หญิงท้องจุกอก เพิ่งรู้แฟนหนุ่มกลายเป็นหลานแท้ ๆ สุดสับสนชีวิตควรไปทางไหน ช้ำชีวิตรักเต็มไปด้วยอุปสรรค คนเมนต์เสียงแตก
วันที่ 7 มิถุนายน 2563 เว็บไซต์มิร์เรอร์ รายงานว่า หญิงรายหนึ่งกำลังจมอยู่กับความสับสน
หลังจากเพิ่งรู้ความจริงสุดช็อกว่าแฟนหนุ่มที่เธอกำลังตั้งครรภ์ลูกน้อยให้แก่เขา
แท้จริงแล้วก็คือหลานชายแท้ ๆ ของตัวเอง ที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอยู่
และคำถามสำคัญที่เธอยังตอบตัวเองไม่ได้ในตอนนี้ ก็คือเธอจะต้องทำยังไงต่อไป
โดย เอ (นามสมมติ) หญิงท้องรายดังกล่าว ได้ออกมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นผ่านชุมชนออนไลน์ Reddit เผยว่าเธออายุ 32 ปีแล้ว ส่วนแฟนหนุ่มอายุ 23 ปี พวกเธอรู้มาว่าเขาเป็นเด็กที่ถูกยกให้ครอบครัวอื่นรับเป็นบุตรบุญธรรม และเขาก็อยากจะรู้ที่มาที่ไปของตัวเอง รวมถึงอยากตามหาพ่อแม่แท้ ๆ จึงซื้อชุดตรวจดีเอ็นเอมาลองทดสอบดู แต่ใครจะคิดว่าผลที่ออกมากลับชี้ว่า เขาและเธอมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน
"ฉันไม่รู้จะต้องทำยังไง คนที่รู้เรื่องนี้มีแค่ฉัน มิเกล (แฟนหนุ่ม) และหมอของฉัน มิเกลกับฉันเรามีลูกชายด้วยกันแล้ว และฉันกำลังท้องลูกสาวอยู่ แถมเขายังเพิ่งจะรับลูกชายคนโตของฉันที่เกิดจากแฟนเก่า มาเป็นลูกบุญธรรมของเขาด้วย" เอ เผย
โดย เอ (นามสมมติ) หญิงท้องรายดังกล่าว ได้ออกมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นผ่านชุมชนออนไลน์ Reddit เผยว่าเธออายุ 32 ปีแล้ว ส่วนแฟนหนุ่มอายุ 23 ปี พวกเธอรู้มาว่าเขาเป็นเด็กที่ถูกยกให้ครอบครัวอื่นรับเป็นบุตรบุญธรรม และเขาก็อยากจะรู้ที่มาที่ไปของตัวเอง รวมถึงอยากตามหาพ่อแม่แท้ ๆ จึงซื้อชุดตรวจดีเอ็นเอมาลองทดสอบดู แต่ใครจะคิดว่าผลที่ออกมากลับชี้ว่า เขาและเธอมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน
"ฉันไม่รู้จะต้องทำยังไง คนที่รู้เรื่องนี้มีแค่ฉัน มิเกล (แฟนหนุ่ม) และหมอของฉัน มิเกลกับฉันเรามีลูกชายด้วยกันแล้ว และฉันกำลังท้องลูกสาวอยู่ แถมเขายังเพิ่งจะรับลูกชายคนโตของฉันที่เกิดจากแฟนเก่า มาเป็นลูกบุญธรรมของเขาด้วย" เอ เผย
สำหรับผลดีเอ็นเอของมิเกล พบว่าแม่ผู้ให้กำเนิดเขาก็คือ วาเนสซา วัย 39 ปี พี่สาวแท้ ๆ ของเอ ซึ่งเอชี้ว่าจริง ๆ แล้ววาเนสซาเป็นเด็กมีปัญหา ที่หนีออกจากบ้านไปตั้งแต่อายุ 15 ปี และเธอก็ไม่เคยได้ยินข่าวของพี่อีกนับจากนั้น
หลังพี่สาวออกจากบ้านไป เอก็มุ่งมั่นทำงานเพื่อจะได้รับการเลื่อนขั้น แต่หน้าที่การงานของเธอต้องชะงัก ตอนที่ตั้งท้องลูกชายคนโตกับแฟนคนแรก อย่างไรก็ตาม เขาทิ้งเธอไปทันทีที่รู้ว่าเธอท้อง ก่อนจะติดคุกและถูกฆ่าตายที่นั่น
เอยังคบกับผู้หญิงอีกคนหลังแฟนคนแรกตาย แต่ก่อนที่เธอจะคลอดเพียงไม่นาน แฟนสาวก็ถูกจับติดคุกอีก นับจากนั้นเธอก็มุ่งความสนใจไปที่เรื่องงานและลูกชายเท่านั้น จนกระทั่งเธอต้องย้ายไปอยู่รัฐอื่นเพราะงาน จึงได้พบเจอกับ มิเกล แฟนหนุ่มคนปัจจุบัน
ตอนที่เธอกับเขาพบกัน มิเกลเพิ่งอายุ 20 ปี เป็นนักศึกษาฝึกงานที่มาทำงานในบริษัทเธอ หลังจากที่เธอกับเขาคบหากันจริงจัง ทั้งคู่ก็มีลูกกัน โดยตอนนี้ลูกชายของมิเกลอายุ 2 ขวบ และเธอก็ตั้งครรภ์ลูกสาวมาได้ 7 เดือนแล้ว
แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับดิ่งลงเหว หลังจากมิเกลลองซื้อชุดตรวจดีเอ็นเอมาทดสอบเมื่อปี 2565 เขาอยากจะตามหาแม่แท้ ๆ และรู้ข้อมูลแค่ว่าแม่ชื่อวาเนสซา ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับพี่สาวของเอ
"ฉันหยอกเขาเล่นว่าพี่สาวฉันก็ชื่อเดียวกัน เมื่อเราลองดูรายงานทางการแพทย์ที่มีบันทึกข้อมูลของวาเนสซา มันระบุว่าวาเนสซาเซ็นเอกสารยกสิทธิ์ในตัวเด็กไปตอนเธออายุ 16 ปี และไม่ได้ทิ้งข้อมูลติดต่อใด ๆ ไว้ รวมถึงไม่มีข้อมูลพ่อเด็ก"
ด้วยความสงสัย เอจึงลองสั่งชุดตรวจดีเอ็นเอมาทดสอบด้วย แต่สิ่งที่ตามมากลับเป็นความจริงชวนช็อก เมื่อผลบ่งชี้ว่าเธอกับแฟนหนุ่มกลายมาเป็นน้าและหลานแท้ ๆ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกปั่นป่วนเหมือนอยากอาเจียนออกมา
แต่โชคยังดีที่หมอยืนยันว่าลูก ๆ ที่เกิดจากเธอและมิเกล ไม่มีความผิดปกติใด ๆ ขณะที่ในส่วนความสัมพันธ์ของเธอกับเขานับว่าอยู่ในขั้นวิกฤต โดยตอนนี้แฟนหนุ่มเลือกที่จะไปพักอยู่ที่โรงแรม ส่วนเธอเองก็จมอยู่กับความสับสน ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป แม้ทั้งคู่ต่างจะยังรักกันอยู่ก็ตาม
ขณะที่ชาวเน็ตรายหนึ่งได้เข้ามาแนะนำว่า "ถ้าเป็นฉัน คงจะฝังเรื่องนี้ลงหลุมไป ไม่บอกใครทั้งนั้น คุณมีลูกกับเขาแล้ว 2 คน และทั้งคู่ก็ต้องการในสิ่งเดียวกัน พวกคุณไม่รู้ว่าตัวเองเป็นญาติกันจนกระทั่งสายเกินไป ตราบเท่าที่เด็กสุขภาพแข็งแรงก็ช่างมันเถอะ"
นอกจากนี้ยังมีอีกคนชี้ว่า "ลบข้อมูลของคุณออกจากเว็บไซต์ดีเอ็นเอนั่น มันขึ้นอยู่กับคณแล้ว ปัญหาหลัก ๆ คือเรื่องของพันธุกรรม แต่พวกคุณไม่มีปัญหากันเรื่องนั้น พวกคุณมีลูกด้วยกันแล้ว คุณยังต้องติดต่อกับเขาอีกเรื่อย ๆ ไม่สามารถเพิกเฉยต่อเขาได้หรอก"
ทั้งนี้ พบว่ามีชาวเน็ตอีกรายที่มองว่า จริง ๆ ความสัมพันธ์ของชายหญิงคู่นี้ ดูเหมือนจะผิดมาตั้งแต่ต้น โดยชี้ว่า "คุณอายุ 29 ปี และเริ่มเดตกับเด็กฝึกงานอายุ 20 ปี คุณเป็นหัวหน้าเขาด้วยหรือเปล่า แถมตอนนี้คุณยังมีลูกกับเขาถึง 2 คน โดยที่เขารับลูกคนโตของคุณเป็นบุตรบุญธรรมด้วย ไม่มีใครเห็นความผิดปกติในเรื่องนี้เหรอ ทุกคนแนะนำให้เธอเก็บซ่อนเรื่องนี้และลบข้อมูลดีเอ็นเอ แต่ไม่มีสักคนมองพฤติกรรมของคุณที่เหมือนกับนักล่า"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror