ศาล รธน. รับคำร้องปม พิธา - ก้าวไกล หาเสียงแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

 
          ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องปม พิธา และ พรรคก้าวไกล หาเสียงด้วยนโยบายแก้ไข ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่
          จากกรณีวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 กกต. นำคำร้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมติของ กกต. ที่มีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล กรณีถือครองหุ้นไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น ตามมาตรา 82 วรรค 4 ที่ห้าม ส.ส. ถือครองหุ้นสื่อ ซึ่งจะมีผลให้จากสมาชิกภาพ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่

          อ่านข่าว : กกต. ชงเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ปมพิธาถือหุ้นไอทีวี ผิดไหม - ก้าวไกลโต้กลับ กกต. ผิด ม.157 !

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า วานนี้ (12 กรกฎาคม) ศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารข่าว โดยช่วงหนึ่งระบุว่า เวลา 15.15 น. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 พร้อมเอกสารประกอบคำร้อง เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ ซึ่งสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญลงรับคำร้องในทางธุรการแล้ว จะได้นำเสนอคำร้องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของ ศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 46 ต่อไป"

          ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าวแจ้งผลการประชุม ในการพิจารณาคำร้อง ที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรค 1 หรือไม่

          ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ที่ขอให้วินิจฉัยว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 2 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 หรือไม่ ซึ่งผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง แล้ว แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการตามที่ร้องขอภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ

          กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม ที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ จึงมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยแจ้งให้ผู้ถูกร้องทั้ง 2 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนา และเพื่อประโยชน์แก่การพิจารณา แจ้งอัยการสูงสุดว่าหากอัยการสูงสุดได้รับพยานหลักฐานใดเพิ่มเติม ให้จัดส่งศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว


ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ศาล รธน. รับคำร้องปม พิธา - ก้าวไกล หาเสียงแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง อัปเดตล่าสุด 13 กรกฎาคม 2566 เวลา 15:19:55 31,934 อ่าน
TOP
x close