หมอขอร้องทุกข์ ทำงานโดยสุจริต ก็มีสิทธิ์ติดคดี โดนหมายจับได้ !? ส่งหมายไปผิดบ้าน แต่ผู้ใหญ่บอก เขาก็ชอบออกหมายกันแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องออกถูกที่ ไม่อย่างนั้นผู้ร้ายก็จะหลบหนี อย่างนี้ก็ได้เหรอ ?

ทริปวันหยุดล่ม ติด ตม. เพราะโดนหมายจับ
แพทย์หญิงคนดังกล่าว เปิดเผยว่า เธอเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลประจำจังหวัดแห่งหนึ่งในเขตปริมณฑล รับราชการมานาน 13 ปี ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเที่ยว พอมีโอกาสจะได้พาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศในวันที่ 13 เมษายน 2566 กลับต้องสะดุดลง เนื่องจากเธอติด ตม. เพราะมีหมายจับจากศาลแพ่งธนบุรี
ถูกเรียกเป็นพยาน ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี แต่กลับโดนหมายจับ แถมส่งไปผิดบ้าน
สำหรับหมายจับดังกล่าว มาจากการถูกออกหมายเรียกเพื่อเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี ซึ่งต่อมาเป็นคดีความทางแพ่ง แพทย์หญิงผู้เสียหายได้รับหมายเรียกของคดีนี้
-
หมายแรกมาส่งที่โรงพยาบาลและแพทย์หญิงได้ทำหนังสือขอเลื่อนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพราะติดภารกิจไปไม่ได้จริง ๆ และการจะทิ้งงานเพื่อไปตอบคำถามประกอบคดี
เธอยินดีทำ ทำมาตลอด อีกทั้งหนังสือเลื่อนศาลก็ได้รับอยู่ในสำนวนด้วย
- หมายที่สอง ส่งไปที่บ้านของแพทย์หญิง ทั้งที่หมายแรกก็ติดต่อเธอได้ ตอนนั้นก็งง แต่ก็ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
- หมายที่สาม ส่งไปที่เดิม
แต่แพทย์หญิงมีการย้ายบ้านไปก่อนหน้านั้นแล้วเป็นเดือน คำถามคือ "แล้วส่งไปหาใครล่ะ ?" ซึ่งทนายของโจทก์ในคดี ไม่คัดทะเบียนราษฎร์ก่อน
แต่ใช้เอกสารเก่าที่มีอายุเกินกว่า 6 เดือน
ทั้งนี้ แพทย์หญิง เผยว่า เธอรู้สึกงงมากในวันที่เธอไปขึ้นศาล เพราะทางผู้ใหญ่ กล่าวว่า หมายจับที่ส่งไปที่อยู่เก่าของเธอ เขาก็ชอบออกหมายกันแบบนี้แหละ ไม่จำเป็นต้องออกถูกที่ ไม่อย่างนั้นผู้ร้ายก็จะหลบหนี จนเธอคิดว่า "จริงดิ จากหมอกลายเป็นนักโทษหนีคดี ก็ได้เหรอ ?"
ฝากเตือนเพื่อนหมอ - รับคำขอโทษเป็นเงินสด
แพทย์หญิง กล่าวอีกว่า เธอไม่กลัวการขึ้นศาลและยินดีให้ความร่วมมือมาตลอด เธอเคารพวิชาชีพของตัวเองมาก ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจเสมอมา ไม่มีสักนิดที่คิดไว้ว่าจะต้องมาเจอกับเรื่องพวกนี้ พร้อมถามพี่น้องนิติเวชที่ต้องขึ้นศาลกันบ่อยกว่าขึ้นเครื่องไปต่างประเทศว่า คิดเห็นประการใดบ้าง ที่เธออยากออกมาเล่า เพราะมองว่าเรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นกับหมอคนไหนก็ได้ รวมไปถึงอาจจะเกิดขึ้นกับเธออีกเมื่อไรก็ได้เช่นเดียวกัน อยากให้หมอและทุกคนระวังเอาไว้ จะได้ไม่เสียหายเหมือนเธอ
มาถึงจุดนี้ คำขอโทษ ไม่ขอรับปากเปล่าหรือตัวอักษรแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้รับสักคำ ขอรับเป็นค่าดำเนินการ ค่าเสียศักดิ์ศรี ค่าถูกดูหมิ่นเหยียดหยามและค่าเสียหาย แต่มันประเมินค่าได้ยาก

