
ผู้โดยสารขึ้นเครื่องสายการบินดัง เอะใจได้กลิ่นคาวแปลก ๆ ก่อนชัดว่าเป็นคราบเลือด อึ้งต้องเช็ดออกเอง ซ้ำทน 8 ชั่วโมงย้ายที่นั่งก็ไม่ได้
วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานประสบการณ์สุดย่ำแย่ของผู้โดยสารบนเที่ยวบินหนึ่ง หลังพบว่าพรมที่อยู่ใต้เท้าชุ่มไปด้วยคราบเลือด ซึ่งนอกจากเขาจะต้องอยู่กับมันไปจนถึงปลายทาง เขายังต้องเป็นคนที่เช็ดและฆ่าเชื้อจากคราบเลือดที่มาเปื้อนสัมภาระของเขาเองอีกด้วย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ ฮาบิบ บัตทาห์ นักข่าวชาวเลบานอน เขาและภรรยา พร้อมแมว 2 ตัว ขึ้นเครื่องบินสายการบินแอร์ฟรานซ์ เดินทางจากปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไปที่เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา แต่เมื่อนั่งไปได้สักชั่วโมงกว่า เขาเริ่มสังเกตถึงความผิดปกติจากกลิ่นคาวแปลก ๆ เมื่อมองลงไปก็พบกับรอยของเหลวสีแดงขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับที่นั่งของเขา
หลังจากนั้น เขาได้แจ้งไปที่ลูกเรือ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร โดยลูกเรือยื่นผ้าจำนวนหนึ่งมาให้เขาเป็นคนเช็ด เขาบอกกับลูกเรือว่าคราบนี้มันมีกลิ่นที่แย่มาก เมื่อเช็ดไปสังเกตว่าผ้านั้นมีสีแดงเหมือนเลือด ซึ่งเข้าต้องใช้ผ้ากว่า 10 ชิ้นในการเช็ดคราบดังกล่าว แถมยังเพิ่งเห็นว่าคราบแดงนั้นเปื้อนใส่สายกระเป๋าของเขาซึ่งวางไว้ใต้เก้าอี้
ต่อมา พนักงานสายการบินดังกล่าวพยายามนึกหาถึงสาเหตุ ก่อนจะตกใจอย่างหนัก เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเกิดเหตุสุดวิสัยจากผู้โดยสารมีอาการตกเลือดในเที่ยวก่อนหน้านี้ โดยพวกเขาอ้างว่าได้ทำการถอดที่นั่งออกไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีการทำความสะอาดพื้นแต่อย่างใด
นอกจากนี้ด้วยที่เที่ยวบินดังกล่าวมีผู้โดยสารเต็มทุกเก้าอี้ เขาจึงไม่สามารถย้ายที่นั่งได้ และต้องนั่งอยู่ที่เดิมไปตลอด 8 ชั่วโมงจนกระทั่งถึงโทรอนโตในท้ายที่สุด
หลังเกิดเรื่อง 3 วัน บัตทาห์ ได้รับการติดต่อจากสายการบินดังกล่าวเพื่อเสนอวอยเชอร์มูลค่า 500 เหรียญ (ราว 17,500 บาท) และรวมทั้งการอาบน้ำแมวทั้ง 2 ตัวที่เขาและภรรยานำขึ้นเที่ยวบินดังกล่าว แต่เขาปฏิเสธข้อเสนอ เพราะมองว่าเคสนี้เป็นเรื่องอันตรายทางชีวภาพที่ร้ายแรง ซ้ำค่าตั๋วของพวกเขานั้นคือเงิน 2,500 เหรียญ (ราว 88,000 บาท) การได้ส่วนลด 20% มันเหมาะสมไหมกับประสบการณ์เช่นนี้ พร้อมทิ้งท้ายว่ามันเป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงและต้องมีใครบางคนรับผิดชอบ
ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post, Insider






