แพรรี่ ฟาดเดือด ชาวเน็ตต้านพระเขื่อน ครหาเป็นพระบัณเฑาะก์ไม่ควรบวช ลั่นบวชภายใต้พระวินัย ไม่ได้บวชตามความเห็นชาวเน็ต ไล่ไปศึกษาให้ดีก่อนติเตียนคนอื่น
วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้โพสต์ถึงกรณีที่มีชาวพุทธบางรายต่อต้าน พระเขื่อน หรือ เขื่อน ภัทรดนัย ว่าไม่เหมาะสมในการบวช เพราะเป็นบัณเฑาะก์ ว่าจะไปต่อต้านเขาทำไม ในเมื่อเขาบวชภายใต้กฎเกณฑ์ที่พระวินัยให้การรับรอง ไม่ได้บวชภายใต้ความเห็นชอบจากชาวเน็ต ตนเคยพูดไปหลายครั้งแล้วว่า บัณเฑาะก์มีการอธิบายไว้ชัดในคัมภีร์สมันตปาสาทิกา (คัมภีร์อธิบายพระวินัย) ว่า ในบัณเฑาะก์ 5 ประเภทนั้น บัณเฑาะก์ที่ห้ามการอุปสมบทอย่างเด็ดขาดมีแค่ 2 ประเภทเท่านั้น คือ
1. บุคคลที่ถูกตอนอวัยวะเพศไปแล้ว (ปัจจุบันอาจหมายถึงคนที่แปลงเพศด้วย)
2. บุคคลผู้มีความบกพร่องทางอวัยวะเพศ (ระบุไม่ได้ว่าเป็นเพศไหน)
![แพรี่ ฟาดแบบชัด พระเขื่อน บวชได้มั้ย แพรี่ ฟาดแบบชัด พระเขื่อน บวชได้มั้ย]()
ภาพจาก Instagram koendanai
ถ้ายังไม่กระจ่างก็ให้ไปดูในฎีกาวิมติวิโนทนี (คัมภีร์อธิบายความสมันตปาสาทิกาอีกชั้นหนึ่ง) ซึ่งพระฎีกาจารย์ก็เขียนไว้ชัดเช่นกันว่า ที่บอกว่า 2 ประเภทนี้ ไม่ห้ามการบรรพชา นั่นก็คือหมายถึง อนุญาตการอุปสมบท ศาสนาพุทธในเมืองไทยเป็นเถรวาท ดังนั้นหากมีข้อสงสัยใด ๆ ในพระธรรมวินัย ข้อสงสัยนั้น ๆ ย่อมต้องตรวจสอบด้วยข้ออรรถ ข้อธรรม ซึ่งมีการอธิบายไว้ชัดในคัมภีร์ชั้นต่าง ๆ
ที่สำคัญการบวชจริง ๆ เป็นแต่เพียงขั้นตอนของการรับรอง มีพระอุปัชฌาย์เป็นผู้นำพาและรับผิดชอบในตัวกุลบุตรต่อหมู่สงฆ์ มีหมู่สงฆ์เป็นสักขีพยานในการรับรู้ถึงการมีอยู่ของภิกษุใหม่ การบวชไม่ใช่เรื่องของชาวเน็ต พักก่อน ศาสนาให้พื้นที่กับผู้คนในการฝึกหัดขัดเกลาอุปนิสัย บัณฑิตไม่ติเตียนใครอย่างปราศจากปัญญา
![แพรี่ ฟาดแบบชัด พระเขื่อน บวชได้มั้ย แพรี่ ฟาดแบบชัด พระเขื่อน บวชได้มั้ย]()
ภาพจาก Instagram koendanai
ภิกษุดีเลวไม่ได้วัดกันที่ว่าก่อนบวชมีพฤติกรรมอย่างไร แต่วัดกันที่ว่าบวชแล้วครองตนอย่างไร ซึ่งปาราชิกข้อแรกมาจากพระผู้ชาย ไม่ได้มาจากพระบัณเฑาะก์ จึงอยากฝากไว้ให้คิด แต่ถ้าจะไม่คิดก็แล้วแต่
วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้โพสต์ถึงกรณีที่มีชาวพุทธบางรายต่อต้าน พระเขื่อน หรือ เขื่อน ภัทรดนัย ว่าไม่เหมาะสมในการบวช เพราะเป็นบัณเฑาะก์ ว่าจะไปต่อต้านเขาทำไม ในเมื่อเขาบวชภายใต้กฎเกณฑ์ที่พระวินัยให้การรับรอง ไม่ได้บวชภายใต้ความเห็นชอบจากชาวเน็ต ตนเคยพูดไปหลายครั้งแล้วว่า บัณเฑาะก์มีการอธิบายไว้ชัดในคัมภีร์สมันตปาสาทิกา (คัมภีร์อธิบายพระวินัย) ว่า ในบัณเฑาะก์ 5 ประเภทนั้น บัณเฑาะก์ที่ห้ามการอุปสมบทอย่างเด็ดขาดมีแค่ 2 ประเภทเท่านั้น คือ
1. บุคคลที่ถูกตอนอวัยวะเพศไปแล้ว (ปัจจุบันอาจหมายถึงคนที่แปลงเพศด้วย)
2. บุคคลผู้มีความบกพร่องทางอวัยวะเพศ (ระบุไม่ได้ว่าเป็นเพศไหน)

ภาพจาก Instagram koendanai
ถ้ายังไม่กระจ่างก็ให้ไปดูในฎีกาวิมติวิโนทนี (คัมภีร์อธิบายความสมันตปาสาทิกาอีกชั้นหนึ่ง) ซึ่งพระฎีกาจารย์ก็เขียนไว้ชัดเช่นกันว่า ที่บอกว่า 2 ประเภทนี้ ไม่ห้ามการบรรพชา นั่นก็คือหมายถึง อนุญาตการอุปสมบท ศาสนาพุทธในเมืองไทยเป็นเถรวาท ดังนั้นหากมีข้อสงสัยใด ๆ ในพระธรรมวินัย ข้อสงสัยนั้น ๆ ย่อมต้องตรวจสอบด้วยข้ออรรถ ข้อธรรม ซึ่งมีการอธิบายไว้ชัดในคัมภีร์ชั้นต่าง ๆ
ที่สำคัญการบวชจริง ๆ เป็นแต่เพียงขั้นตอนของการรับรอง มีพระอุปัชฌาย์เป็นผู้นำพาและรับผิดชอบในตัวกุลบุตรต่อหมู่สงฆ์ มีหมู่สงฆ์เป็นสักขีพยานในการรับรู้ถึงการมีอยู่ของภิกษุใหม่ การบวชไม่ใช่เรื่องของชาวเน็ต พักก่อน ศาสนาให้พื้นที่กับผู้คนในการฝึกหัดขัดเกลาอุปนิสัย บัณฑิตไม่ติเตียนใครอย่างปราศจากปัญญา

ภาพจาก Instagram koendanai
ภิกษุดีเลวไม่ได้วัดกันที่ว่าก่อนบวชมีพฤติกรรมอย่างไร แต่วัดกันที่ว่าบวชแล้วครองตนอย่างไร ซึ่งปาราชิกข้อแรกมาจากพระผู้ชาย ไม่ได้มาจากพระบัณเฑาะก์ จึงอยากฝากไว้ให้คิด แต่ถ้าจะไม่คิดก็แล้วแต่