสอบว่าเกิดจากความผิดพลาดหรือตั้งใจให้รสชาติแบบนี้ แต่เชฟนั้นไม่ได้ชี้แจงอะไร กลุ่มตนจึงได้คุยแค่กับผู้จัดการ ซึ่งเขาก็ไม่รู้เช่นกัน ตนจึงเล่าปัญหาที่เจอให้ฟัง สักพักมีป้าซึ่งเป็นเจ้าของร้านเดินเข้ามาพูดคุยแทน แต่กลับแจ้งกลุ่มตนว่า วันนี้ร้านไม่ได้รับลูกค้าวอล์กอิน และอาหารนั้นสต็อกไว้สำหรับลูกค้าที่จองเท่านั้น
หลังจากได้ฟังก็รู้สึกเหวอกับประโยคนี้ รวมทั้งรู้สึกโกรธมาก จึงถามไปว่า ถ้าไม่รับวอล์กอินทำไมไม่แจ้งตั้งแต่หน้าร้าน ซึ่งผู้จัดการอ้างว่าเห็นว่าเข้ามาแล้วจึงให้เข้ามา ส่วนเจ้าของร้านอ้างว่าได้แจ้งทางเฟซบุ๊กแล้ว ตนจึงถามว่า เป็นความผิดของตนที่ดูมาไม่ดีหรือไม่ เจ้าของร้านก็ตอบกลับว่า ใช่ ซึ่งหลังกลับมาที่โต๊ะไปย้อนดูในเพจร้านก็ไม่พบว่ามีการแจ้งดังกล่าวแต่อย่างใด ซ้ำตอนคิดเงิน เครื่องออกใบเสร็จก็ใช้งานไม่ได้ โดยร้านบอกว่าจะส่งให้ภายหลังผ่านไลน์ จึงรู้สึกว่าทำไมร้านจึงเปิดรับลูกค้าทั้งที่ไม่มีความพร้อม
แฉร้านลบโพสต์หลังถูกรุมเมนต์ - ทักขอโทษก่อนบล็อกลูกค้า
ความเคลื่อนไหวของร้าน ช่วงค่ำวันนั้นร้านได้โพสต์ขอปิดปรับปรุงร้านชั่วคราว ซึ่งเจ้าของเฟซบุ๊กและลูกค้าบางส่วนเข้าไปคอมเมนต์ถึงปัญหา ก่อนร้านจะลบโพสต์ทิ้ง แล้วโพสต์ใหม่แบบปิดคอมเมนต์ ซึ่งวันที่ 5 มิถุนายน ผู้จัดการร้านได้โทร. มาขอโทษ ในประเด็นที่สื่อสารผิดพลาด แล้วเสนอคืนเงินเต็มจำนวน แต่เจ้าของเรื่องราวปฏิเสธ เนื่องจากมองว่าก่อนหน้านี้ร้านขาดความจริงใจหรือไม่ ต่อมาทางร้านได้เริ่มเข้าไปขอโทษในคอมเมนต์ลูกค้าและทักแชตเจ้าของโพสต์มาขอรายละเอียดเพื่อส่งวอยเชอร์ให้ แต่พอส่งข้อมูลไปกลับพบว่าถูกเพจร้านบล็อกไปแล้ว
ลูกค้าอีกรายแฉเพิ่ม เฟลพอกันแม้สั่งอาหารล่วงหน้า
ภายหลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีลูกค้าอีกรายซึ่งเข้าไปกินในวันดังกล่าวเข้ามาสะท้อนความรู้สึกผิดหวังเช่นกัน เล่าว่า ไปกัน 8 คน สั่งอาหารล่วงหน้าแล้ว ไปถึงร้านระหว่างรอก็ต้องกลุ้มกับแอร์ที่ไม่เย็น นั่งกันร้อน แต่รอไปถึงออร์เดอร์ไม่ออกสักที โต๊ะอื่น ๆ ก็ไม่ได้เช่นกัน ก่อนจะพบว่าเริ่มมีพนักงานเดินถืออาหารออกมาถามตามโต๊ะลูกค้าว่า รับเมนูนี้ไหม จึงงงว่าแล้วที่ออร์เดอร์ไปคืออะไร จึงลุกไปถามเป็นรอบที่ 3 ครั้งนี้ได้ใบมาจดออร์เดอร์ นั่งรอสักพักได้รับแจ้งว่า ออร์เดอร์ที่จดไปหาย จึงจดไปใหม่ ระหว่างนั้นได้กินอาหารจากที่พนักงานเดินมาสอบถามตามโต๊ะ สักพักก็ขอให้จดออร์เดอร์ใหม่อีก จึงเริ่มโมโห เกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ถ้าไม่ติดมาจ่ายเงินไปแล้ว และมากันเยอะ คงตัดสินใจเดินออกไปแล้ว
ทั้งนี้ มีชาวเน็ตวิจาร์ถึงเคสนี้ว่า เจ้าของร้านแทนที่จะหาวิธีแก้ไขตั้งแต่แรก กลับมีพฤติกรรมโทษลูกค้า ทั้งที่ลูกค้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลย รวมทั้งยังคาใจว่าแม้จะมาขอโทษและยืนยันเรื่องการพร้อมชดใช้กับลูกค้า แต่กลับไปบล็อกลูกค้าในเวลาต่อมา แบบนี้ยิ่งทำให้เสียความรู้สึกหนักขึ้นไปอีก เป็นต้น