ครอบครัวใจสลาย สาววัย 33 แน่นหน้าอก ต้องนำส่งโรงพยาบาล เจอฉีดยาสลบ สุดท้ายช็อกเสียชีวิต หลังเจ้าตัวไม่ยอมใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ ย้ายโรงพยาบาล
วันที่ 14 มิถุนายน 2566 ช่อง 3 รายงานว่า พ่อวัย 56 ปี ร้องต่อสื่อมวลชนว่า ลูกสาววัย 33 ปี มีอาการแน่นหน้าอก ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ตอนนั้นหมอพยายามใส่ท่อช่วยหายใจ แต่ลูกไม่ยอม หมอต้องฉีดยาสลบแทน จากนั้น 5 นาที ลูกหงายท้องช็อกหมดสติ ปั๊มหัวใจช่วย 30 นาทีก็ช่วยไม่ไหวจนเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าว เดินทางไปยังหมู่บ้านใน ต.สองแพร อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนางสาววัสสา บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยนายสุชาติ พ่อผู้ตาย เล่าว่า ช่วงเที่ยงคืนวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา ลูกสาวตนหายใจเหนื่อยหอบจึงไปโรงพยาบาล ตนตามไปทีหลัง พอไปถึงพบว่าลูกสาวนั่งอยู่ในห้องช่วยฟื้นคืนชีพ ยังพอมีสติและช่วยเหลือตัวเองได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่บอกตนว่า ต้องใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ตนก็ถามว่า จะใส่ท่อแล้วรักษาตัวที่อื่นไหม ลูกสาวบอกไม่อยากใส่ท่อเพราะอาการยังโอเคอยู่ เจ้าหน้าที่จึงย้ำว่า หากไม่ใส่ท่อจะไม่ส่งตัวไปรักษาที่อื่นได้
หลังจากนั้น ตนถูกเชิญให้ออกจากห้อง แล้วก็ได้ยินเสียงลูกสาวโวยวาย ตนแอบดูเห็นเจ้าหน้าที่พยายามมัดลูกสาวเพื่อที่จะสอดท่อ ลูกสาวไม่ยอม เจ้าหน้าที่จึงฉีดยาให้ลูกสาวไป 1 เข็มจนหมดสติ ตนถามว่า ฉีดยาอะไรให้ เจ้าหน้าที่บอกฉีดยาสลบ เพื่อที่จะสวมท่อช่วยหายใจได้สะดวก แล้วก็เชิญตนออกจากห้องอีกรอบ
ตนติดต่อกับทางโรงพยาบาลเรื่องนี้ ทางนั้นให้ตนไปเรียนหมอเอาเอง ตนอยากรู้ความจริง อยากให้ชี้แจง ถ้าไม่ชี้แจงตนจะไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด
ด้านนายอดิศักดิ์ วัย 25 ปี น้องชาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุพี่สาวลงจากรถปกติ ช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งเดินไปทำบัตรผู้ป่วยเองก็ยังทำได้ ส่วนอาการแน่นหน้าอก เคยเป็นแบบนี้มา 2-3 ครั้ง แต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล ตกใจที่ต้องเสียพี่สาวแบบนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3